" แค่กๆๆ " หยวนเซียวไอออกมา ใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย หลิงเฟยเอื้อมมือไปคลำเนื้อตัวของเขาก็พบว่าเขามีไข้ จึงทำโจ๊กไข่ให้เขากิน จากนั้นก็นำยาออกมาให้เขากินแล้วสั่งให้เขาไปนอนพักผ่อน จนกว่าจะหายดี
และกลางดึกของคืนวันที่ 22 พฤศจิกายนหิมะก็ตกลงมาอย่างหนัก มันตกเร็วกว่าปีก่อนในความทรงจำของเธอ หลิงเฟยจึงเข้าไปค้นหาเครื่องทำความร้อนในห้าง และนำออกมาใช้เพื่อให้ร่างกายของเธอและสามีอบอุ่น นอกจากนี้เธอยังต้มน้ำขิงร้อนๆไว้ในกาน้ำอีกด้วย
" ภรรยาคุณเองก็ดื่มน้ำขิงให้มากหน่อย อากาศหนาวเย็นมากนะ "
" ค่ะ ฉันดื่มตลอดเวลาอยู่แล้ว คุณไม่ต้องห่วง"
" งั้นก็ดีครับ " เขายกน้ำขิงขึ้นดื่มก่อนจะเอนตัวลงนอนแหละหลับไปด้วยฤทธิ์ยา
กว่าที่หิมะจะหยุดตกก็ผ่านไปหลายวันแล้ว หยวนเซียวก็หายไข้แล้วด้วย หิมะที่ตกลงมาบนพื้นถนนนั้นหนามาก ร้านค้าต่างๆจึงไม่เปิดขายในช่วงนี้ หลิงเฟยเองก็ตั้งใจเช่นกันว่าหลังปีใหม่สากบเธอจึงจะกลับไปขายต๊อกบกกีต่อ ระหว่างนี้ก็อยู่แต่ในบ้านไป่กอนก็แล้วกัน ถึงยังไงเธอก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน เพราะในมิติของเธอมีมากพอทีที่จะกินไปตลอดชีวิตเลยล่ะ
ตอนกลางคืนหยวนเซียวก็กอดภรรยาหลับไปในทุกคืน จนมาถึงวันสิ้นปี ที่วันนี้เขาชวนเธอกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมที่หมู่บ้านเผิงไหล และนำเงินไปให้พ่อกับแม่ตามที่ตกลงไว้ด้วย
" พรุ่งนี้เช้าเราไปเยี่ยมบ้านเดิมกันนะครับ "
" ค่ะ " ไปก็ไปสิในเมื่อเขาอยากไปเธอก็ไม่จำเป็นต้องห้ามเขา ถึงยังไงพวก่ทานก็เป็นพ่อแม่ของสามีเธอ แล้วทั้งคู่ก็นอนกอดกันจนหลับไป
ตี 5 หลิงเฟยตื่นขึ้นมาทำโจ๊กข้าวกล้องให้เขากินก่อนที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิม เธอนำเงินออกมาแค่ 20 หยวน และขนมเปี๊ยะ 2กล่อง เนื้อหมูสามชั้นอีก 1 ชั่ง ใส่ไว้ในตะกร้าแล้วใช้ผ้าปิดเอาไว้ไม่ให้คนนอกเห็น จากนั้นก็ไปจ้างรถสามล้อให้ไปส่งพวกเขาที่หมู่บ้านเผิงไหล ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็มาหยุดที่หน้าประตูบ้านหยวนแล้ว
" ใครมากันล่ะ " พ่อหยวนเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังจะเดินออกไปเปิดประตู แต่หยวนเซียวเปิดเข้ามาเสียก่อน
" เจ้ารอง "
" สวัสดีครับพ่อ พ่อสบายดีไหม แล้วแม่ละครับ "
" ฉันสบายดี เข้ามาในบ้านก่อนสิ " หยวนชางเอ่ยต้อนรับลูกชายและสะใภ้เข้ามาในบ้านอย่างยินดี ในขณะที่เสี่ยวอิงนั้นอยู่ในห้องของตนเองได้ยินเสียงว่าพี่ชายคนรองกลับมาเยี่มบ้านก็เปิดประตูออกมา ก่อนจะวิ่งเข้ามาหาพี่ชายคนรอง แต่ถูกพี่ชายใหญ่ยื่นมือไปดันเอาไว้ก่อน
" พี่ใหญ่ ฉันจะไปหาพี่รอง ปล่อยนะ " หยวนเสี่ยวอิงเอ่ยขึ้นเสียงดังอย่างไม่พอใจที่ถูกพี่ชายของเธอห้าม
" พี่เข้าใจว่าเธอดีใจ แต่ไม่ต้องวิ่งเข้ามาพรวดพราดแบบนี้ เธอโตแล้ว อีกไม่นานก็แต่งออกไปได้แล้ว เพราะฉะนั้นต้องเว้นระยะกับผู้ชายเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนในบ้านก็ตาม " หยวนซ่งเอ่ยบอกอย่างใจเย็น
" ถูกต้องแล้ว กลับเข้าไปข้างในซะ " หยวนชาง ที่ตอนนี้จ้องมองลูกสาวด้วยแววตาคมดุ นับวันเขายิ่งไม่ชอบใจลูกสาวคนนี้มากยิ่งขึ้น
หยวนเซียวและภรรยาไม่ได้สนใจท่าทางของน้องสาวคนนี้ เขาเพียงแค่มอบเงินตามที่ตกลงไว้และ เนื้อสามชั้นกับขนมให้กับพ่อของเขาเท่านั้น แม้ว่าพี่สะใภ้จะเอ่ยชวนให้เขาอยู่กินข้าวเย็นด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธและอ้างว่าจะต้องกลับไปขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปปักกิ่งเยี่ยมเยื่อนคุณย่าของหลิงเฟยต่อ บ้านหยวนจึงไม่อาจรั้งให้เขาอยู่ต่อไปอีก
ทั้งสองกลับมาร่วมฉลองวันสิ้นปีด้วยกันที่บ้าน ในบรรยากาศที่โรแมนติก เพราะหลิงเฟยนำไวน์ในห้างออกมาเปิดดื่มฉลองกันสองคนกับสามี หยวนเซียวที่เพิ่งได้ลิ้มลองไวน์ครั้งแรกอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
เขาเลียนแบบท่าทางของภรรยาในตอนที่ค่อยๆจิบไวน์ในแก้วทีละเล็กทีละน้อย เขาเห็นเธออมไวน์เอาไว้ในปากก่อนที่จะกลืนลงคอไปอย่างช้าๆ ที่ภรรยาบอกว่าต้องดื่มด่ำกับรสชาติของไวน์เสียก่อนที่จะกลืนลงคอไปเขาทำตามที่เธอสอน และรู้สึกว่ารสชาติดีอย่างที่ภรรยาบอกจริงๆ
“ เป็นยังไงคะสามี คุณอยู่ที่นี่กับฉัน มีความสุขหรือเปล่า “ หลิงเฟยเอ่ยถาม เพราะสังเกตว่าตั้งแต่กลับมาจากบ้านเดิม แววตาของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอคิดว่าเขาคงคิดถึงบ้านเดิมไม่น้อย
“ ครับ ผมมีความสุขดี แบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน ขอบคุณนะครับภรรยาที่เลือกคนไม่เอาไหนแบบผมมาเป็นสามี “ เขาเอ่ยบอกก่อนจะโน้มตัวเธอมากอดรัดเอาไว้ด้วยความรักที่ท่วมท้น
“ เพราะคุณหล่อนี่คะ “ หลิงเฟยเอ่ยบอกอย่างทีเล่นทีจริง ก่อนจะหัวเราะออกมา ทั้งสองดื่มไวน์จนหมดขวดก่อนจะเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน ผลัดกันถูหลังถูหน้าจนมีเสียงครางเล็ดลอดออกมาแผ่วเบา เมื่อถูกหยวนเซียวขบเม้มที่ติ่งหูอย่างแผ่วเบา สองมือกอบกุมเนินเนื้อกลางอกทั้งบีบเค้นจนล้นออกมาตามง่ามนิ้วมือ นิ้วเรียวตวัดไปมาบนเม็ดยอดอก สร้างความเสียวกระสันให้เธอไม่น้อย