หญิงชรายืนมองทำท่าทางครุ่นคิด แต่ถึงกระนั้นหลิงเฟยก็เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว เธอตักใส่กล่องที่ทำจากจากชานออ้ย มีฝาปิดอย่างดี ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่จัดแสดงภายในห้างด้วย
" เรียบร้อยค่ะ ถ้วยแบบนี้ทำมาจากอ้อยค่ะ ไม่เป็นอันตราย "
" ดีมากจ้ะ ถ้าฉันไม่ได้ซื้อกลับไปบ้านคงเสียดายมากแน่ๆ "
หลังจากที่หญิงชรากลับไปแล้ว ลูกค้าคนอื่นๆก็ทยอยเข้ามาซื้อไปลองกิน บางคนเลือกซื้อแค่ไก่ทอดที่เหลืองกรอบน่ากินอย่างเดียว ซึ่งเธอก็ยินดีขายให้ไปในราคาเพียงแค่ชิ้นละ 20 เหมาเท่านั้น ซึ่งถือว่าถูกมากทีเดียว ถ้าเทียบกับค่าแรงรายเดือน 40-80 หยวน
หลังจากที่ขายมาครึ่งวันแล้ว ต็อกบกกีของเธอก็เหลืออยู่ครึ่งกะทะแล้ว ถึงแม้ว่าจะขายไม่ได้มาก แต่แค่นี้ถือว่าดีสำหรับเธอแล้วกับการขายวันแรก ส่วนไก่นั้นเธอหมดไปประมาณ 4 ถุง ถุงละ 2 ชั่ง
พักกินข้าวเที่ยงด้วยกันเสร็จแล้วหยวนเซียวก็บอกให้เธอไปพักก่อน ส่วนเขาจะรับหน้าที่ขายแทนเธอเอง
ไม่รู้ว่าเพราะพ่อค้าหน้าตาหล่อเหลาหรือเปล่าจึงมีแต่บรรดาลูกค้าหญิงสาวมารุมซื้อต็อกบกกีและไก่ทอดจนขายหมดเกลี้ยงในช่วง 4 โมงเย็นเท่านั้น หลิงเฟยนึกหมั่นใส้สามีของตนเองไม่น้อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่สามีของเธอ่อเหลาจริงๆ เธอจึงคิดที่จะใช้หน้าตาของเขาให้เป็นประโยชน์คือ ให้เขาขายน้าร้าน ส่วนเธออยู่หลังร้านคอยเตรียมของอย่างอื่นแทน
" งั้นต่อไปนี้จนกว่าเราจะมีลูกจ้างมาทำงานแทน คุณก็ขายหน้าร้านไปนะคะ ใช้ความหล่อให้เป็นประโยชน์หน่อยนะคะสามี " เธอเอ่ยบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งจ้องมองเขาด้วยแววตาดุจนางมารร้าย
" เอ่อ ครับภรรยา " หยวนเซียวอดที่จะขนลุกกับสายตาของเธอไม่ได้ เขาจึงได้แต่รับคำและช่วยภรรยาเก็บของเข้าไปล้างในครัวเท่านั้น ๆ
กว่าจะเสร็จก็ 6 โมงเย็นพอดี ทั้งสองจึงนำอาหารในมิติออกมานั่งกินในครัวของร้านจนอิ่มแล้วจึงปิดช็อคประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยและกลับบ้านไปด้วยกัน
" วันนี้รายได้ไม่เลวเลยนะคะ แต่สำหรับฉัน ฉันว่าตลาดมืดทำรายได้ให้เรามากกว่านี้หลายเท่า "
" ครับผมเข้าใจแต่ถ้าเราไม่ทำอย่างอื่นบ้าง แล้วจู่ๆร่ำรวยขึ้นมาคนอาจจะสงสัย และอาจจะมีปัญหาตามมาได้นะครับ "
" ค่ะ ฉันเข้าใจข้อนี้ดี แค่บ่นไปงั้นเองค่ะ " หลิงเฟยมองเงินในกล่องไม้ด้วยแววตาเรียบเฉยเพราะวันนี้ขายได้แค่ไม่กี่ร้อยหยวน เทียบกับตลาดมืดไม่ได้จริงๆ
" อาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวผมจะช่วยนวดให้ " หยวนเซียวเอ่ยบอกกับภรรยาแถมยังยิ้มอย่างยั่วยวนอีกด้วย หลิงเฟยจ้องมองเขาพลันรู้สึกเห่อร้อนที่ใบหน้าอย่างช่วยไม่ได้
" ไปอาบน้ำนะคะ " เธอเอ่ยบอกก่อนจะเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว หยวนเซียวหัวเราะหึหึ อยู่ในลำคอจ้องมองเธอเดินผ่านหน้าไป
หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จเขาก็เข้าไปอาบต่อจากนั้นก็มานอนกอดเธอเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยกัน
วันต่อมาเธอตื่นขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัวไปที่ร้านโดยบอกให้เขากินข้าวเช้าที่เธอทำเอาไว้ในครัวก่อนแล้วค่อยตามเธอไปทีหลัง ส่วนตนเองนั้นจะไปเตรียมเอาไว้รอเขาที่ร้านเอง
" กินข้าวอื่มแล้วตามไปนะคะ "
" ไม่รอไปพร้อมกันหรอครับ "
" ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณมีหน้าที่ขาย ส่วนฉันเป็นนางก้นครัวให้คุณเองค่ะ ไปนะคะ " เขาเดินมากดจูบที่หน้าผากของเธอก่อนจะแล่อยให้เธอไปที่ร้านลำพัง เพราะมั่นใจในความปลอดภัยของเธออยู่แล้ว อีกอย่างระหว่างทางไปร้านนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยวสักนิด ร้านค้าอื่นๆก็เริ่มเปิดกันบ้างแล้วด้วย
หลิงเฟยมาเตรียมของที่ร้านลำพัง เธอไม่ได้รู้จักใครในระแวกนี้จึงปิดล็อคประตูอยู่ในครัวเพียงคนเดียว เพื่อเตรียมต็อกบกกีให้สามีขาย รวมทั้งทอดไก่ไปด้วย
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเปิดร้านแล้วก็เตรียมไปเปิดประตูร้านและสามีของเธอก็มาที่ร้านพอดี
" มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ "
" ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เตรียมตัวขายอย่างเดียวก็พอค่ะ นี่ค่ะผ้ากันเปื้อน "
" ครับ " เขารับผ้ากันเปื้อนมาสวมใส่จากนั้นก็ยืนรอขายอาหารให้กับลูกค้าที่เริ่มแวะเวียนเข้ามาซื้อกันบ้างแล้ว
เพราะเป็นช่วงนี้ใกล้เข้าหน้าหนาวแล้ว หลิงเฟยจำได้ว่า อากาศหนาวอย่างมากและนี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการขายผ้านวมที่ตลาดมืด เธอจึงบอกกับสามีว่าจะออกไปข้างนอก สัก 3-4 ชั่วโมงแล้วจะรีบกลับมา
เมื่อเข้ามาในตลาดมืดได้แล้ว เธอจัดการนำผ้าห่มนวมอย่างดีมาวางเรียงเอาไว้บนโต๊ะ มากกว่า 30 ผืน แน่นอนว่าผ้านวมผืนใหญ่เด่นสะดุดตาวางเรียงอยู่นั้นดึงดูดลูกค้าจำนวนมากมาที่ร้านของเธอ ที่มีทั้งสีพื้นและลวดลายดอกไม้น่ารักไม่ฉูดฉาดมากเกินไป
" ผ้านวมนี่หนักกี่ชั่งจ้ะน้องสาว "
" สีพื้นหนัก 5 ชั่ง ราคา 100หยวนค่ะ ส่วนลายดอกไม้นี่หนัก 7ชั่ง ราคาผืนละ 150 หยวนค่ะของพวกนี้มาจากฮ่องกงพี่สาวคนสวยลองจับผ้าดูได้เลยว่าเป็นของดีมากๆ
จริงๆ อยากได้แบบไหนคะ "
" เอาอย่างละผืนจ้ะ "
" ได้เลยค่ะ " เธอรับเงินค่าผ้านวมมาแล้วจัดการม้วนผ้าแล้วมัดเชือกเผื่อให้ผูกค้าถือกลับไปง่ายขึ้น ไม้นานผ้านวมทั้งหมดก็ขายหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ เธอจึงตั้งใจว่าจะกลับหางตาก็สบเข้ากับเด็กชายที่นั่งอยู่ที่พื้น บนผ้ามีกำไลหยกอยู่ 2วงด้วยกัน