ได้แยกบ้าน

1015 คำ
" เอาล่ะเรียบร้อยแล้วนะ มีปัญหาอะไรก็ให้คนไปตามที่บ้านก็แล้วกัน " หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขึ้นแล้วเดินจากไปพร้อมกับหัวหน้าหน่วย " ไปเก็บของเถอะค่ะ " หลิงเฟยเอ่ยบอกสามี ทั้งสองจึงกลับเข้าห้องไปเก็บข้าวของบางส่วนติดตัวไป ที่เหลือทิ้งไว้ในห้องเหมือนเดิมเพราะอีกเดี๋ยวพี่ใหญ่ต้องแต่งงานก็ยกของในห้องให้เขาไปใช้ดีกว่า " เจ้าใหญ่ไปจ้างเกวียนมาให้เจ้ารองสักคันเถอะ " หยวนชางให้ลูกคนโตไปจ้างเกวียนมาช่วยขนย้ายของออกจากบ้าน ส่วนเขากลับเข้าไปในห้องอย่างรู้สึกผิดต่อแม่ของหยวนเซียวที่แท้จริง เรื่องนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าแม่ของหยวนเซียวคือใคร แม้แต่เหมาอี้ซิ่วก็ไม่รู้ว่าตนเองไม่ใช่แม่แท้ๆ ของลูกคนรอง นั่นเพราะก่อนหน้านั้นเหมาอี้ซิ่วประสบเหตุตกเกวียนทำให้สมองกระทบกระเทือนมีอาการหลงลืมไปชั่วขณะ เขาจึงใช้จังหวะนั้นนำหยวนเซียวมาสมอ้างว่าเป็นลูกของเขากับหล่อน และลูกตนโตก็ยังเล็กจึงไม่รู้เรื่องนี้ " พี่รองฉันสามารถไปหาพี่ที่นั่นได้ไหม " หยวนอิงเดินมาถามอย่างกล้าๆกลัวๆ " ไม่ได้ เธอห้ามไปที่บ้านพี่อีก ต่อไปก็ต่างคนต่างอยู่เถอะ " หยวนเซียวเอ่ยตอบ เขาต้องจัดการให้เด็ดขาดแม้ว่าจะเป็นการทำร้ายจิตใจของน้องสาวก็ตาม " ฮึก ฮื่อๆๆ พี่รองใจร้าย " หยวนอิงที่ถูกพี่รองกล่าวเช่นนั้นก็เสียใจและวิ่งออกจากบ้านไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ภายใจจิตในนั้นนึกโกรธแค้นหลิงเฟยไม่น้อยที่แย่งพี่ชายไปจากตน " ช่างเถอะ เดี๋ยวโตขึ้นก็คงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าแม่ของคุณสั่งสอนแกบ้างล่ะนะ " หลิงเฟยเอ่ยบอกสามี จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไปจนพี่ใหญ่หยวนซ่งมาเคาะประตูเรียก เขาจึงเปิดประตูให้พี่ชายเข้ามา " ขอโทษด้วยนะเจ้ารองพี่... " " ไม่เป็นไรครับ พี่ใหญ่รับเงินนี่ไว้ระ เอาไว้เป็นสินสอดให้เสี่ยวชิง " " ไม่ได้พี่รับไว้ไม่ได้หรอก นายเอาคืนไป " " รับไปเถอะค่ะพี่ใหญ่ เอาไว้มีเมื่อไหร่ก็ค่อยเอามาคืนเราค่ะ หรือถ้าพี่ใหญ่มีลูกเมื่อไหร่ก็ถือว่าเรารับขวัญหลานล่วงหน้าเลยแล้วกันค่ะ " เธอเอ่ยบอกอย่างใจกว้าง ส่วนหนึ่งก็อยากจะลองใจพี่ชายสามีคนนี้ดูว่าจะเป็นคนยังไง เธอจึงไม่รู้สึกเสียดายเงินที่ให้เขาไป " พวกเธอจะไปอยู่ที่ไหนกัน " " ไม่ต้องห่วงค่ะฉันมีบ้านอยู่แล้ว แค่ย้ายไปอยู่ที่นั่นก็สิ้นเรื่อง " " บ้านในเมืองงั้นหรอ น้องสะใภ้ พี่เอ่อ ไปหาพวกเธอบ้างได้ไหม " " ได้ค่ะ แต่พี่ห้ามพาใครไปที่บ้านฉันนอกจากสะใภ้ใหญ่แล้วก็หลานๆนะคะ " " ได้ๆพี่รับปาก " หยวนซ่งรับปากทันทีนั่นเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าน้องสะใภ้คนนี้คงมีฐานะอยู่บ้างไม่เช่นนั้นคงไม่มีบ้านอยู่ในเมืองได้ เขาเองก็พอรู้ว่าเธอมาจากปักกิ่งแต่ไม่รู้รายละเอียดมากกว่านั้น " ไปกันเถอะ ตอนนี้ยังไม่มืด กว่าจะถึงคงมืดค่ำพอดี " " ครับ ผมไปนะพี่ใหญ่ ห้องนี้ผมยกให้พี่ครับ " " อืมโชคดีนะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เสมอ " หยวนซ่งมองน้องชายออกจากบ้านไปแล้ว เขามองเงิน 50 หยวนในมืออย่างดีใจ ที่จะได้แต่งตู้เสี่ยวชิงเสียที หลังจากที่ลูกคนรองหยวนเซียวย้ายออกจากบ้านไปแล้ว ชาวบ้านที่เห็นต่างก็มาจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องของบ้านรองกันอย่างสนุกสนาน และที่ยิ่งกว่านั้นคือเรื่องที่หยวนอิงขโมยของในบ้าน โดยที่พ่อแม่ไม่กล่าวโทษใดๆ จนสะใภ้รองทนไม่ไหวขอแยกบ้าน เรื่องนี้รู้มาจากบ้านเติ้งที่อยู่ติดกับบ้านหยวน สะใภ้สามบ้านเติ้งนำเรื่องที่ได้ยินมาพูดต่อๆให้คนในหมู่บ้านฟัง เวลานี้หยวนอิงจึงเป็นที่รังเกียจในหมู่บ้านไม่มีใครต้องการเด็กสาวไปเป็นสะใภ้สักบ้าน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะแม่ของหล่อนต้องการให้แต่งกับหลานชายของหัวหน้าหมู่บ้านสกุลเหมา ที่นั่นคือบ้านเดิมของเหมาอี้ซิ่วนั่นเอง สองสามีภรรยาเข้าเมืองมาแล้วตอนนี้ทั้งคู่พักอยู่ในห้องเช่าด้านหลังตลาด ซึ่งมีขนาดคับแคบมาก แต่เมื่อนึกถึงว่าคืนนี้ต้องนอนที่นี่ทั้งสองจึงไม่ได้พูดอะไรมากนัก ต่างคนต่างนอนหลับกันไป เพราะพรุ่งนี้เช้าพวกเขาจะต้องเดินทางไกล หลิงเฟยยังไม่แน่ใจว่าจะไปปักกิ่งหรือเริ่มต้นใหม่ในเมืองนี้ แต่เธอคิดว่าที่เมืองนี้ยังไม่เจริญมากนักแต่ในอนาคตเมืองนี้ก็เป็นเมืองที่หน้าสนใจดี รุ่งเช้าเธอตื่นขึ้นมาก่อนสามีที่ยังหลับอยู่ ระหว่างนี้ก็นั่งใช้ความคิดว่าจะเอายังไงต่อไปดี หรือควรจะหาบ้านแถวนี้สักหลังแล้วค่อยว่ากันใหม่ เมื่อคิดได้แบบนั้นเธอก็แต่งตัวใหม่และออกไปข้างนอกเพื่อหาดูบ้านสักหลัง หลิงเฟยถามทางกับแม่ค้าแผงลอยข้างถนนจนรู้ว่าต้องไปติดต่อที่สำนักงานพลเรือน เธอจึงไม่รอช้าไปที่นั่นทันที " สวัสดีครับ ติดต่อเรื่องอะไร " พนักงานในสำนักงานเอ่ยถาม " ฉันอยากได้บ้านสักหลังในเมืองนี้ค่ะไม่ทราบว่ามีไหม " " รอเดี๋ยวนะครับ " ชายหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะค้นหาข้อมูลของบ้านที่ต้องการขาย เขารีบค้นหาอย่างกระตือรือร้นนั่นเพราะหากขายบ้านได้เขาก็จะได้ค่านายหน้าไปด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม