บทที่ 8 ไหนประโยชน์

1898 คำ
CASINO Xlll ฉันมองป้ายทางเข้าด้วยความโกรธเกรี้ยวเพราะหลังจากให้คุณศรีติดต่อทางเฮียซันเพื่อขอพบและเขาตอบกลับเธอก็ไปตามนัดของเขาคือเตกีลาผับแต่เมื่อไปถึงฉันถึงรู้ว่าวันนี้เขาไม่เข้าผับและตัวเองโดนเขาต้มจนเปื่อย “ร้ายนักนะ” ถึงว่ายอมให้เข้าพบง่ายที่แท้ก็ตั้งใจแกล้งนี่เอง ฉันได้จดบัญชีแค้นไว้ในใจมีโอกาสต้องเอาคืนเขาให้ได้ ก่อนจะลงจากรถและเดินตรงเข้าไปในกาสิโนหรูหรา “ขอบัตรด้วยครับ” บอดี้การ์ดหน้าตาดุดันเอ่ยเสียงเข้มและแบมือมาตรงหน้า ฉันจึงรีบล้วงบัตรให้เขาพลางคิดในใจว่าพนักงงานรักษาความปลอดภัยของเขาดูเหมือนพวกมือปืนรับจ้างมากกว่าบอดี้การ์ดดูแลผับหรือกาสิโนอีก “เชิญครับ” “ลืมเลย ฉันมาขอพบเฮียซันช่วยพาขึ้นไปหน่อยได้ไหม” เมื่อบอดี้การ์ดยื่นบัตรคืนให้ฉัน เลยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือโดยไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไร แต่ทุกคนทั่วทั้งบริเวณต่างหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียวจนรู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า “หมายถึงคุณเป็นแขกของคุณซันอย่างนั้นเหรอครับ” บอดี้การ์ดอีกคนเอ่ยปากถามอย่างไม่แน่ใจ “ใช่ค่ะ เป็นแขกคนสำคัญและมีธุระด่วน” เมื่อลอบสังเกตปฏิกิริยาของบรรดาผู้คนแล้วก็ประมวลได้ว่าบางทีไอ้คนร้ายกาจที่นั่งบนหอคอยสูงนั้นอาจจะไม่เคยมีแขกผู้หญิงแบบนี้มาหาก็ได้ ฉันยกยิ้มก่อนจะคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ “ไม่เชื่อลองโทรถามก็ได้นะ แต่เฮียซันอาจจะรู้ก่อนที่ฉันจะได้เอาของไปเซอร์ไพรส์เขาก็ได้” ไม่ว่าเปล่าฉันล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าก่อนจะทำท่าเหมือนควานหาอะไรบางอย่าง ทำให้บรรดาบอดี้การ์ดร่างยักษ์หน้าร้านหน้าซีดเผือดและรีบกุลีกุจอนำทางฉันขึ้นไปยังชั้นที่เขาอยู่ทันที “เชิญครับ ทางนี้เลยครับ” ดัสตินหัวหน้าบอดี้การ์ดหนุ่มรีบพาสาวสวยที่มีฐานะไม่ธรรมดาไปยังชั้นบนของกาสิโนทันทีเพราะกลัวสาวเจ้าจะไม่พอใจและเอาไปฟ้องคุณซัน “พี่ดัสตินกำลังจะขึ้นไปหานายเหรอ เอ๊ะ! ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครน่ะ” เสียงหวานใสของพนักงานสาวสวยเอ่ยกับหัวหน้าบอดี้การ์ดเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะขึ้นไปยังชั้นของผู้บริหารก่อนจะสังเกตเห็นว่าหัวหน้าบอดี้การ์ดหนุ่มไม่ได้ขึ้นไปคนเดียว ยังมีสาวสวยอีกคนขึ้นไปด้วย “ใช่ รีบน่ะขอตัวก่อน” ดัสตินรีบเอ่ยตัดบทสนทนาเพราะเขาขี้เกียจตอบคำถามพนักงานสาวคนนี้ เพราะดูเหมือนเธอจะอยากเป็นคางคกขึ้นวอไม่ว่าใครจะขึ้นไปข้างบนนินก็จะซักไซ้ถึงแต่เจ้านายอยู่ตลอด ทำตัวเหมือนกลัวคนไม่รู้ว่าคิดอะไร นั่นคือสิ่งที่เขาคิดรวมถึงคนอื่นในกาสิโนด้วยทั้งที่เจ้านายอย่างซันออกจะโหดเหี้ยม เย็นชาและใจดำเขาไม่มีทางมาแลพนักงานในกาสิโนตัวเองหรอก “เดี๋ยวก่อน พี่ยังไม่ตอบฉันเลยว่านั่นใคร!” เสียงน่ารำคาญของพนักงานสาวทำให้จันทร์เจ้าที่ยืนหลับตากอดอกอยู่ในลิฟต์ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะมองตรงไปที่นินด้วยแววตาเรียบนิ่งแต่แผ่กลิ่นอายออกมากดข่มนินว่าอย่าได้คิดมาล้ำเส้น “พอเถอะ ถอยออกไป” ดัสตินเริ่มไม่สบอารมณ์เมื่อนินทำตัววุ่นวายด้วยการขวางทางประตูลิฟต์ไว้ เจ้าหล่อนใช้มือดันไว้ก่อนจะหลบสายตาจันทร์เจ้าและหันมาเอาคำตอบกับหัวหน้าบอดี้การ์ดแทน “ไม่! จนกว่าพี่จะตอบมาว่านี่ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” จันทร์เจ้าหรี่ตาลงมองท่าทางเหมือนจงอางหวงไข่ของนินก็ยกยิ้มพลางคิดในใจว่าผู้ชายเย็นชาคนนั้นก็เสน่ห์แรงไม่เบา “ถอยออกไป” ดัสตินเริ่มขึ้นเสียงเพราะไม่อยากทำร้ายผู้หญิงและที่ไม่เสียงดังคือมีแขกคนสำคัญของเจ้านายอยู่ด้วย แต่นั่นยิ่งทำให้นินได้ใจมากยิ่งขึ้นพนักงานสาวผู้อยากปีนป่ายขึ้นเป็นหงส์เชิดหน้าและตวัดสายตาใส่จันทร์เจ้าทันที เพราะคิดว่าที่ดัสตินไม่ยอมตอบคงเพราะไม่สำคัญอะไร “นายถอยออกไป” “เอ่อ” ร่างบางที่ยืนกอดอกอยู่ในลิฟต์เอ่ยสั่งเสียงเรียบพลางมองหน้าพนักงานสาวอย่างนินไม่วางตาแน่นอนว่าดัสตินกระอักกระอ่วนใจเพราะกลัวจะเกิดอันตรายกับจันทร์เจ้า แต่เมื่อเจอสายตาเรียบนิ่งแต่ดุดันเขาก็หลบทางให้แขกคนสำคัญของเจ้านาย “อยากรู้มากใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร” ร่างบางเอ่ยเสียงเย็น แม้ใบหน้าจะเรียบเฉยแต่ไม่อาจลดทอนความสวยของเธอได้เลย นั่นยิ่งทำให้นินกัดฟันแน่นเพราะมั่นใจว่าตัวเองสวยที่สุดในกาสิโนแหงนี้ แม้แต่นางโชว์ยังสู้นินไม่ได้ แต่เมื่อเจอจันทร์เจ้าแล้วพนักงงานสาวจึงรู้สึกไม่ยินยอม “ใคร มีฐานะอะไร?” ดัสตินถลึงตาใส่นินทันทีไม่รู้เจ้าตัวเองความกล้านี้มาจากไหนถึงกล้าเอ่ยกับแขกแบบนี้ “เป็นเมีย” “หา!” นินเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู จันทร์เจ้ายกยิ้มที่หวานราวอาบน้ำผึ้งก่อนจะหุบยิ้มลงจนเหลือเพียงความเย็นชา เธอยกเท้าขึ้นและถีบไปที่ท้องของนินด้วยความรวดเร็วจนไม่มีใครทันได้ตั้งตัว จนได้ยินเสียงดังตุบพร้อมร่างพนักงานสาวนั่งแมะอยู่กับพื้นด้วยใบหน้าเหยเก “ฉันเป็นเมียเขา จำใส่สมองเธอไว้ด้วยอย่าได้ริอาจมาทำตัวเสียมารยาทแบบนี้อีก” จันทร์เจ้าเหยียดยิ้มใส่นินที่นั่งกุมท้องด้วยแววตาแค้นเคือง ก่อนจะยื่นมือไปกดปิดลิฟต์เพราะเหนื่อยที่จะเสวนากับคนแบบนินอีก มันดูไร้สาระเหมือนเธอกำลังตีกับเด็กอนุบาล “คุณสุดยอดมากเลยครับ” “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะเธอล้ำเส้นก่อนจันทร์ถึงต้องออกโรง ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เซอร์ไพรส์เฮียซันช้าแน่ ๆ” หลังจากเห็นว่าบอดี้การ์ดตรงหน้าดูแลเธออย่างดีเลยเอ่ยแทนตัวเองว่าจันทร์ เพื่อเพิ่มความสนิทสนมก่อนจะเอ่ยถึงเขาอีกรอบพร้อมหน้าเศร้า “ผมเชื่อว่านายต้องเข้าใจ” “ขอบคุณมาก ๆ นะคะ” บอดี้การ์ดร่างยักษ์มาส่งเธอหน้าห้องหนึ่งที่คาดว่าอาจจะเป็นห้องทำงานของเขา ก่อนจะล่าถอยไปซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ไม่ต้องรอให้คนข้างในอนุญาตมือบางก็จัดการเปิดประตูเข้าไปเองเลยแม้จะแอบแปลกใจว่าทำไมห้องไม่ได้ล็อก เธอผลักประตูเข้ามาก่อนจะค่อย ๆ ปิดลงนัยน์ตาคู่สวยมีเสน่ห์กวาดตามองภายในห้องที่ตกแต่งด้วยสไตล์ยุโรปแบบคลาสสิค แสงไฟสลัวให้บรรยากาศดูน่าหวาดกลัวและวังเวง “หึ ร้ายไม่เบานะเธอน่ะ” “อุ๊ย” เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นจากห้องฝั่งขวาก่อนจะปรากฏร่างสูงในชุดสีดำตลอดทั้งร่าง ใบหน้าหล่อเหลาไร้รอยยิ้มมีเพียงแววตาวาววับราวสัตว์ป่า เธออยากจะบอกเขามากว่าคนที่ร้ายน่ะมันเขาต่างหาก! “เฮียหลอกจันทร์ไปเตกีลา” “ไม่ใช่เธอโง่เชื่อเองเหรอ” ร่างบางได้แต่กัดฟันเมื่อเขาเอ่ยออกมาราวกับไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ทั้งที่เธอเคร่งเครียดแทบตายแต่เขากลับทำให้เธอเป็นตัวตลกด้วยการวิ่งวุ่นไปมา “แล้วมีอะไร ถึงหอบสังขารมาที่นี่” “ไม่ใช่ว่ารู้อยู่แล้วเหรอคะ?” “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ไม่ใช่ผัวเธอที่จะต้องรู้ถึงอย่าง” เขาแค่นเสียงหัวเราะก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ทำงานยกขาไขว่ห้างอย่างสบายอกสบายใจ “จันทร์อยากขอให้เฮียช่วย เรื่องโปรเจกต์” “ช่วย? เธอสมองกลับเหรอถึงมาขอให้คนที่เกลียดเธอสุดหัวใจช่วยน่ะ” “ถึงแม้จะขอร้องให้ช่วยแต่เฮียก็ได้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอคะ จันทร์สัญญาว่าถ้าเฮียยอมช่วยเรื่องนี้กำไรมหาศาลแน่นอนค่ะ เรื่องธุรกิจแม้จันทร์จะใหม่แต่ก็ช่วยได้มากนะคะ” เธอพยายามโน้มน้าวเขาด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจและไม่เอ่ยถึงเบื้องหลังว่าบริษัทกำลังจะถังแตก “อ๋อเหรอ แต่ฉันไม่ต้องการ คนเก่ง ๆ ที่พร้อมร่วมงานมีเยอะแยะทำไมต้องช่วยเธอด้วย” ร่างสูงเอ่ยเสียงเย็นก่อนจะยกยิ้มให้กับร่างบางที่มีสีหน้านิ่งเรียบลงเมื่อเขาดูจะไม่สนใจคำขอร้องของเธอเลย “แล้วจันทร์ต้องทำยังไง!” “ไม่ต้องทำอะไร แค่ไสหัวไป” “เฮียซันหยุดเล่นลิ้นสักที! ที่ให้พบก็ไม่ใช่ว่าต้องการแก้แค้นจันทร์เหรอเพราะรู้ว่ายังไงจันทร์ก็ต้องมาขอความช่วยเหลือน่ะ แล้วจะมาเล่นตัวทำไมอยากให้ทำอะไรบอกมาสิ” เพราะเขาเอาแต่พล่ามมันทำให้เธอรำคาญและระเบิดอารมณ์ออกมา วันนี้เตรียมใจมาโดนเขาเชือดแล้ว เพียงแค่เขายอมช่วยเหลือหลังจากนั้นจะเอาคืนเขาก็ยังไม่สาย “หึ กล้าดี” “ค่ะ จันทร์ก็กล้าแบบนี้แหละ” ร่างสูงเท้าคางกับโต๊ะพลางมองมาที่ร่างบางไม่วางตา สำรวจเธอขึ้นลงด้วยแววตาเรียบเฉยไร้ระลอกคลื่นความรู้สึก “ไหนบอกประโยชน์ของเธอมาสิ” น้ำเสียงดุดันเอ่ยขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้เธอเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แต่เมื่อเห็นเธอยังนิ่งเลยเอ่ยต่ออย่างไม่สบอารมณ์เหมือนคนวัยทอง “ถ้าไม่มีประโยชน์ ก็ไสหัวไป!” พูดจบก็ลุกขึ้นยืนสบประสานสายตากับเธอที่เบิกตากว้างเพราะตอนแรกเธอเอ่ยถึงความสามารถเขาก็ปรามาสด้วยการยกคนอื่นมากด “ไม่ใช่นะคะต้องถามก่อนว่าประโยชน์แบบไหน” แม้จะเอือมระอากับความประสาทของเขาแต่เธอก็ได้แต่กัดฟันถลาเข้ามาใกล้เพื่อปฏิเสธ “ที่จริง ก็พอมีนะแต่กลัวว่าเธอจะทำไม่ได้” เมื่อเห็นโอกาสคนฉลาดอย่างจันทร์เจ้าก็ต้องรีบคว้าไว้ เธอขยับเข้าไปใกล้มองเขาด้วยแววตาเป็นประกายไม่ใช่การเสแสร้งแกล้งทำแต่ดีใจจริงแม้คนตรงหน้าจะเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกที่อาจจะเล่นงานเธอวันนี้ก็ตาม “ขอเตือนไว้ก่อน ว่างานไม่ง่าย” “บอกมาเถอะค่ะ จันทร์พร้อม” เธอพูดด้วยรอยยิ้มหวังเพียงแค่คำตอบตกลงจากเขา ไม่ว่าอะไรคนอย่างจันทร์เจ้าล้วนทำได้ทั้งนั้น “เต้นรำ” “อะไรนะคะ?” “ที่ชั้นล่างกาสิโนมีโชว์เต้นรำอยู่ ถ้าคิดว่าตัวเองมีประโยชน์ก็จงทำหน้าที่นี้” ร่างสูงยกยิ้มเหมือนปีศาจร้ายนัยน์ตาคมทอแววสาสมใจเมื่อเห็นใบหน้าสวยแข็งค้างไปแล้ว เมื่อได้ยินคำตอบของเขาเธอมองอย่างไม่อยากจะเชื่อหูเลยถามย้ำอีกครั้ง และคำตอบที่ได้ก็ทำเธอล้มทั้งยืน “เต้นรำอะไรนะคะ” “งานที่เธอต้องทำคือเต้นรำเปลือยอก!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม