บทที่ 1 โดนวางยา

1463 คำ
บทที่ 1 โดนวางยา ท่ามกลางแสงไฟหลากสี เสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม มีหญิงสาว คนหนึ่งกำลังขมักเขม้นในการทำงาน เธอกำลังตั้งใจเก็บกวาดเศษแก้วที่แตกละเอียด เพื่อไม่ให้ลูกค้าเหยียบ หรือเป็นอันตรายกับคนที่เดินผ่านแถวนี้ วันนี้ลูกค้ามาใช้บริการที่ผับมากกว่าปกติเพราะเป็นวันศุกร์ หลายคนเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้ามาจากการทำงาน มักจะมาผ่อนคลายปลดปล่อยกันที่นี่ น้ำค้าง หญิงสาวหน้าตาสละสลวย หน้าเรียวบาง ปากเป็นรูปกระจับ จมูกโด่งเป็นสัน คล้ายลูกครึ่ง รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร ผิวนวล เปล่งปลั่งมีออร่า น้ำค้างจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง เพียงแค่มองแวบแรก ก็ชวนให้หลงไหล เจ้าของใบหน้าสวยไม่ได้แต่งหน้าจัดเต็ม หรือแต่งตัวโชว์เนื้อหนังมังสาเหมือนคนอื่นๆ เธอแต่งตัวแบบเด็กเสิร์ฟธรรมดาเท่านั้น คนตัวเล็กมาทำงานที่นี่เป็นแค่เด็กเสิร์ฟทำงานอยู่เบื้องหลัง คอยเก็บโต๊ะ ทำความสะอาดเท่านั้น เธอไม่ได้ขายตัว บ่อยครั้งมีคนรวยหลายคนเห็นเธอ และเสนอจะเลี้ยงดูเธอ เพื่อแลกกับการให้เธอมีความสัมพันธ์ด้วย แต่เธอก็ปฏิเสธ ถึงเธอจะทำงานแบบนี้แต่เธอไม่ได้ง่าย ที่จะยอมขายตัวแลกเงิน น้ำค้างจะเป็นเด็กเสิร์ฟต่อไป เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว ส่งเสียตัวเอง เรียนมหาลัย ซึ่งรายได้ที่นี่ค่อนข้างดี เพียงพอที่จะช่วยให้เธอเรียนต่อได้ และปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายที่เธอจะเรียนจบมหาลัยสักที หญิงสาวคิดว่า เมื่อเรียนจบมหาลัยจะได้ทำงานที่ดีๆ มีเงินไว้เลี้ยงครอบครัว จะได้เลิกทำงานแบบนี้ ทว่าน้ำค้างต้องดรอปเรียน 1 ปี เพื่อหาเงินไปรักษายายที่ป่วยอยู่โรงพยาบาล ในชีวิตนี้เธอมีแค่คุณยายเป็นญาติเพียงคนเดียว ทุกอย่างที่เธอสามารถทำได้ เธอยินดีที่จะทำ ในขณะที่น้ำค้างกำลังกวาดเศษแก้วอยู่นั้นก็มีเสียงหนึ่งเรียกเธอ "น้ำค้าง" เสียงผู้จัดการร้านเรียกเธอ "ช่วยอะไรเจ้หน่อยได้ไหมจ้ะ" พี่หยาด ชื่อเดิมคือ ทรงยศ ผู้จัดการซึ่งเป็นสาวประเภทสอง หุ่นล่ำบึก พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "มีอะไรให้น้ำค้างช่วยหรอคะ?" " คือน้องแพมไม่สบาย ไม่มีคนทำงานแทนน้องแพมเลยจ้ะ เจ้ก็มองหาใครไม่เห็นแล้วนอกจากน้ำค้างน้ำค้างช่วยเจ้หน่อยนะ นะๆ" เจ้พูดพลางเขย่ามือน้ำค้างเบาๆเชิงอ้อนวอน "เอ่อ...คือ" เสียงหวานตอบอย่างกระอักกระอ่วนใจ เพราะตำแหน่งนี้มันแต่งตัวค่อนข้างเปิดเผยไปหน่อย "นะ ได้ไหม น้ำค้าง ไม่งั้นเจ้ตายแน่เลย เจ้รับปากเขาไว้แล้ว " "ไม่อันตรายใช่ไหมคะเจ้" น้ำค้างถามเพื่อความแน่ใจ เธอไม่รับงานที่เป็นอันตรายเสี่ยงต่อตัวเธอเด็ดขาด "ไม่จ้ะ แค่คอยรินไวน์ให้แขกเฉยๆ ไม่ได้เรื่องเชิงชู้สาวเลย เจ้สาบาน เอางี้เจ้เพิ่มเงินให้ 3 เท่าเลย " "ถ้าเจ้พูดขนาดนั้น ตกลงค่ะ" เธอตกลงเพราะเจ้มีบุญคุณกับน้ำค้าง ที่เธออยู่มาได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะเจ้สนับสนุนส่วนหนึ่ง รายได้ส่วนใหญ่เจ้เป็นคนหามาให้ อีกเพราะน้ำค้างต้องการเงินจำนวนมากไปรักษายายให้หายป่วย เธอจึงตอบตกลงรับงานนี้ "งั้น ไปเปลี่ยนชุดกัน วางๆ เดี๋ยวเจ้ให้คนมาเก็บแทน" "เด็กๆ มาเก็บแทนน้ำค้างหน่อยเร็ว " เจ้หยาดเรียกเด็กที่ร้านมาเก็บแก้วที่แตก พร้อมกับพาน้ำค้างมาเปลี่ยนชุดที่ห้อง และแต่งหน้าให้น้ำค้างใหม่ "ว้าวว สวยมาก นึกว่านางฟ้าตกสวรรค์ " น้ำค้างจ้องมองคนในกระจก นั่นใช่เธอจริงๆหรือ ราวกับเป็นคนละคน เจ้าของร่างเล็กใส่ชุดเดรสรัดรูปสีแดง โชว์หน้าอกที่ซ่อนรูปของเธอ เดรสสั้นประมาณ 2 คืบ ปากเธอถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงสด แก้มชมพูระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ "เจ้ มันโป๊เกินไปไหม" น้ำค้างรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเพราะชุดมันโชว์เนื้อหนังมังสาเธอมากเกินไปเธอเอามือมาดึงชายกระโปรงลง เพราะมันสั้นเกินไป "ไม่หรอก ผู้หญิงสวยๆเขาใส่แบบนี้กันทั้งนั้นแหละ หุ่นดีขนาดนี้ หน้าอกหน้าใจบึ้มขนาดนี้ เก็บไว้เก็บไว้เสียดายแย่ อิจฉาเสียจริง เจ้อยากเป็นผู้หญิงใส่ชุดแบบนี้บ้าง" "ฮ่า ๆ จะดีเหรอเจ้" น้ำค้างพูดพลางหัวเราะเจ้ เพราะนึกถึงภาพที่เจ้หุ่นล่ำเหมือนผู้ชายใส่ชุดเดรส "อ่ะๆ ไปได้แล้ว ใกล้ถึงเวลาแล้ว" "ไปตรงไหนเจ้ น้ำค้างไม่เคยไป" "เดี๋ยวเจ้จะบอกนะ ขึ้นไปชั้น 2 ห้อง VIP 2512 เปิดประตูเข้าไปเลย ในนั้นจะเพื่อนผู้หญิงด้วย ไม่ต้องกลัว เสร็จงานแล้วมาเจอเจ้ห้อง VIP 2510 ประมาณ 4 ทุ่ม " "ค่ะ ห้อง VIP 2512 นะ น้ำค้างทวนเลขห้องอีกรอบ ฟังเจ้บรีพะงานอยู่ประมาณ 5 นาที ว่าเธอต้องทำอะไรบ้าง ร่างบางเดินขึ้นมาชั้น 2 อ่านเลขห้องไปเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่ห้อง VIP 2512 อย่างที่เจ้หยาดได้บอกเอาไว้ น้ำค้างถอนหายใจเฮือกหนึ่ง และสูดลมหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้าที่จะเข้าไป ร่างบางเอื้อมมือไปเปิดประตูช้า ๆ แกร็ก!! เสียงเปิดประตู "ขอโทษนะคะ ขอเข้าไปนะคะ" เสียงหวานเอ่ยเพื่อเป็นการขออนุญาตตามมารยาท ก่อนจะแทรกร่างเล็กเข้าไปในห้องด้วยอาการที่ประหม่า ในขณะเดียวกันทุกสายตาจับจ้องมาที่ร่างบางระหง สายตาแขกแต่ละคนเต็มไปด้วยสายตาแทะโลม และหื่นกระหาย มีเพียงชายหนุ่มหนึ่งคนมองเธอแค่เพียงสายตาเรียบนิ่ง "เข้ามาสิ" เสียงนิ่งขรึม ของชายหนุ่มเอ่ยให้เธอเข้ามา เขาคือ หมิงเผิง เป็นลูกครึ่งไทย-จีน อายุ 25 ปี พ่อของเขาเป็นธุรกิจชื่อดังจากเมืองจีนและมีภรรยาเป็นคนไทย หมิงเผิง เป็นคนที่มีความสามารถพูดได้หลายภาษา โดยเฉพาะภาษาจีนและภาษาไทย และด้วยความที่บริษัทนี้เดิมที่เป็นของคุณตาที่ตอนนี้แก่ชรามากแล้ว ท่านจึงวางมือจากธุรกิจและอยากให้ลูกหลานมาบริหารเพื่อสืบทอดธุรกิจต่อ ทางคุณพ่อและคุณแม่ของ หมิงเผิงจึงได้ส่งให้เขาเดินทางจากเมืองจีนเพื่อมาบริหารธุรกิจแทนคุณตา เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่มาด้วยความสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องหน้าตาและความหล่อกับส่วนสูงถึง 180เซนติเมตร และด้วยความเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย ความหล่อสมาร์ทจึงแทบเรียกได้ว่า ไม่ต่างจากนายแบบชื่อดังทั่วไป "ค่ะ" ร่างบางตอบพร้อมกับเดินไปยืนอยู่กับผู้หญิงที่อยู่หลังโซฟาอย่างรู้งาน และคอยรินไวน์ อำนวยความสะดวกให้แขก หลังจากที่แขกประชุมเสร็จ น้ำค้างดีใจที่จะได้เปลี่ยนชุดแล้ว เธอไม่ค่อยชินนักกับการที่ใส่กระโปรงสั้นแบบนี้ ผ่านไปไม่นาน เสียงทุ้มของหมิงเผิงก็ได้พูดขึ้นว่า "ผมขอตัวนะครับ" ชายหนุ่มไม่รอให้ใครได้อนุญาต ไม่รอช้า เท้าหนาก็รีบเดินออกจากห้องไป ราวกับมีธุระเร่งด่วน หลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกไป "ประชุมเสร็จแล้ว เรามาดื่มกันหน่อยสิสาว ๆ " ชายวัยกลางคน คนหนึ่งพูดขึ้น แล้วหันไปกระซิบกระซาบกับผู้หญิงอีกคน ไม่ถึง 5 นาที ผู้หญิงคนนั้นหายไปสักพัก จากนั้นกลับมาพร้อมกับถาดใบกลม กับแก้วสองใบ มีน้ำผสมอะไรบางอย่างอยู่ในแก้ว "เธอดื่มสิ " ผู้หญิงคนนั้น เชิญชวนให้เธอดื่ม พร้อมกัน "ฉันไม่ดื่ม" ร่างบางปฏิเสธเพราะเธอเองไม่เคยดื่มมาก่อน "ไม่เป็นไรหรอก ไม่งั้นเธอไม่ได้กลับนะ" ชายวัยกลางคนกระซิบกระซาบ ทำเอาร่างเล็กถอยร่นไปทางด้านหลังหลายก้าว ด้วยความที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เธอจำเป็นต้องหยิบแก้วใบนั้นขึ้นมาจากถาดกลม จากนั้นก็กระดกไวน์ในแก้วรวดเดียวจนหมด ผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ใกล้เวลาเลิกงาน ในขณะนี้ทุกคนทยอยออกจากห้องไปเรื่อยๆ เหลือเพียงน้ำค้าง หญิงสาวที่มาทำงานกับเธอ และชายวัยกลางคนที่ชวนน้ำค้างดื่ม น้ำค้างเหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลา 4 ทุ่ม เธอเลิกงานพอดี น้ำค้างจึงรีบบอกลาชายวัยกลางคน โดยไม่รอคำอนุญาตจากเขา และร่างเล็กรีบสาวเท้าก้าวออกไปทันที โดยที่น้ำค้างไม่รู้ว่าตัวเองโดนวางยา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม