— หลังจากจบพิธีแต่งงาน —
คุณท่านพ่ฉันมาที่บ้าน เป็นบ้านของคุณท่านหลังใหญ่โตมโหฬารมาก ฉันถึงกับตะลึงตาค้างเลยทีเดียว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นบ้านหลังใหญ่อย่างกับวังแบบนี้เลย
“หนูตามฉันมาเดี๋ยวฉันจะพาไปดูห้องนอน” คุณท่านเอ่ยบอกฉัน คงจะเห็นว่าฉันยืนนิ่งไม่ขยับ ก็ฉันกำลังตะลึงกับความใหญ่โตของบ้านอยู่นี่แหละ
ฉันเดินตามคุณท่านขึ้นไปชั้นบน บ้านหลังนี้มีสามชั้น มันใหญ่โตมาก จริงๆ ตรงทางขึ้นมีรูปผู้หญิงสูงวัยติดอยู่ตรงผนัง ขนาดว่าอายุเยอะแล้วก็ไม่อาจทำรายความสวยของคนในภาพได้เลย ตอนเป็นสาวคงจะสวยมากแน่ๆ
ก็เหมือนกับคุณท่าน ถึงคุณท่านจะอายุเยอะมากแล้วแต่ก็ยังดูดีไม่แก่ตามอายุ
“ห้องนี้คือห้องนอนของหนู ส่วนห้องฉันจะอยู่ตรงข้าม”
“อ้อ ค่ะๆ” ฉันพยักหน้าหงึกๆพรางปรายตามองไปรอบๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตฉันจะได้สัมผัสกับบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้
“หนูหน้าเหมือนแม่ตอนเป็นสาวเลยนะรู้มั้ย” คุณท่านพูดพร้อมกับยิ้มจางๆให้ฉัน รอยยิ้มของคุณท่านช่างอบอุ่นจริงๆ
“แม่เคยบอกค่ะ ว่าหนูหน้าเหมือนแม่มาก พ่อก็เคยบอกเหมือนกัน” คุณท่านหุบยิ้มทันทีเมื่อฉันเอ่ยถึงพ่อ มีอะไรรึเปล่านะ
“ถ้างั้นหนูไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวถึงเวลาทานอาหารฉันจะให้คนมาตาม”
“เสื้อผ้าของใช้ฉันให้คนจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว”
“ขอบคุณมากนะคะ หนูไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตหนูจะเธอคนใจดีแบบคุณท่าน หนูขอบคุณมาก จริงๆ”
“ขอบคุณอะไรกัน ไปพักผ่อนเถอะ”
คุณท่านไม่รอให้ฉันตอบอะไร ท่านหันหลังให้ฉันเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ส่วนฉันก็เข้าห้องนอน
ภายในห้องตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา เตียงนอนนั่นมันใหญ่กว่าเตียงที่ฉันเคยนอนตั้งหลายเท่า
ฉันมองไปรอบๆห้องด้วยความตื่นเต้น ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ฉันพึ่งเคยได้สัมผัส มันทำให้ฉันลืมตราบาปที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นทำเอาไว้ชั่วขณะ
ฉันนั่งลงบนเตียงพรางขย่มตัวขึ้นลงสามสี่ที เตียงนุ่มๆแบบนี้คงจะนอนหลับสบายมากแน่เลย
ฉันเอนตัวนอนลงบนเตียงพร้อมกับค่อยๆหลับตาลงช้าๆ จากนั้นฉันก็จมดิ่งสู่ห้วงนิทราไม่รับรู้อะไรอีกเลย
ก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง)
เสียงเคาะห้องที่ดังขึ้นมาไม่ขาดสายทำให้ฉันตื่นจากความฝัน เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองร้องไห้เพราะคราบน้ำตามันยังเปียกตรงแก้มของฉันอยู่
เมื่อกี้ฉันฝันเห็นแม่ แม่มายืนยิ้มให้ฉัน ฉันทั้งร้องเรียกทั้งพยายามจะเดินเข้าไปหาแม่ แต่เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงตัวแม่สักที ทั้งที่แม่ก็อยู่แค่ตรงหน้าฉัน
แกร่ก! (เสียงเปิดประตูห้อง)
“คุณผู้หญิงคะคุณท่านให้มาตามลงไปทานข้าวค่ะ”
“อะ อ้อค่ะๆเดี๋ยวหนูลงไปนะคะ” ฉันยิ้มแห้งๆให้คุณป้าแม่บ้าน ไม่ชินเลยที่มีคนมาเลี้ยงฉันว่าคุณผู้หญิง ฉันว่ามันสูงเกินไปสำหรับฉัน
ฉันรีบอาบน้ำก่อนจะแต่งตัว ในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อผ้าอยู่หลายตัวมากมีแต่ชุดสไตล์ที่ฉันชอบใส่ทั้งนั้นเลย
ฉันเดินไปที่กระจกก่อนจะเอาเสื้อทาบกับตัวเอง แต่แล้วฉันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยแดงหลายจุดตามร่างกาย อุส่าจะไม่คิดถึงเรื่องบ้านั่นอยู่แล้วเชียว แต่พอมาเห็นแบบนี้มันทำให้ความรู้สึกของฉันแย่ไปเลยจริงๆ
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ และสะลัดความคิด บ้าๆ ออกจากหัว ฉันเสียให้เขาไปแล้วมันเอาอะไรกับคืนมาไม่ได้ เพราะฉะนั้น อะไรที่เสียแล้วก็ปล่อยให้มันเสียไป ฉันจะไม่คิดถึงเรื่องนั้นอีก
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป...
ฉันใช้ชีวิตปกติ คุณท่านให้อิสระกับฉันมากๆจนฉันเกรงใจ หลายอย่างที่คุณท่านให้ฉัน ไม่ว่าจะเป็นรถซุปเปอร์คาร์คันหรู สิ่งของราคาแพง แม้กระทั้งบัตรเครดิต
ฉันปฏิเสธที่จะไม่รับ แต่สุดท้ายฉันก็แพ้คุณท่านอยู่ดี ไม่รู้ว่าทำไมคุณท่านถึงได้ใจดีกับฉันขนาดนี้ ทั้งที่ฉันกับคุณท่านก็พึ่งเจอกัน ถึงแม้คุณท่านจะบอกว่าเป็นเพื่อนกับแม่ แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงต้องให้ฉันมากมายขนาดนี้
แต่ฉันก็ไม่ได้อยู่เฉยๆนะ ฉันทำกับข้าวกวาดบ้านถูบ้าน แล้วก็คอยจัดยาไปให้คุณท่านกินตลอด
@ห้องรับแขก
“หนูอายุเท่าไหร่” คุณท่านละสายตาออกจากหนังสือพิมพ์หันมาถามฉัน
“ยี่สิบค่ะ^_^”
“ไม่อยากเรียนรึไง ฉันส่งหนูเรียนเอามั้ย”
“ไม่ดีกว่าค่ะ หนูไม่ค่อยเก่งหนังสือ ^_^” ฉันตอบไปตามความจริง เรื่องเรียนไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเรียนหรอก แต่ฉันเป็นพวกที่ไม่ฉลาดหนังสือพวกตำราเรียนขอไม่เรียนจะดีกว่า
“งั้นตามใจหนูแล้วกัน”
“ให้หนูนวดให้มั้ยคะ หนูนวดเป็น ^_^”
“อื้อๆดีๆเอาสิฉันกำลังปวดหลังอยู่พอดี”
ฉันเคยทำงานที่ร้านนวดเรื่องจับเส้นอะไรฉันทำเป็นหมดหายห่วง
“เออหนูนวดเก่งจริงๆนะเนี่ย แม่หนูสอนใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ แม่สอนแล้วหนูก็เคยทำงานที่ร้านนวดด้วย”
“มีความสุขกันจังเลยนะครับ”
เสียงหนึ่งดังมาจากทางหน้าห้องรับแขก แถมเสียงที่ทักขึ้นก็ดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่เลย ออกประมาณหาเรื่องมากกว่า
เฮือก...
ฉันใจฉันมันหลุ่นวูบลงทันทีเมื่อหันไปมองทางต้นเสียงของคนที่ทักขึ้นเมื่อครู่ แล้วต้องเจอกับผู้ชายที่ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเขาได้ ไม่คิดว่าฉันจะต้องมาเจอเขาอีก เป็นเขาได้ยังไงกัน
ไอ้คนที่ย่ำยีฉันวันนั้น....
“แกมาที่นี่ทำไม” คุณท่านเอ่ยถามผู้ชายคนนั้นซึ่งเขาเอาแต่จ้องหน้าฉันอย่างไม่ละสายตา จนฉันต้องก้มหน้าลงหลบสายตาคมกริบคู่นั้นของเขา
“บอกเหตุผลผมหน่อยสิครับว่าทำไมผมจะมาที่บ้านหลังนี้ไม่ได้” น้ำเสียงของเขาที่พูดกับคุณท่านเหมือนไม่มีความเกรงกลัวคุณท่านเลยสักนิด
“แต่งงานทั้งทีไม่คิดจะบอกลูกชายคนนี้สักหน่อยเลยหรอครับคุณพ่อ”
ละ ลูกชาย งั้นหรอ ฉันถึงกับสะตั้นไปเลยเมื่อได้ยินผู้ชายคนนั้นเขาบอกว่าเขาเป็นลูกชายของคุณท่าน ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณท่านมีลูก คุณท่านก็ไม่บอกอะไรฉันเลย
แล้วทำไม ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนี้ คนที่สร้างตราบาปทิ้งไว้ให้ฉัน
“ไม่จำเป็น แกไสหัวกลับไปได้แล้วอย่ามาหาเรื่องฉันขี้เกียจจะทะเลาะกับแก”
“โธ่ คุณพ่อครับผมพึ่งมาถึงยังไม่ทันจะได้พูดคุยกับแม่เลี้ยงคนสวยของผมเลยสักคำ คุณพ่อจะไล่ผมแล้วหรอครับ” ท่าทางของเขาดูไม่มีมารยาทเลยจริงๆ
“ไอ้โชน !!” คุณท่านตวาดเสียงดังลั่นบ้าน
“สวัสดีครับแม่เลี้ยงคนสวย เจอกันอีกแล้วนะครับ ^_^” รอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของผู้ชายคนนี้มันชั่งชวนให้ฉันย้อนคิดไปถึงเรื่องวันนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคำพูดที่ชวนให้คิดของเขาด้วย
มันเป็นเรื่องที่น่าตลกสำหรับเขามากงั้นหรอ ที่ทำร้ายข่มเหงผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีทางสู้ได้ มันน่าภูมิใจมากขนาดนั้นเลยใช่มั้ย ฉันอยากจะถามเขาจริงๆ
“เป็นไงบ้างครับบ้านหลังใหญ่โตดีมั้ย นอนหลับสบายมั้ยครับ เตียงนุ่มรึเปล่า ถ้าอยากได้อะไรเชิญผลาญเงินกับพ่อผมได้เลยนะครับ พอผมสายเปย์ หึ!!” เขามองหน้าฉันด้วยสายตาที่แสนจะรังเกียจ
“ไอ้โชนอย่าให้ฉันต้องเอาคนมาลากตัวแกออกไปนะ”
“เอาสิครับ” เขาพูดท้าทายคุณท่าน
“คุณแม่เลี้ยงไม่คิดจะพูดอะไรกับลูกเลี้ยงคนนี้หน่อยหรอครับ เงียบทำไมคิดเรื่อง...อะไรอยู่” เขาเว้นระยะห่างของคำพูด ฉันรู้ดีว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร
“......” ฉันเงียบไม่พูดอะไร ฉันคิดว่าฉันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับคนอย่างเขา
“คุณท่านคะ หนูขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อนนะคะ”
“คุณพ่อครับผมมีอะไรจะบอก ถ้าผมพูดออกไปคุณพ่อคงต้องดีใจมากแน่ๆ ^_^”
“อะไรของแก จะกวนประสาทอะไรฉันอีก”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ดีใจจนแทบจะพูดไม่ออกเลยใช่มั้ยละครับ”
ฉันหยุดชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ทันที ขะ เขาจะมาอยู่ที่นี่ อย่างงั้นหรอ