4 โลกกลม

1559 คำ
— หลังจากจบพิธีแต่งงาน — คุณท่านพ่ฉันมาที่บ้าน เป็นบ้านของคุณท่านหลังใหญ่โตมโหฬารมาก ฉันถึงกับตะลึงตาค้างเลยทีเดียว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นบ้านหลังใหญ่อย่างกับวังแบบนี้เลย “หนูตามฉันมาเดี๋ยวฉันจะพาไปดูห้องนอน” คุณท่านเอ่ยบอกฉัน คงจะเห็นว่าฉันยืนนิ่งไม่ขยับ ก็ฉันกำลังตะลึงกับความใหญ่โตของบ้านอยู่นี่แหละ ฉันเดินตามคุณท่านขึ้นไปชั้นบน บ้านหลังนี้มีสามชั้น มันใหญ่โตมาก จริงๆ ตรงทางขึ้นมีรูปผู้หญิงสูงวัยติดอยู่ตรงผนัง ขนาดว่าอายุเยอะแล้วก็ไม่อาจทำรายความสวยของคนในภาพได้เลย ตอนเป็นสาวคงจะสวยมากแน่ๆ ก็เหมือนกับคุณท่าน ถึงคุณท่านจะอายุเยอะมากแล้วแต่ก็ยังดูดีไม่แก่ตามอายุ “ห้องนี้คือห้องนอนของหนู ส่วนห้องฉันจะอยู่ตรงข้าม” “อ้อ ค่ะๆ” ฉันพยักหน้าหงึกๆพรางปรายตามองไปรอบๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตฉันจะได้สัมผัสกับบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ “หนูหน้าเหมือนแม่ตอนเป็นสาวเลยนะรู้มั้ย” คุณท่านพูดพร้อมกับยิ้มจางๆให้ฉัน รอยยิ้มของคุณท่านช่างอบอุ่นจริงๆ “แม่เคยบอกค่ะ ว่าหนูหน้าเหมือนแม่มาก พ่อก็เคยบอกเหมือนกัน” คุณท่านหุบยิ้มทันทีเมื่อฉันเอ่ยถึงพ่อ มีอะไรรึเปล่านะ “ถ้างั้นหนูไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวถึงเวลาทานอาหารฉันจะให้คนมาตาม” “เสื้อผ้าของใช้ฉันให้คนจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว” “ขอบคุณมากนะคะ หนูไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตหนูจะเธอคนใจดีแบบคุณท่าน หนูขอบคุณมาก จริงๆ” “ขอบคุณอะไรกัน ไปพักผ่อนเถอะ” คุณท่านไม่รอให้ฉันตอบอะไร ท่านหันหลังให้ฉันเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ส่วนฉันก็เข้าห้องนอน ภายในห้องตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา เตียงนอนนั่นมันใหญ่กว่าเตียงที่ฉันเคยนอนตั้งหลายเท่า ฉันมองไปรอบๆห้องด้วยความตื่นเต้น ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ฉันพึ่งเคยได้สัมผัส มันทำให้ฉันลืมตราบาปที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นทำเอาไว้ชั่วขณะ ฉันนั่งลงบนเตียงพรางขย่มตัวขึ้นลงสามสี่ที เตียงนุ่มๆแบบนี้คงจะนอนหลับสบายมากแน่เลย ฉันเอนตัวนอนลงบนเตียงพร้อมกับค่อยๆหลับตาลงช้าๆ จากนั้นฉันก็จมดิ่งสู่ห้วงนิทราไม่รับรู้อะไรอีกเลย ก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง) เสียงเคาะห้องที่ดังขึ้นมาไม่ขาดสายทำให้ฉันตื่นจากความฝัน เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองร้องไห้เพราะคราบน้ำตามันยังเปียกตรงแก้มของฉันอยู่ เมื่อกี้ฉันฝันเห็นแม่ แม่มายืนยิ้มให้ฉัน ฉันทั้งร้องเรียกทั้งพยายามจะเดินเข้าไปหาแม่ แต่เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงตัวแม่สักที ทั้งที่แม่ก็อยู่แค่ตรงหน้าฉัน แกร่ก! (เสียงเปิดประตูห้อง) “คุณผู้หญิงคะคุณท่านให้มาตามลงไปทานข้าวค่ะ” “อะ อ้อค่ะๆเดี๋ยวหนูลงไปนะคะ” ฉันยิ้มแห้งๆให้คุณป้าแม่บ้าน ไม่ชินเลยที่มีคนมาเลี้ยงฉันว่าคุณผู้หญิง ฉันว่ามันสูงเกินไปสำหรับฉัน ฉันรีบอาบน้ำก่อนจะแต่งตัว ในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อผ้าอยู่หลายตัวมากมีแต่ชุดสไตล์ที่ฉันชอบใส่ทั้งนั้นเลย ฉันเดินไปที่กระจกก่อนจะเอาเสื้อทาบกับตัวเอง แต่แล้วฉันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยแดงหลายจุดตามร่างกาย อุส่าจะไม่คิดถึงเรื่องบ้านั่นอยู่แล้วเชียว แต่พอมาเห็นแบบนี้มันทำให้ความรู้สึกของฉันแย่ไปเลยจริงๆ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ และสะลัดความคิด บ้าๆ ออกจากหัว ฉันเสียให้เขาไปแล้วมันเอาอะไรกับคืนมาไม่ได้ เพราะฉะนั้น อะไรที่เสียแล้วก็ปล่อยให้มันเสียไป ฉันจะไม่คิดถึงเรื่องนั้นอีก หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป... ฉันใช้ชีวิตปกติ คุณท่านให้อิสระกับฉันมากๆจนฉันเกรงใจ หลายอย่างที่คุณท่านให้ฉัน ไม่ว่าจะเป็นรถซุปเปอร์คาร์คันหรู สิ่งของราคาแพง แม้กระทั้งบัตรเครดิต ฉันปฏิเสธที่จะไม่รับ แต่สุดท้ายฉันก็แพ้คุณท่านอยู่ดี ไม่รู้ว่าทำไมคุณท่านถึงได้ใจดีกับฉันขนาดนี้ ทั้งที่ฉันกับคุณท่านก็พึ่งเจอกัน ถึงแม้คุณท่านจะบอกว่าเป็นเพื่อนกับแม่ แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมถึงต้องให้ฉันมากมายขนาดนี้ แต่ฉันก็ไม่ได้อยู่เฉยๆนะ ฉันทำกับข้าวกวาดบ้านถูบ้าน แล้วก็คอยจัดยาไปให้คุณท่านกินตลอด @ห้องรับแขก “หนูอายุเท่าไหร่” คุณท่านละสายตาออกจากหนังสือพิมพ์หันมาถามฉัน “ยี่สิบค่ะ^_^” “ไม่อยากเรียนรึไง ฉันส่งหนูเรียนเอามั้ย” “ไม่ดีกว่าค่ะ หนูไม่ค่อยเก่งหนังสือ ^_^” ฉันตอบไปตามความจริง เรื่องเรียนไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเรียนหรอก แต่ฉันเป็นพวกที่ไม่ฉลาดหนังสือพวกตำราเรียนขอไม่เรียนจะดีกว่า “งั้นตามใจหนูแล้วกัน” “ให้หนูนวดให้มั้ยคะ หนูนวดเป็น ^_^” “อื้อๆดีๆเอาสิฉันกำลังปวดหลังอยู่พอดี” ฉันเคยทำงานที่ร้านนวดเรื่องจับเส้นอะไรฉันทำเป็นหมดหายห่วง “เออหนูนวดเก่งจริงๆนะเนี่ย แม่หนูสอนใช่มั้ย” “ใช่ค่ะ แม่สอนแล้วหนูก็เคยทำงานที่ร้านนวดด้วย” “มีความสุขกันจังเลยนะครับ” เสียงหนึ่งดังมาจากทางหน้าห้องรับแขก แถมเสียงที่ทักขึ้นก็ดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่เลย ออกประมาณหาเรื่องมากกว่า เฮือก... ฉันใจฉันมันหลุ่นวูบลงทันทีเมื่อหันไปมองทางต้นเสียงของคนที่ทักขึ้นเมื่อครู่ แล้วต้องเจอกับผู้ชายที่ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเขาได้ ไม่คิดว่าฉันจะต้องมาเจอเขาอีก เป็นเขาได้ยังไงกัน ไอ้คนที่ย่ำยีฉันวันนั้น.... “แกมาที่นี่ทำไม” คุณท่านเอ่ยถามผู้ชายคนนั้นซึ่งเขาเอาแต่จ้องหน้าฉันอย่างไม่ละสายตา จนฉันต้องก้มหน้าลงหลบสายตาคมกริบคู่นั้นของเขา “บอกเหตุผลผมหน่อยสิครับว่าทำไมผมจะมาที่บ้านหลังนี้ไม่ได้” น้ำเสียงของเขาที่พูดกับคุณท่านเหมือนไม่มีความเกรงกลัวคุณท่านเลยสักนิด “แต่งงานทั้งทีไม่คิดจะบอกลูกชายคนนี้สักหน่อยเลยหรอครับคุณพ่อ” ละ ลูกชาย งั้นหรอ ฉันถึงกับสะตั้นไปเลยเมื่อได้ยินผู้ชายคนนั้นเขาบอกว่าเขาเป็นลูกชายของคุณท่าน ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณท่านมีลูก คุณท่านก็ไม่บอกอะไรฉันเลย แล้วทำไม ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนี้ คนที่สร้างตราบาปทิ้งไว้ให้ฉัน “ไม่จำเป็น แกไสหัวกลับไปได้แล้วอย่ามาหาเรื่องฉันขี้เกียจจะทะเลาะกับแก” “โธ่ คุณพ่อครับผมพึ่งมาถึงยังไม่ทันจะได้พูดคุยกับแม่เลี้ยงคนสวยของผมเลยสักคำ คุณพ่อจะไล่ผมแล้วหรอครับ” ท่าทางของเขาดูไม่มีมารยาทเลยจริงๆ “ไอ้โชน !!” คุณท่านตวาดเสียงดังลั่นบ้าน “สวัสดีครับแม่เลี้ยงคนสวย เจอกันอีกแล้วนะครับ ^_^” รอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของผู้ชายคนนี้มันชั่งชวนให้ฉันย้อนคิดไปถึงเรื่องวันนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทั้งคำพูดที่ชวนให้คิดของเขาด้วย มันเป็นเรื่องที่น่าตลกสำหรับเขามากงั้นหรอ ที่ทำร้ายข่มเหงผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีทางสู้ได้ มันน่าภูมิใจมากขนาดนั้นเลยใช่มั้ย ฉันอยากจะถามเขาจริงๆ “เป็นไงบ้างครับบ้านหลังใหญ่โตดีมั้ย นอนหลับสบายมั้ยครับ เตียงนุ่มรึเปล่า ถ้าอยากได้อะไรเชิญผลาญเงินกับพ่อผมได้เลยนะครับ พอผมสายเปย์ หึ!!” เขามองหน้าฉันด้วยสายตาที่แสนจะรังเกียจ “ไอ้โชนอย่าให้ฉันต้องเอาคนมาลากตัวแกออกไปนะ” “เอาสิครับ” เขาพูดท้าทายคุณท่าน “คุณแม่เลี้ยงไม่คิดจะพูดอะไรกับลูกเลี้ยงคนนี้หน่อยหรอครับ เงียบทำไมคิดเรื่อง...อะไรอยู่” เขาเว้นระยะห่างของคำพูด ฉันรู้ดีว่าเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร “......” ฉันเงียบไม่พูดอะไร ฉันคิดว่าฉันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับคนอย่างเขา “คุณท่านคะ หนูขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อนนะคะ” “คุณพ่อครับผมมีอะไรจะบอก ถ้าผมพูดออกไปคุณพ่อคงต้องดีใจมากแน่ๆ ^_^” “อะไรของแก จะกวนประสาทอะไรฉันอีก” “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ดีใจจนแทบจะพูดไม่ออกเลยใช่มั้ยละครับ” ฉันหยุดชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ทันที ขะ เขาจะมาอยู่ที่นี่ อย่างงั้นหรอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม