วันต่อมา...
วันนี้คุณท่านพาฉันไปดูคอนโดแถวๆมหาวิทยาลัยที่ฉันต้องไปเรียน โชคดีที่ตอนเช้าไม่เจอกับลูกชายของคุณท่าน
นี่ไม่ใช่แค่การมาดูห้อง แต่ฉันขอคุณท่านย้ายเข้ามาอยู่วันนี้เลย เพราะฉันทนอยู่ที่บ้านของคุณท่านไม่ได้อีกแล้ว มีเขาอยู่ก็ต้องไม่มีฉัน
“หนูชอบห้องนี้มั้ย ถูกใจหนูรึเปล่า” คุณที่นหันมาถามฉันหลังจากที่เราเดินดูห้องกันสักพัก
“ห้องมันใหญ่ไป ให้หนูอยู่ห้องเช่าธรรมดาๆก็ได้ค่ะ แบบนี้รบกวนคุณท่านแย่เลย”
ห้องนี้มันกว้างยิ่งกว่าบ้านฉันหลังหนึ่งอีกนะ ฉันไม่ได้พูดเกินความจริง แต่ฉันพูดจริงๆ ห้องนี้ มีห้องนอนตั้งสองห้อง มีห้องครัวด้วย อย่างกับเป็นบ้านแหนะ
“ฉันเต็มใจให้หนูรับไว้เถอะ ห้องนี้มันเป็นของหนู”
ฉันยกมือขึ้นมาไหว้คุณท่าน คุณท่านให้อะไรหลายๆอย่างในสิ่งที่ฉันไม่เคยได้ ไม่เคยมี
“หนูพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปจัดการเรื่องเรียนให้”
หลังจากที่คุณท่านออกไปแล้วฉันก็จัดการเอาเสื้อผ้าใส่ตู้ไว้ จัดของใช้ส่วนตัวของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบสองชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วฉันก็มานั่งบนโซฟาตัวใหญ่
ขอให้ฉันหลุดพ้นจากกรงกามของคนใจร้ายคนนั้นสักที ฉันออกมาแบบนี้แล้ว หวังว่าเขาจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก
1 อาทิตย์ผ่านไป...
ฉันรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยจากลูกชายของคุณท่านแล้วแหละ เขาคงไม่วุ่นวายกับฉันแล้วจริงๆ หรือเป็นเพราะว่าเขาตามหาฉันไม่เจอก็ไม่รู้
คุณท่านจัดการเรื่องเรียนให้ฉันเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็รอให้ทางมหาวิทยาลัยเปิดเทอม แต่ฉันนี่สิไม่อยากไปเรียนเลย ฉันไม่ชอบการอยู่ในห้องเรียนสักเท่าไหร่เลยจริงๆ
กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น
ฉันที่กำลังทำอาหารกินอยู่รีบกดรับสาย เพราะคิดว่าคงต้องเป็นคุณท่านที่โทรศัพท์มาเพราะคุณท่านบอกว่าจะเข้ามาทานข้าวกับฉัน
( ฮัลโหลค่ะคุณท่าน )
ฉันกดรับสายแล้วก็รีบหันกลับไปดูไข่เจียวที่กำลังทอดคากะทะอยู่
( อย่าคิดว่าเธอจะหนีฉันพ้น ถ้าเธอยังเกาะพ่อฉันอยู่ ฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอมีความสุขแน่แสนดี)
เฮือก....!! มะ ไม่ใช่คุณท่าน แต่เป็นเขาที่โทรมา ขะ เขารู้เบอร์โทรศัพท์ของฉันได้ยังไง
#ไรท์อัพอีกทีดึกๆนะคะ จริงๆอยากอัพยาวกว่านี้แต่มีธุระต้องไป