ร่างบางที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของคนที่จะสัมภาษณ์งานเธอ สัมผัสแรกที่เข้ามาแอร์คือเย็นมาก เย็นจนเธอหนาวไปจนถึงกระดูกเลยล่ะ พอเธอมองสำรวจรอบๆห้องก็เจอกับการตกแต่งออกไปทางโทนสีดำที่ดูดุดันและน่ากลัวพร้อมกันนั้นเธอก็เหลือบมองไปเห็นชายร่างสูงที่นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านอะไรสักอย่างอยู่ที่โต๊ะทำงานโดยไม่ได้หันขึ้นมามองหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย เธอเดินไปจนถึงหน้าโต๊ะทำงานของเขาจากนั้นจึงได้เอ่ยแนะนำตัวกับเขาไป
" สวัสดีค่ะท่านประธาน ดิฉันชื่ออารยาพรรณาทิวากุลค่ะ มาสัมภาษณ์งานในตำแหน่งเลขานุการของท่านประธานค่ะ "
หลังจากที่ได้ยินเสียงหวานๆนั้นทำให้สตีเฟ่นส์เงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารใบสมัครงานที่เขากำลังอ่านประวัติของหญิงสาวอยู่ พอเขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองใบหน้าของเธอชัดๆทำให้เขาถึงกับตะลึงตาค้าง เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เห็นแล้วต้องสะดุดตาแต่เธอคือผู้หญิงตัวเล็กผิวสีน้ำผึ้งซึ่งเป็นสเปคของเขาเลย เขายอมรับว่าเขาถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกสบตา แต่นั่นก็ทำให้เขาต้องคีพลุคความเป็นท่านประธานจอมโหดเอาไว้ใช้กับเธอเสียก่อน
" เชิญนั่งครับคุณอารยา "
" ขอบคุณค่ะ "
ร่างบางนั่งลงยังเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับสตีเฟ่นส์
" ในประวัติที่คุณเขียนมาบอกว่าคุณจบบริหารมาพร้อมกับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง แล้วทำไมคุณถึงอยากมาเป็นเลขาให้กับผม "
สตีเฟ่นส์ถามพร้อมกับจ้องมองหน้าของอารยาอย่างต้องการหาคำตอบ
" ดิฉันต้องการทำงานกับบริษัทใหญ่ซึ่งจะทำให้ดิฉันมีประสบการณ์มากขึ้นค่ะ และหวังว่าดิฉันจะเป็นส่วนเล็กๆที่ทำให้บริษัทนี้เติบโตไปได้ค่ะ "
คนตัวเล็กตอบออกไปตามหลักการทั่วไปของการสัมภาษณ์งาน
" ผมต้องการคำตอบที่ทำให้ผมรู้จักคุณมากขึ้นและตัดสินใจเลือกคุณมาเป็นเลขาของผม "
" โอเคค่ะ ในเมื่อคุณต้องการคำตอบแบบเรียวๆดิฉันก็มีให้ค่ะ ที่ดิฉันเลือกจะมาสมัครงานที่นี่เพราะดิฉันเห็นว่าเงินเดือนที่จะได้รับมันสูงมากและมันก็มากพอที่จะทำให้ฉันสามารถลงทุนลงแรงกับที่นี่ค่ะ ตอนที่ลงประกาศคุณสมบัติระบุว่าต้องการคนที่สามารถทำงานแบบเอาเป็นเอาตายได้ ซึ่งดิฉันคิดว่าดิฉันมีข้อนั้นค่ะ ดิฉันเป็นคนมีความอดทนและทำงานได้ทุกอย่างแต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงเช่นกัน ถ้าทางบริษัทยินดีดิฉันก็ยินดีรับใช้ค่ะ "
คำตอบของร่างบางทำให้สตีเฟ่นส์พอใจอยู่ไม่น้อย เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะตอบออกมาตรงๆแบบนี้แต่ก็ดีเหมือนกันมันทำให้เขารู้สึกอยากร่วมงานกับเธอ เขาสัมผัสได้ถึงความจริงใจสิ่งที่เธอพูดมันออกมาจากใจจริงๆ
" งานที่นี่ค่อนข้างหนักและต้องมีการรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง ผู้หญิงตัวเล็กๆแบบคุณคิดว่าจะไหวหรือเปล่า "
สตีเฟ่นส์พูดพร้อมกับสำรวจตามร่างกายของเธอ เธอเป็นผู้หญิงบอบบางซึ่งเขาไม่คิดว่าเธอจะอดทนได้ด้วยซ้ำ
" ขอแค่เชื่อใจเท่านั้นค่ะ ดิฉันทำได้ ไม่ได้ให้ดิฉันไปแบกหามหรือว่าไปแบกปูนไปโบกตึกนี่คะแค่งานเอกสารยังไงดิฉันก็ทำได้อยู่แล้วค่ะ "
คำตอบของเธอทำให้สตีเฟ่นส์หลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้
" ผมชอบในความตั้งใจของคุณนะ แล้วคุณพอใจกับเงินเดือนที่ได้รับหรือเปล่า คุณต้องการจะต่อรองไหม "
" ในเว็บไซต์ที่รับสมัครงานระบุเอาไว้ว่า 50,000 บาท นั่นก็มากพอแล้วค่ะ แต่ถ้าท่านประธานจะเพิ่มให้ดิฉันก็ไม่ติดนะคะ "
หลังจากที่พูดจบเธอก็ส่งยิ้มน้อยๆไปให้กับเขา ซึ่งชายหนุ่มก็มองว่าเธอนั้นช่างใจกล้าเจรจาต่อรองกับเขาซะเหลือเกิน
" อืม...ผมจะให้คุณอยู่ที่เดือนละ 100,000 บาท แต่นั่นก็ต้องแลกกับการที่คุณจะต้องทำงานได้ตลอดเวลาที่ผมสั่ง นั่นหมายความว่าถ้าหากดึกดื่นแค่ไหนต่อให้เป็นเวลาเลิกงานแล้ว แล้วผมต้องการเอกสารหรือไฟล์งานคุณจะต้องพร้อมซัพพอร์ตผมตลอดเวลา คุณทำได้หรือเปล่า "
อารยาถึงกับอึ้งกับเงินเดือนที่เขาเพิ่มให้เธอถึงหนึ่งเท่าตัว 50,000 บาท เธอก็คิดว่ามันเยอะมากเกินไปแล้วสำหรับพนักงานธรรมดาแบบเธอ นี่เขาเพิ่มให้เธอตั้งหนึ่งเท่า แล้วเธอจะปฏิเสธได้ยังไง ต่อให้ใช้เธอทำงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง บอกตรงๆว่าน้ำผึ้งคนนี้ไหวค่ะ
" ถ้าดิฉันปฏิเสธเม็ดเงินต่อเดือนขนาดนี้ ดิฉันคงดูโง่มากเลยใช่ไหมคะ ดิฉันตกลงค่ะ ให้เริ่มงานได้วันไหนดีคะ...เจ้านาย "
สายตาที่บ่งบอกถึงความดีใจจนปิดไม่มิดของร่างบางทำให้สตีเฟ่นส์รู้สึกดีอยู่ไม่น้อยอย่างแปลกประหลาด เขารู้สึกชอบรอยยิ้มที่ดูใสซื่อของเธอ เพราะตลอดเวลาเขาเจอแต่ผู้หญิงที่กร้านโลกและเจนจัดเรื่องบนเตียงจนลืมไปแล้วว่าเจอผู้หญิงแบบเธอครั้งล่าสุดเมื่อไหร่
" คุณมาเริ่มงานพรุ่งนี้เช้าได้เลย ส่วนเรื่องเอกสารตารางงาน ผมจะให้บอดี้การ์ดของผมสอนให้คุณอีกรอบหนึ่ง วันนี้ก็กลับไปพักผ่อนได้ครับ "
หลังจากที่สัมภาษณ์งานเสร็จแล้วน้ำผึ้งก็เดินออกมาจากห้องนั้น แล้วก็ส่งยิ้มน้อยๆให้กับบอดี้การ์ดทั้งสองคนที่ต่อจากนี้ไปเธอจะต้องร่วมงานกับเขาพร้อมกับเอ่ยลา บิวตี้และน้ำผึ้งเดินมาถึงหน้าบริษัทแล้วบิวตี้ก็ไม่ลืมที่จะถามเพื่อนสาวถึงเรื่องผลสัมภาษณ์ เพราะเธอยังไม่กล้าถามในขณะที่ยังอยู่ในบริษัทแห่งนั้น
" ตกลงได้เปล่าวะน้ำผึ้ง "
" ได้สิแก เขาให้ฉันเป็นเลขาของเขาเริ่มงานพรุ่งนี้เลยพร้อมกันกับแกนั่นแหละ เสียดายที่เราไม่ได้อยู่แผนกเดียวกัน ถ้าอยู่แผนกเดียวกันก็คงดี แต่ไม่เป็นไรเนาะขอแค่ได้งานที่เดียวกันแค่นี้ก็สบายใจแล้ว "
" จริงแก ฉันลุ้นแทบตายกลัวว่าจะไม่ได้งานนี้เงินเดือนสูงนิ่วเลยนะแก วันนี้เราไปช้อปปิ้งกันนะไปซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่มาทำงานกัน ฉันยังไม่มีสักตัวเลย ฉันอยากจัดให้แกแซ่บๆด้วย "
บิวตี้ที่ชวนน้ำผึ้งไปช้อปปิ้งเพราะดีใจที่จะได้งานใหม่ แถมอยากใส่เสื้อผ้าใหม่ๆตามประสาวัยรุ่นทั่วไปด้วย
" ไปสิแก สุดสัปดาห์นี้เดี๋ยวเราค่อยไปฉลองที่ได้งานใหม่ด้วยกันนะ คืนนี้เห็นทีคงจะไม่ได้เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาทำงานไม่ทัน "
หลังจากตกลงกันเสร็จสรรพแล้วทั้งสองสาวก็พากันไปช้อปปิ้งได้ทั้งเสื้อผ้าห
น้าผมใหม่ทั้งหมด เพื่อเตรียมมาทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้