Chapter 6: เหตุผลที่ทิ้งน้องไป

1918 คำ
5 ปีก่อน คังบอมเดินเข้ามาในห้องอ่านหนังสือประจำบ้านพร้อมกีตาร์ตัวโปรด เขาหวังว่าจะเอาเพลงใหม่ที่เพิ่งแต่งเสร็จมาให้น้องสาววัย 15 ฟังเสียหน่อย ใคร ๆ ก็บอกว่าเขามีพรสวรรค์ด้านการแต่งเพลง ยัยซินน้องคนละสายเลือดของเขาก็ชอบฟังเพลงที่เขาแต่งเหมือนกันดังนั้นเด็กสาวจึงได้รับเกียรติให้เป็นคนฟังเพลงคนแรกของเขาทุกเพลงเสมอ เมื่อหนุ่มหล่อเดินเข้ามาในห้องอันเงียบกริบเขาก็เห็นน้องสาวในชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์นอนหลับอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องหนังสือ แสงแดดจ้าสาดเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่กระทบกับใบหน้าหวานของเด็กสาวทำให้เธอขมวดคิ้วเรียวสวยเป็นปม คังบอมรีบยกมือขึ้นบังแดดให้น้อง ไม่อยากให้น้องน้อยที่กำลังหลับใหลต้องตื่นขึ้นมาเพียงเพราะแสงแดดแยงตา หนุ่มลูกครึ่งหน้าสวยละเลียดมองใบหน้าน่ารักทีละส่วน แก้มสีชมพูธรรมชาติของสิชาบ่งบอกให้รู้ถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเธอ จมูกน้อยรั้นตรงปลายดูน่ารัก ดวงตากลมโตของเธอปิดอยู่ก็จริงแต่มันก็ทำให้เขาเห็นขนตายาวเป็นแพงอนงามของเธอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ยิ่งริมฝีปากอิ่มสีชมพูดูนิ่มน่าจูบยิ่งยั่วให้เขาอยากจะก้มลงไปประกบปากด้วยเป็นที่สุดและชายหนุ่มก็ทำแบบนั้นจริง ๆ คังบอมก้มหน้าลงจูบแผ่วเบาบนกลีบปากอิ่มของน้องน้อยที่กำลังหลับสนิท ความหวานซ่านแทรกในใจของชายหนุ่มวัย 23 ทันทีก่อนที่เสียงเปิดประตูห้องอ่านหนังสือจะดังขึ้นพร้อมเสียงห้าวแต่นุ่มนวลของพี่ชายคนโตของเขา “ไอ้บอม! มึงทำอะไร? มึงออกมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้!” เบนที่เห็นภาพอันไม่สมควรระหว่างพี่เลี้ยงหนุ่มกับน้องสาววัยเพียง 15 คำรามในลำคอ ไม่อยากทำเสียงดังจนเด็กสาวตกใจตื่น พี่ชายของบอมผู้กำลังเรียนรู้งานเพื่อบริหารธุรกิจนำเข้าและส่งออกอาหารแปรรูปขนาดใหญ่ที่เคยเป็นของสายชล ตั้งทรัพย์สง พ่อเลี้ยงของพวกเขาและเป็นพ่อแท้ ๆ ของสิชาดูจะหัวเสียมากเป็นพิเศษเมื่อเห็นน้องชายต่างพ่อของตัวเองแอบจูบน้องสาวคนละสายเลือด “มึงทำแบบนั้นได้ยังไง? ถ้าน้องรู้... ถ้าน้องรู้มึงจะทำยังไง?” เบนที่เรียกน้องชายออกมาคุยกันหน้าห้องอ่านหนังสือถามเสียงเข้ม “กูทำไปเพราะกูคิดว่า... กูรักซิน” คังบอมตอบออกไปหน้าตาเฉย “ไอ้เชี่ยบอม! พ่อชลฝากน้องไว้กับเรา ก่อนพ่อเสียพ่อก็บอกแล้วว่าดูแลน้องให้ดี ที่สำคัญกูกับมึงก็รู้กันอยู่ว่าน้องอาจจะไม่รักในสิ่งที่พวกเราเป็น การที่พวกเรารักน้องมันจะเป็นการทำลายน้อง ดังนั้นมึงรักน้องไม่ได้!” เบนสั่งเสียงเด็ดขาด “มึงพูดแบบนี้แสดงว่ามึงก็แอบรักยัยซินเหมือนกันงั้นเหรอ?” บอมเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม คังบอมอายุห่างจากเบนแค่เพียงสองปี ถึงสองพี่น้องจะเป็นลูกคนละพ่อแต่ก็รักใคร่สนิทสนมกันมาก พวกเขามีรสนิยมทางเพศคล้ายคลึงกัน ร่วมกันแบ่งปันคนรักก็หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เบนห้ามเขาหลงรักใครสักคน “ถึงใช่ก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นไหมวะ? ทั้งกู ทั้งมึง... พ่อชลดีกับพวกเรามาก เลี้ยงพวกเรามานานกว่าพ่อจริง ๆ ของพวกเราเสียอีก มึงจะหักหลังพ่อชลด้วยการเอาลูกสาวเขามาทำเมียไม่ได้! ที่สำคัญ... น้องมันแค่ 15 นะมึง! เด็กแค่อายุ 15 มันยังไม่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แค่มึงหลอกล่อ น้องมันก็ต้องหลงผิดอยู่แล้ว ถ้าคนอื่นรู้เข้ามึงโดนข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ไอ้บอม” พี่ชายเตือนสติน้องตัวเอง “แต่ความรักมันไม่มีอายุไหมวะ? แล้วมึงจะรู้ได้ยังไงว่ายัยซินไม่ได้รักกูหรือมึงในแบบที่กูกับมึงรักน้อง?” คังบอมถามพี่ชาย ดวงตามีแววกร้าวแฝงอยู่ “จริงอยู่ความรักมันไม่มีอายุ แต่อายุ 15 มันก็น้อยไปไอ้บอม ที่สำคัญมึงกับกูก็ไม่เหมือนคนอื่น ซินอาจจะรับไม่ได้... ในสิ่งที่พวกเราเป็น” เบนพูดขึ้นมา ถึงประโยคจะไม่กระจ่างชัดแต่คังบอมก็เข้าใจดีว่าพี่ชายหมายถึงอะไร เบนคงหมายถึงรสนิยมทางเพศของพวกเขาที่ชอบเซ็กซ์สามคน เบนคงกลัวผ้าขาวบริสุทธิ์อย่างสิชาต้องแปดเปื้อน เขาคงกลัวว่าจะไม่สามารถทำในสิ่งที่เคยรับปากกับสายชลไว้ได้ สายชลเลี้ยงดูพวกเขามาเกือบสิบปี ครั้งแรกที่คังบอมได้เจอสิชาเธอมีอายุเพียงห้าขวบ ยังเป็นเด็กน้อยแก้มแดงปลั่ง น่ารักน่าหอมเป็นที่สุด ตัวเขาที่อายุ 13 และพี่ชายที่อายุ 15 ต่างก็รักและเอ็นดูน้อง แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรักและเอ็นดูมันแปรเปลี่ยนไปเป็นความรักใคร่และอยากครอบครองเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อตอนที่น้องอายุ 14 แล้วเสียพ่อไป หรือตอนที่เธอบอกว่าเธอชอบเพลงที่เขาแต่ง หรือจะเป็นตอนที่เธอเริ่มหัดเล่นเปียโนเพื่อที่จะเล่นเพลงของเขา หรือว่าจะเป็นตอนที่เขาเห็นเธอในชุดกระโปรงยาวสีชมพูสวยตอนงานฉลองวันเกิดอายุครบ 15 ของเธอ? เขาไม่รู้ว่าเขาเริ่มรักน้องแบบชายหนุ่มหญิงสาวตั้งแต่เมื่อไหร่ เขารู้แต่ว่าเขารักเธอและอยากได้เธอมาก “งั้นเราให้เวลาน้องโตแล้วคิดได้เองจะดีไหม?” คังบอมถามพี่ชาย “แต่ถ้ารอจนถึงวันนั้นไม่มึงก็กูต้องอดใจไม่ไหวแล้วทำอะไรเกินเลยก่อนแน่ ๆ แค่กูเห็นมึงแอบขโมยจูบน้องกูก็รู้แล้วว่ามึงต้องตบะแตกสักวัน... อีกอย่าง... กูอยากให้น้องเติบโตขึ้นมาเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ เจอผู้ชายดี ๆ สักคน แต่งงานอย่างมีความสุข มีลูกสักโขยง มีรอยยิ้มทุกวัน มึงอย่าลืมว่าถ้าน้องรู้ว่าพวกเรารักน้องมันมีแค่สองทาง หนึ่งคือน้องรักตอบ ส่วนสอง... น้องอาจจะช็อกแล้วเกลียดพวกเรา ไม่อยากเห็นพวกเราอีกต่อไป ถ้าเป็นแบบแรกก็ดีไป แต่ถ้าเป็นแบบหลัง... แม้แต่ฐานะพี่เลี้ยงซินก็คงไม่ยอมให้พวกเราได้เป็น” เบนพยายามพูดให้บอมเห็นว่าสิ่งที่น้องชายทำลงไปมันไม่ควรและอาจมีผลร้ายมากกว่าผลดี “แต่กูรักน้อง... และกูก็รู้ว่ามึงรักน้องเหมือนกัน...” บอมจ้องเข้าไปในดวงตาสีอำพันของคนเป็นพี่ เขารู้ดีว่าเบนคงมีความคิดอยากเอาน้องมาเป็นของตัวเองเช่นกัน คนชอบเอาชนะอย่างเบนลองได้รัก ไม่มีทางปล่อยคนที่รักไปง่าย ๆ แน่ แต่เขาคาดผิด... “ใช่ กูรักน้อง กูยอมรับ ดังนั้นกูอยากให้น้องมีสิทธิ์เลือก... เลือกที่จะไม่รักพวกเรา กูจะไปอเมริกา ไปอยู่กับพ่อกู ไปช่วยงานพ่อ มึงเองก็ต้องมากับกูด้วย ถ้ามึงรักน้อง มึงต้องให้น้องได้โต ได้มีความคิดเป็นของตัวเอง พอถึงเวลานั้นค่อยให้น้องเลือกว่าน้องจะรักเราไหม ระหว่างนั้นถ้าเราตัดใจจากน้องได้ก็ดี ซินจะได้ไม่ต้องมาจมปลักอยู่กับความรักที่คนอื่นอาจมองว่าแปลกของพวกเรา” เบนหาทางออกของปัญหาให้ตัวเขากับน้องชาย “ไม่! ทำไมกูต้องไปวะ? ในเมื่อกูรักน้อง กูจะอยู่กับยัยซิน!” คังบอมประท้วงทันที “มึงจะอยู่กับยัยซินที่ยังเป็นเด็กแค่ 15 ไม่ได้! มึงเข้าใจคำว่า ‘ผู้เยาว์’ ไหม? ถึงน้องจะรับรักมึงแต่น้องอาจจะรักมึงแค่เพราะน้องยังเด็ก น้องไม่มีที่พึ่ง มึงต้องรอให้น้องโตกว่านี้ รู้จักคิดมากกว่านี้ ระหว่างนั้นถ้าเราเจอคนอื่นที่ใช่ก็ให้ลืมเรื่องยัยซินเสีย แต่ถ้าถึงวันนั้นทั้งมึงกับกูยังรักน้องอยู่... เราค่อยมาว่ากันอีกที” เบนสั่งน้องชายเสียงเข้ม “แล้วถ้าเราไม่เจอคนอื่นที่ใช่ แต่ยัยซินดันเจอล่ะ?” คังบอมถามพี่ชายด้วยความกังวล เบน มิลเลอร์ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วแค่นเสียงหัวเราะออกมานิดหน่อยก่อนจะพูดต่อ “มึงคิดว่าทั้งโลกนี้จะมีใครแย่งน้องไปจากกูกับมึงได้เหรอ? ถ้าถึงวันนั้นที่น้องโตขึ้นและตัดสินใจเองได้ ถึงมีผู้ชายมาเกาะแกะ เราสองคนก็ไม่มีทางแพ้มันอยู่แล้ว มึงก็รู้... มึงกับกูไม่ได้กระจอกขนาดนั้น” คังบอมนิ่งไตร่ตรองข้อเสนอของพี่ชายอยู่ครู่ใหญ่ เขาเหลือบมองประตูห้องอ่านหนังสือเป็นระยะ ใจคิดถึงแต่เด็กสาวที่กำลังหลับอยู่ในห้องนั้น เขาเองก็ไม่อยากได้ชื่อว่าพรากความบริสุทธิ์ของเธอไปก่อนวัยอันควร ยิ่งทำให้เธอต้องทุกข์เพราะอยู่ในความรักแบบแปลกประหลาดของเขาและพี่ชายเขายิ่งสองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากให้สิชารับรักเขากับพี่ อีกใจหนึ่งก็กลัวน้องจะเปราะบางจนทนคำครหาของคนอื่นไม่ได้ หรือว่าเขาต้องรอเวลาให้น้องเติบโตจริง ๆ ? “เราไปอเมริกากันสัก 3 ปีพอไหมมึง? ตอนนั้นน้องก็ 18” คังบอมต่อรองกับพี่ “รอน้องยี่สิบเราค่อยกลับมา 18 ก็ยังเด็กอยู่ดี... พวกเราจะได้รู้ตัวด้วยว่าที่รักน้องเพราะอยู่ใกล้น้องหรือเพราะรักจริง ๆ” เบนกำหนดระยะเวลาให้น้องชายเรียบร้อย “แล้วถ้าน้องอยู่ที่นี่ดันใจแตกเพราะพวกเราไม่ได้อยู่ดูแลล่ะ?” คังบอมถามพี่ชายด้วยใจที่ห่วงน้อง “เราฝากน้องไว้กับแม่สิ แกก็รู้ว่าแม่ของพวกเรารักสบาย เราจ้างคนให้มาดูแลงานบริษัทของพ่อชล การตัดสินใจอื่นกูจะจัดการให้เอง แบ่งผลกำไรให้แม่ไป ขอแค่แม่ดูแลให้ยัยซินไม่ออกนอกลู่นอกทาง แม่ต้องเต็มใจทำแน่ ๆ” เบนบอกแผนการให้น้องชายฟัง คังบอมพยักหน้ารับแผนของพี่ชายคนละพ่อช้า ๆ ในวันนั้นสองหนุ่มหล่อหารู้ไม่ว่าการจากไปเพื่อที่จะให้สิชาได้เติบโตและเลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการด้วยความต้องการของเธอเองจริง ๆ จะทำให้ชีวิตของสาวน้อยเหมือนตกอยู่ในนรกภายใต้การกระทำของแม่พวกเขาเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม