ทอฝันนั่งกอดอกแล้วมองหน้าเพื่อนสาวอย่างเอาเรื่อง เมื่อคืนก่อนเธอโทรไปหาสิชาก็ไม่รับสาย ส่งไลน์ไปสาวน้อยก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับมาเป็นรูปลูกหมากับงานกองโตเป็นการบอกให้รู้ว่าเธอกำลังยุ่ง เมื่อวานสิชาก็หลบหน้าเธอ ไม่มีตัวเรียนด้วยกันทำให้ไม่เจอกันด้วย ทำเอาความอยากรู้อยากเห็นเรื่องระหว่างสิชากับพี่ต้นกล้าของทอฝันพุ่งถึงขีดสูงสุด
“แกหลบหน้าฉันทำไม?” ทอฝันที่ลากสิชาออกมานั่งคุยที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะหลังจากหมดคาบเรียนถามเพื่อนเสียงเข้ม
“เปล่านี่ ฉันยุ่ง ก็ตั้งแต่แม่บีจับได้ว่าฉันแอบไปทำงานพิเศษที่ร้านอาหารแม่บีก็เพิ่มงานให้ฉันอีกเท่าตัว เพิ่มงานให้ป้าแจ่มด้วย ป้าแจ่มแก่แล้วทำงานไม่ไหวฉันก็ต้องช่วยป้าแจ่ม ไอ้ที่ยุ่งอยู่แล้วก็ยุ่งไปอีก” สิชาหลบสายตาเพื่อนแล้วแก้ตัว ความจริงแค่ไม่อยากให้ทอฝันยัดเยียดพี่ต้นกล้าให้เธอก็เท่านั้น
ตัวสาวน้อยเองก็ปลื้มต้นกล้าอยู่แต่รู้ตัวดีว่าไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมีแฟนได้ดังนั้นลืม ๆ มันไปเสียคงจะดีกว่า
“หยุดพูดเรื่องงานเยอะกับเรื่องป้าแจ่มแก่ได้แล้ว ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องพวกนั้น ฉันอยากรู้ว่าวันนั้นที่พี่กล้าไปส่งแกที่บ้านในสภาพที่เสื้อแกแหวกจนเห็นนม แกกับพี่กล้าไปถึงไหนกันแล้ว?” ทอฝันถามแล้วตาเป็นประกายเหมือนตั้งความหวังว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนสาวและรุ่นพี่หนุ่มคงพัฒนาไปไกลแล้ว
“คือ... ก็ไปถึง... ไปถึงแค่ประตูบ้านฉันไง... พอไปถึงฉันก็ยกมือไหว้ขอบคุณ สวัสดี ปิดประตูรถ จบ” สาวน้อยตอบเพื่อนแล้วยักไหล่
“หา?! แค่นั้นน่ะนะ? พี่เขาไม่ได้พูดอะไรกับแกอีกเหรอ?” ทอฝันถามเสียงสูง สิชาส่ายหน้าปฏิเสธทันที
“แล้วแกก็ไม่ได้ทำอะไรกับพี่เขาต่อเนี่ยนะ?” ทอฝันถามต่อ คิ้วเริ่มขมวดชนกัน
“จะให้ฉันทำอะไรพี่เขาล่ะ? เขาไม่พูดอะไร จะให้ฉันทำอะไรได้ ปล้ำพี่เขาเหรอ?” สิชาถามแบบติดขำ
“ปล้ำได้ก็ต้องปล้ำสิยะ! แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะจับเจ้าชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยกับเขาได้?” ทอฝันส่ายหัวไปมาอย่างระอากับเพื่อนสาวผู้แสนดี บ้องแบ๋ว ใสซื่อของเธอ
“ถามจริงเถอะฝัน ฉันจำเป็นต้องมีเจ้าชายถึงจะย้ายออกจากบ้านนั้นได้เหรอ?” สิชาเอียงหัวถามเพื่อน น้ำเสียงก้ำกึ่งระหว่างสลดใจกับหมดหวัง
“เฮ้อ! ถ้าไม่อาศัยเจ้าชายก็คงต้องอาศัยเสี่ยแก่ ๆ ที่ยอมทุ่มเงินให้แกสักคน ไม่งั้นแค่ทำงานเป็นเด็กล้างจานแกคงลำบาก ไหนจะค่าเทอมอีก ถ้าออกจากบ้านนั้นมาแกคิดว่าแม่เลี้ยงแกเขาจะจ่ายค่าเทอมให้แกเหรอ?” ทอฝันพูดอธิบาย อยากให้เพื่อนมองเห็นถึงความเป็นจริง
“จริงอย่างแกพูด... ขืนออกมาเพียงแค่เงินเดือนไม่ถึงหมื่นคงไม่พอให้ฉันดูแลตัวเองได้ แล้วที่สำคัญ... ฉันอยากมีเงินพอที่จะดูแลป้าแจ่มด้วย” สิชาพูดเบา ๆ
“แกเอาตัวเองให้รอดแล้วค่อยไปคิดถึงป้าแจ่มเถอะ” ทอฝันบอกเพื่อนอย่างหัวเสีย
ตั้งแต่ที่พ่อของสิชาเสียตอนอายุ 12 ป้าแจ่มก็เป็นคนเก่าคนแก่เพียงคนเดียวที่แม่บีเหลือทิ้งไว้ให้ช่วยดูแลในบ้าน เวลาสิชาทุกข์หรือร้องไห้ป้าแจ่ม แม่บ้านวัย 60 ปี คนเก่าคนแก่ของตระกูลพร้อมทรัพย์สงของพ่อเธอก็เป็นคนดูแลและปลอบโยนเธอ หากสิชาไม่ห่วงป้าแจ่มแล้วสิชายังจะมีใครให้ห่วงอีก?
“งั้น... แกคิดว่าฉันควรจะจีบพี่กล้าให้ติดแล้วขอเขาให้ช่วยเหลือจริง ๆ เหรอ?” สิชาถามเพื่อนสาวซ้ำอีกครั้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
“แน่นอน ถ้าพี่เขารักแกมีหรือเขาจะไม่ช่วย ฉันจับตาดูมานานแล้ว พี่กล้านี่แหละเหมาะกับแกที่สุด รูปหล่อ พ่อรวย ฉันเห็นเขามีแฟนแต่ละคนเปย์ไม่อั้น ยัยน้องกุ๊กคณะพยาบาลแฟนเก่าพี่เขาได้รถยนด์เลยนะแก ยัยจอยซ์แฟนเก่าอีกคนก็ได้คอนโด ถึงจะเล็กไปหน่อย แต่คนลือกันว่าหรูเลยแหละ” ทอฝันเริ่มยุเพื่อนต่อ
“แต่... พี่เขาเปลี่ยนแฟนบ่อย” สิชาท้วงขึ้น
“เปลี่ยนบ่อยก็ช่าง ขอแค่ก่อนเปลี่ยนเขาช่วยแกให้หลุดออกมาจากบ้านนั้นได้ก่อนเถอะ อ๊ะ! นั่นไง พี่กล้าเดินออกจากตึกมาพอดี เดี๋ยวฉันเรียกพี่เขาเลยนะ”
“ดะ... เดี๋ยวแก! อย่า...” สิชาเอ่ยห้ามเพื่อน แต่ไม่ทันเสียแล้ว
“พี่กล้าขา! พี่กล้า! ทางนี้ค่ะ!” ทอฝันกวักมือเรียกรุ่นพี่รูปหล่อเป็นการใหญ่
ต้นกล้าคลี่ยิ้มเมื่อเห็นสองสาวที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อน หนุ่มหล่อเดินตรงเข้าไปหารุ่นน้องทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีครับสาว ๆ นี่เรียนเสร็จแล้วเหรอ?” ต้นกล้าถามแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างสิชา
“เรียนเสร็จแล้วค่ะ วันนี้มีเรียนถึงสี่โมงแค่นั้น ฝันกับซินกำลังคุยกันพอดีเลยว่าจะไปหาอะไรทานกันหน่อย ฝันอยากทานไอศกรีม แต่ซินบอกอยากทานบิงซู พี่กล้าว่าไปทานอะไรดีคะ?” ทอฝันหาเรื่องพูดกับรุ่นพี่หนุ่มจนได้
สิชาขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อนแล้วขยับปากแบบไม่ออกเสียงบอกให้เพื่อนสาวหยุดพูดได้แล้วแต่ดูเหมือนทอฝันจะไม่สนใจ
“หรือพี่กล้าเห็นว่าควรทานอย่างอื่นดีคะ?” ทอฝันถามต่อ
“ไปกินบิงซูกันสิ พี่เลี้ยงก็ได้” ต้นกล้าเอ่ยขึ้นมาทันทีไม่ต้องคิดมาก
“แน่ะ! ตามใจยัยซิน พี่กล้านี่ใจดีที่สุดเลยค่ะ ดีราวเจ้าชายเลยทีเดียว แบบนี้ถ้าพี่กล้าได้เป็นแฟนยัยซิน ยัยซินรักตายเลย”
โอ๊ย! ยัยฝัน! จะชงเข้มไปถึงไหน?! ขายแทนเพื่อนจนเพื่อนอายแล้วเนี่ย
สิชาได้แต่คิดในใจ หน้าแดงปลั่งเพราะเขินอายแล้วหันมามองพี่กล้าแวบหนึ่ง รุ่นพี่หนุ่มมองเธอตาหวานแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่บอกก็รู้ว่าคงชอบเธออยู่บ้าง
“ถ้าซินเขามีใจให้พี่เขาคงให้เบอร์หรือไลน์พี่ไปแล้ว แต่นี่พี่ขับรถไปส่งถึงบ้านยังไม่เคยได้แม้แต่ไลน์ซินเขาเลย” ต้นกล้าพูดลอย ๆ เหมือนตัดพ้อ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวที่เขาพูดถึงก็นั่งอยู่ข้าง ๆ
“แหม! ยัยซินนี่แย่จริงนะคะ ไม่เป็นไรค่ะพี่กล้า เดี๋ยวฝันส่งไลน์ซินให้เอง ซินเขาไม่ค่อยได้สุงสิงกับผู้ชายน่ะค่ะ ตอนมัธยมก็เรียนโรงเรียนหญิงล้วน ถ้าพี่กล้าได้ซินไปเป็นแฟนจริง ๆ พี่กล้าจะโชคดีมากเลยค่ะ ได้ของดี บริสุทธิ์ ผุดผ่องแน่นอน!” ทอฝันบรรยายคุณสมบัติของสิชาราวกับกำลังจะเสนอขายเพื่อนให้รุ่นพี่หนุ่ม
“ยัยฝัน! พูดเพ้อเจ้อ! พี่กล้าไม่ต้องไปฟังยัยฝันค่ะ แค่พูดไปเพราะสนุกปากเท่านั้น” สิชาดุเพื่อนทันที
“เรื่องอะไรที่ฝันพูดเพ้อเจ้อ? เรื่องที่พี่โชคดีถ้าได้ซินเป็นแฟนหรือเรื่องที่ซินบริสุทธิ์ผุดผ่อง? เรื่องไหนที่ไม่จริงซินลองบอกพี่ซิ” หนุ่มหน้าคมถามยิ้ม ๆ
ทอฝันพยักหน้าด้วยความพอใจ พี่กล้าก็ลีลาจีบสาวเด็ดใช่ย่อย มิเสียแรงที่มีแฟนมาแล้วหลายคน
“ที่พูดมาจริงทุกเรื่อง เสียดายที่มึงจะไม่มีโอกาสได้พิสูจน์สักเรื่อง!” เสียงห้าวทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นมา
สามหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะม้าหินอ่อนหันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกัน และเมื่อสิชาเห็นว่าเจ้าของเสียงที่เดินตรงเข้ามาหาเธอเป็นใครสาวน้อยก็ได้แต่อ้าปากค้างแล้วยกมือขึ้นขยี้ตาเบา ๆ
เจ้าของเสียงเป็นหนุ่มผมดำ ผิวขาวละเอียด หน้าหวานสวยกว่าผู้หญิงเสียอีก ริมฝีปากชมพู จมูกโด่งแต่พองาม ดวงตาเรียว หางตาชี้ขึ้นดูคมเหมือนตาเหยี่ยว ร่างสูงใหญ่กำยำ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ดูด้วยตาก็รู้ว่าต้องสูงมากกว่า 185 เซนติเมตรแน่ ๆ เขาสวมเสื้อเชิ้ตลำลองสีฟ้าอ่อนทับด้วยสูทลำลองสีกรมท่าและกางเกงขายาวสีเดียวกับสูทเข้าชุดกัน ที่ข้อมือซ้ายมีนาฬิกาเรือนหรูที่ราคาไม่ต่ำกว่าแสนใส่อยู่ ดูโดยรวมแล้วเหมือนพวกดาราเกาหลีไม่มีผิด
“พะ... พี่บอม... พี่บอมมาที่นี่ได้ยังไง?” สิชามองหน้าเขาแล้วทำหน้าซีดเหมือนเห็นผี
“มาได้ยังไงก็เรื่องของฉัน พี่เบนรออยู่บนรถ กลับบ้านกัน” หนุ่มหล่อลูกครึ่งเกาหลีบอกสาวน้อยแล้วบุ้ยใบ้ไปทางถนนหน้าคณะที่มีรถลีมูซีนสีดำคันยาวจอดอยู่และเบนก็เหมือนจะรู้ว่าน้องชายเอ่ยถึงเขา หนุ่มหล่อผมทองจึงกดกระจกรถด้านหลังตรงจุดที่ตนนั่งอยู่ลงมาเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาคล้ายรูปปั้นเทพบุตรกรีกจนทอฝันที่มองเห็นเข้าถึงกับตาค้าง
“พี่เบนก็มาด้วย... ทะ...ทะ... ทำไมพวกพี่กลับมาเมืองไทยได้?” สิชาถามเสียงเบาเหมือนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“แม่ฉันก็อยู่ที่นี่... สมบัติของพวกฉันก็อยู่ที่ไทยเยอะแยะ และที่สำคัญเธอ... ยัยซิน... เธอก็อยู่ที่นี่ ทำไมพวกฉันถึงจะกลับมาที่นี่ไม่ได้?” คังบอมตอบคนเป็นน้องเสียงเข้ม มีความทะนงแฝงอยู่ในน้ำเสียง เขาเหลือบมองต้นกล้าด้วยหางตาเพียงเสี้ยววินาทีแล้วกลับไปจ้องหน้าสิชาต่อ
“กลับกันได้หรือยัง? แม่บอกว่าวันนี้เธอเลิกเรียนตอนสี่โมง นี่มันสี่โมงกว่าแล้ว ฉะนั้นไปขึ้นรถ เดี๋ยวนี้!” คังบอมบอกกึ่งสั่งแล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางรถลีมูซีนที่จอดรออยู่
“อย่าให้ฉันต้องสั่งซ้ำเป็นครั้งที่สองนะยัยซิน!” หนุ่มหล่อหน้าหวานตะโกนกลับมาบอกสิชาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ยังหันหลังอยู่
“เออ... ซินกลับก่อนนะคะพี่กล้าสวัสดีค่ะ ฉันไปนะฝัน ไว้ค่อยโทรคุยกัน” สิชาดูร้อนรนกว่าปกติ สาวน้อยรีบฉวยกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมาถือเตรียมลุกขึ้นเพื่อเดินจากไป
“ซิน แกมีเจ้าชายรออยู่ตั้งสองคนก็ไม่บอกฉัน ทั้งหล่อ ทั้งรวย แหม... มีลีมูซีนนั่ง มีคนขับรถพร้อมเชียว ถ้ารู้ว่าแกมีเจ้าชายให้เลือกแบบนี้ฉันไม่เสียแรงล่อพี่ต้นกล้ามาให้แกหรอก” ทอฝันกระซิบข้างหูเพื่อนด้วยความตื่นเต้น พยายามไม่ให้ต้นกล้าได้ยินสิ่งที่เธอกำลังพูด
สิชาทำหน้าเศร้าแล้วมองเพื่อนรักก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ แล้วกระซิบตอบ
“เจ้าชายบ้าบออะไรล่ะแก! ที่เห็นหล่อ ๆ สองคนนั่นไม่ใช่เจ้าชายแต่เป็นพี่เลี้ยงใจร้ายของฉันเอง!” สิชาพูดจบก็รีบวิ่งตรงไปทางรถลีมูซีนที่ตอนนี้พี่เบนสั่งคนขับรถให้บีบแตรเรียกเธอซ้ำอีกรอบทันที
ซินนะซิน! ซวยอะไรกันนักกันหนา? ซวยอะไรน่ะเหรอ? เมื่อพี่เลี้ยงใจร้ายทั้งสองกลับมา ชีวิตน้อย ๆ ของซินเดอเรลล่าก็ต้องบัดซบแน่ ๆ น่ะสิ!