Chapter 2: หาเจ้าชายให้ยัยซิน

1905 คำ
ต้นกล้ารีบก้มตัวลงไปบนพื้นแล้วช่วยสองสาวมองหากระดุมเสื้อของสิชาในขณะที่ดลภานั่งกอดอกแน่นไม่ยอมขยับตัวช่วยหากระดุมเลยสักนิด สายตาของรุ่นพี่หน้าตาหล่อคมมองพื้นหากระดุมไปก็เหลือบมองสาวน้อยสิชาที่ยิ่งก้มอกคู่อวบก็ยิ่งดูยั่วยวน คอเสื้อลึกจนเห็นเนินอิ่มชัดถนัดตาขึ้น ทอฝันขยิบตาแล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพื่อนสาวแต่สิชาก็ไม่รู้อยู่ดีว่ายิ้มที่ทอฝันส่งมามันหมายถึงอะไร “อ๊ะ! ฝันเจอกระดุมแล้วค่ะ” ทอฝันพูดขึ้นพลางหยิบกระดุมเสื้อที่ตัวเธอเองแอบซ่อนเอาไว้ออกมา “นี่กระดุมเสื้อซิน เจอแล้ว กลับบ้านได้ คุณแม่ซินน่าจะรู้ว่าวันนี้มีเรียนถึงแค่บ่ายโมง ถ้าไม่กลับเดี๋ยวคุณแม่ซินจะว่าเอานะ” ทอฝันทำเป็นพูดแล้วดึงตัวเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นยืน “ซินจะกลับยังไง? แท็กซี่เหรอ?” ต้นกล้าที่ลุกขึ้นมาบ้างถามออกไป “ซินขึ้นรถเมล์กลับค่ะ” สิชาตอบทันทีมือน้อยยังดึงคอเสื้อให้เข้ามาชิดกันเพื่อปิดอกอิ่ม “เออ... เสื้อซินขาดขึ้นรถเมล์คงไม่เหมาะ ไม่งั้นคงต้องยืนบนรถเมล์แล้วดึงเสื้อไปด้วย ลำบากแย่ เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งที่บ้านเอง โอเคไหม?” ต้นกล้าเสนอตัวทันที “โอเคเลยค่ะพี่กล้า! ซินกลับไปก่อนนะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันโทรหา อ้อ! หวาน ยังอยู่ตรงนี้เหรอ? ขอโทษทีนะ ฉันไม่เห็นเธอเลย สงสัยเธอเด่นไม่พอ ทำไมหวานยังนั่งต่อล่ะ? จะอ่านหนังสือต่อคนเดียวเหรอ? พี่กล้าเขาบอกว่าเขาจะไปส่งซินแล้วไง แสดงว่าเขาไม่ติวหนังสือให้เธอแล้ว” ทอฝันตอบรับคำรุ่นพี่แทนเพื่อนแล้วหันไปจิกกัดเพื่อนสาวดาวยั่วด้วยนิดหน่อย “เออ... แต่... พี่กล้าคะ...” ดลภารีบหันไปทำเสียงหวานกับต้นกล้า “เท่าที่พี่ดูโน้ตที่หวานจดมา มันละเอียดกว่าที่พี่จดอีกนะ หวานน่าจะเข้าใจวิชานี้ดีกว่าพี่ด้วยซ้ำ แล้วอีกอย่างเสื้อซินขาดอยู่ ปล่อยซินขึ้นรถเมล์กลับบ้านทั้งอย่างนี้ไม่ดีแน่ พี่ไปส่งซินก่อนนะ ปะ ซิน พี่จอดรถไว้ที่ข้างตึก กลับบ้านกัน” ต้นกล้าบอกดลภาแล้วหันหน้าไปพูดกับสิชาต่อก่อนจะเก็บหนังสือลงกระเป๋าแล้วเดินนำหน้าสิชาไปทางที่จอดรถข้างอาคารปล่อยให้รุ่นน้องสาวอีกสองคนมองตามหลังไป “ทอฝัน! เธอเห็นอยู่ว่าฉันกำลังอ่อยพี่กล้า เข้ามาขัดทำไม?! จะหาเรื่องกันเหรอ? หรือว่าเธอชอบพี่กล้า?” ดลภาถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “นี่หวาน... ถ้าฉันชอบพี่กล้าฉันรวบเองแล้วแหละ ที่ส่งให้ซินเพราะซินจำเป็นต้องหาเจ้าชายให้ได้ต่างหาก อย่างเธอยังมีผู้ชายอื่นรอให้ไปยั่วอีกเยอะ อย่างยัยซินยั่วใครไม่เป็นฉันก็ต้องช่วยหน่อยสิ และที่สำคัญ... อย่างเธอพี่กล้าเขาไม่ชอบหรอก ดูแฟนเก่าพี่เขาแต่ละคนสิ พี่รินคณะศึกษา น้องกุ๊กคณะพยาบาล ยัยจอยซ์คณะบริหาร แต่ละคนแนวใส ๆ ทั้งนั้น... แนวเดียวกับยัยซิน ฉะนั้นหวานไปหาอ่อยคนอื่นเถอะ คนนี้ยกให้เป็นเจ้าชายของยัยซินก็แล้วกัน” ทอฝันบอกเพื่อนร่วมคณะก่อนจะเดินจากไปพร้อมความภูมิใจในตัวเองที่คัดเลือกเจ้าชายสุดหล่อให้เพื่อนได้ ปล่อยให้ดลภาขมุบขมิบปากด่าตามหลังเธอไปอย่างไม่แยแส ---------------------- “บ้านซินอยู่แถวนี้เหรอ? นี่มันหมู่บ้านพวกเศรษฐีนี่นา ไม่น่าเชื่อว่าซินอยู่หมู่บ้านนี้แต่ต้องไปกลับมหาวิทยาลัยด้วยรถเมล์” ต้นกล้าที่ขับรถมินิคูเปอร์สีแดงสดเข้ามาในเขตหมู่บ้านใหญ่ที่กว่าจะผ่านเข้ามาได้ต้องแลกบัตรและผ่านหน่วยพนักงานรักษาความปลอดภัยถึงสามชั้นด้วยกันถามขึ้น สิชาไม่ตอบได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ มือน้อยข้างหนึ่งยังคงดึงคอเสื้อให้มาปิดชิดกันเพื่อป้องกันเนินอกอวบอวดสายตารุ่นพี่หนุ่ม “บ้านของซินหลังไหน?” ต้นกล้าถามขึ้นมา “หลังที่อยู่สุดซอยน่ะค่ะ ที่เห็นหลังคาบ้านสีขาว ตอนนี้ยังไม่มืด ประตูรั้วใหญ่ยังเปิดอยู่ พี่กล้าขับรถเข้าไปส่งซินถึงหน้าบ้านได้เลยค่ะ” สิชาบอกแล้วชี้นิ้วเรียวไปยังหลังคาสีขาวของบ้านหลังใหญ่ ต้นกล้าได้แต่ตะลึงกับขนาดของบ้านรุ่นน้องสาว บ้านสไตล์ยุโรปหลังใหญ่โตโอฬารราวปราสาทในเทพนิยาย เนื้อที่บ้านเท่าที่ดูด้วยตาคงไม่ต่ำกว่า 2-3 ไร่ ในตัวบ้านมีบ้านหลังเล็กหลังน้อยเต็มไปหมด แถมในเขตบ้านยังมีถนนพร้อมวงเวียนเล็ก ๆ อีกด้วย ไม่บอกก็รู้ว่าต้องเป็นบ้านมหาเศรษฐี “ขอบคุณพี่กล้าที่มาส่งซินนะคะ สวัสดีค่ะ” สิชารีบยกมือขึ้นไหว้รุ่นพี่แล้วทำท่าจะลงจากรถ “เดี๋ยวซิน! พี่ไม่ยักรู้ว่าซินรวยขนาดนี้ พี่เห็นซินแต่งตัว... เออ... ไม่ค่อยจะใหม่ แล้วก็ไม่เห็นใส่เครื่องประดับอะไรเลย พี่เลยนึกว่าซินเป็นพวกแบบ... เออ...” “เป็นพวกยากไร้ใช่ไหมคะ?” สิชาถามแล้วยิ้ม ไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่รุ่นพี่มองว่าเธอกระจอก “บ้านนี้เป็นบ้านซินแต่ก็ไม่เหมือนบ้านซินแล้วค่ะ มันเคยเป็นบ้านของพ่อซิน แต่ตอนนี้เจ้าของบ้านคือแม่ของซินค่ะ ซินกำลังจะเก็บเงินย้ายออกจากบ้านพอดี ซินคงจะอยู่ที่นี่อีกไม่นาน ฉะนั้นที่พี่กล้าคิดว่าซินจน พี่กล้าคิดไม่ผิดหรอกค่ะ ซินจนจริง ๆ ซินไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” สาวน้อยตอบรุ่นพี่ฉะฉานแล้วก้าวลงจากรถทันทีไม่มีพิรี้พิไร ถ้าทอฝันรู้ว่าตลอดทางที่พี่กล้าขับรถมาส่งเธอ เขากับเธอคุยกันแค่ไม่กี่ประโยค แถมตอนจะลงรถเธอตัดบทสนทนาให้กระชับทอฝันมีหวังด่าเธอยับเพราะเพื่อนสาวของเธอลงทุนวางแผนให้เธอได้ใกล้ชิดเจ้าชายเป็นดิบดี แต่สิชากลับไม่กล้าจะสานสัมพันธ์กับเขาเสียนี่ อย่างซินจะเอาเวลาที่ไหนไปจับผู้ชาย แค่ทำงานบ้านแต่ละวันให้หมดและหาเวลาแอบทำงานพิเศษก็หมดวันแล้ว สาวน้อยปิดประตูรถแล้วโบกมือให้รุ่นพี่รูปหล่อเหมือนเป็นการบังคับให้ต้นกล้าออกรถไปให้พ้นจากบ้านของเธอ สุดท้ายต้นกล้าก็จำต้องขับรถจากไปทิ้งให้สิชามองตามหลังรถของเขาด้วยสายตาครุ่นคิด ยัยฝันคิดผิด ไม่มีใครช่วยเธอไปจากบ้านหลังนี้ได้นอกจากตัวเธอเอง หากจะหวังพึ่งเจ้าชายก็คงพึ่งได้ไม่นาน เพราะเจ้าชายเขามีเจ้าหญิงให้เลือกอยู่แล้ว ถึงเขาช่วยเธอได้แต่ในอนาคตถ้าเขาเจอเจ้าหญิงคนใหม่เขาก็คงทิ้งนางก้นครัวอย่างเธออยู่ดี เจ้าชายก็ต้องคู่กับเจ้าหญิง ไม่ใช่แม่บ้านอย่างซิน “ยัยซิน! นั่นใครมาส่งแก?” บุหลันเดินออกมาทันเห็นลูกเลี้ยงลงมาจากรถยนต์ของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาพอดิบพอดีเอ่ยถามขึ้นมาเหมือนจะมีความไม่พอใจติดอยู่ในน้ำเสียง “รุ่นพี่ที่คณะค่ะ ซินทำกระดุมเสื้อขาด พี่เขาไม่อยากให้ขึ้นรถเมล์กลับเองเขาเลยมาส่งค่ะ” สิชาตอบแล้วทำท่าจะเดินเข้าบ้าน ไม่สนใจจะยกมือขึ้นไหว้แม่เลี้ยงตัวเองด้วยซ้ำ “ยัยซิน... แกรู้ใช่ไหมว่าแกเป็นสมบัติของบ้านนี้ แกจะหนีไปไหนไม่ได้ ถึงจะมีเจ้าชายขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยก็ไม่มีทางหนีไปได้... ไม่มีทาง... และเพราะอะไรแกก็คงรู้ดี” บุหลันพูดเสียงเข้ม “ทำไมซินจะไปไหนไม่ได้คะ? แม่บีรู้เอาไว้ด้วยนะคะว่าสมบัติของพ่อที่แม่บีได้มรดกไปมันไม่รวมถึงตัวซิน” สิชาหันมาจ้องตาแม่เลี้ยงแล้วบอกไปด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เธอเป็นคนอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ที่เธอออกจากบ้านหลังนี้ไปไม่ได้สักทีเพราะมีห่วงอีกหลายอย่าง หากวันใดเงินพร้อมใจพร้อมเธอจะไม่ลังเลที่จะไปจากมันเลย “เหอะ! จริงอยู่ที่แกไม่ใช่สมบัติของฉัน แต่แกรู้ดีนี่ว่าถึงแกจะหนีฉันไปได้ แต่แกหนี ‘สองคนนั้น’ ไม่ได้แน่... ไม่เชื่อก็ลองดู” บุหลันบอกลูกเลี้ยงสาวแล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์โทรออกหาใครสักคน “ฮัลโหล เบน เบนอยู่กับบอมไหม?... เออ... คือ... แม่มีเรื่องจะบอก... แม่คิดว่ายัยซินริจะคบผู้ชาย... อ้อ... แม่เห็นมาส่งกันถึงบ้าน พูดจาลากันงี้อี๋อ๋อเชียว โอเค... แม่จะบอกยัยซินให้ เท่านี้นะ แม่มีธุระจะออกไปข้างนอกพอดี” บุหลันกดวางสายหลังจากบอกเล่าเรื่องราวที่เธออยากบอกให้กับคนปลายสายรับทราบก่อนจะหันหน้ามาแสยะยิ้มส่งให้ลูกเลี้ยงสาว “แม่บีโทรบอกพวกเขาทำไม?” สิชาขมวดคิ้วแล้วถามแม่เลี้ยงเพราะเธอรู้แน่ว่าปลายสายที่แม่บีโทรหาเป็นใคร “ก็แกดื้อ ฉันเอาแกไม่อยู่ ทั้งเรื่องแอบไปทำงานพิเศษ ทั้งเรื่องร่านให้ผู้ชายมาส่งถึงบ้าน... ในเมื่อฉันเอาแกไม่อยู่ฉันก็ต้องฟ้องให้คนที่เอาแกอยู่มาจัดการแกน่ะสิ แล้วพวกเขาฝากบอกมาด้วยว่าแกน่ะ... อย่าดื้อให้มันมากนัก” บุหลันพูดแล้วจ้องตาลูกเลี้ยงสาว ริมฝีปากสีแดงราวเลือดยกยิ้มอย่างร้ายกาจก่อนจะตะโกนเรียกคนขับรถให้เอารถออก สิชามองตามหลังแม่เลี้ยงคนสวยที่กำลังขึ้นรถเพื่อออกไปจากบ้านของเธอ ในใจทั้งหวาดกลัว ทั้งตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแม่เลี้ยงเอ่ยถึง ‘พวกเขาสองคน’ สาวน้อยไม่ได้เจอ ‘พวกเขา’ มาห้าปีแล้ว แม้แต่อีเมลสักฉบับสองคนนั้นก็ไม่เคยส่งให้เธอ ปล่อยให้เธอต้องอยู่กับบุหลัน ถูกใช้งานเยี่ยงทาส ไม่มีใครติดต่อพวกเขาได้นอกจากแม่ของพวกเขาเอง เธอมันก็คงเป็นแค่เห็บหมัดในชีวิตของพวกเขา... แล้วจะผิดหรือหากเห็บหมัดจะพยายามดิ้นรนออกไปจากตัวหมา? หมาสมควรจะดีใจไม่ต้องกลัวว่าจะโดนสูบเลือดสูบเนื้อสิถึงจะถูก... ตอนนี้หากพวกเขารู้ว่าเธออาจมีผู้ชายคนอื่นในชีวิตพวกเขาก็คงจะต้องดีใจอยู่แน่ ๆ ที่เธอจะไปจากบ้านนี้เสียที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม