การผจญภัยใกล้จะเริ่ม

913 คำ
20 ปีผ่านไป มนต์ชญา เติบโตขึ้นเป็นสาวเต็มวัย เธอเริ่มต้องไปหางานพิเศษทำเพราะอยากช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของบิดา "พ่อจ๋า เหนื่อยไหมวันนี้น้ำมนต์ซื้อของโปรดมาฝากพ่อด้วยนะ" เธอหยิบปลาดุกย่างที่ย่างเสร็จใหม่ๆร้อนๆหอมฉุยออกมาจากห่อใบตอง ออดอ้อนเอาใจ "ซื้อมาหรือเอ็งไปจับมา" บุญล้อมมองไปที่ขากางเกงเธอที่เปียกเลอะเทอะโคลน "พ่อน่ะอย่ามารู้ทันสิ ไอ้กำปั่นมันชวนไปหน่ะบ้านป้ารีเขามีวิดน้ำออกจากบ่อ" "อย่าทะโมนให้มันมากนะเอ็ง เป็นผู้หญิงยิงเรือ" น้ำมนต์ไม่ตอบแต่กลับเขามากอดหอมผู้เป็นพ่อแทน "นานๆทีจะได้กลับมาสนุกที่บ้าน เรียนที่กรุงเทพมันเครียดนะพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องกลับไปเรียนแล้ว" เธออ้อนว่าต้องห่างจากพ่ออีกแล้ว "ก่อนไปเดี๋ยวเอ็งไปกราบหลวงปู่ด้วยหล่ะ" "รู้แล้วจ้ะ เออ พ่อน้ำมนต์ได้งานพิเศษด้วยนะ ปิดเทอมหน้าน้ำมนต์ไม่ได้กลับมานะขอไปทำงานกับเพื่อน" "งานอะไร เอ็งมีหน้าที่เรียนก็เรียนไปอีกปีกว่าก็จะจบแล้ว" บุญล้อมทั้งรักทั้งห่วงลูกสาวที่ฟูมฟักมาแต่อ้อนแต่ออก "ถือว่าน้ำมนต์ไปหาประสบการณ์แล้วกันนะพ่อ เพราะจบมาน้ำมนต์ก็ต้องหางานทำอยู่ดี น้ำมนต์จะไม่ให้พ่อบุญล้อมของน้ำมนต์เหนื่อยอีกแล้ว นะ" เธอกอดพ่อ รู้ซึ้งถึงบุญคุณที่พ่อเลี้ยงเธอมาด้วยความเหนื่อยยาก "เอ็งไม่ต้องเป็นห่วงพ่อหรอก เอ็งหาเลี้ยงตัวเองได้พ่อก็พอใจแล้ว" บุญล้อมตบไหล่ลูกสาว กลางดึกคืนนั้นบุญล้อมมีอาการนอนไม่ค่อยหลับเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่างทำให้เขาไม่ค่อยสบายใจนึกเป็นห่วงลูกสาวขึ้นมาทันที "ไอ้กระจิ๊ดริด กระจ้อยร่อย พวกเอ็งตามไปดูแลน้องด้วยนะ" เขาลุกขึ้นมากราบพระสวดมนต์ขอพรและหันไปสั่งรักยมที่อยู่ในโหลแก้วตรงหน้า "โครมม" เสียงรถของเล่นหล่นลงมาเป็นอันรู้กันว่าเจ้าสองรักยมน้อยรับทราบ ลางสังหรณ์ของเขามันบอกว่าลูกสาวกำลังมีเหตุการ์ที่ต้องเผชิญหน้าครั้งสำคัญบอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะร้ายแรงแค่ไหน แต่มันคงถึงเวลาที่เธอต้องเอาสิ่งพิเศษที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้งาน บุญล้อมเองเคยได้สอนคาถาอาคมบางบทให้กับมนต์ชญาเอาไว้ใช้ในยามขับคันรวมถึงให้มีดหมอด้ามจิ๋วและน้ำมนต์ปลุกเสกให้เธอพกติดตัวเอาไว้ด้วย ก่อนที่หญิงสาวจะออกเดินทางในเช้าวันนี้บุญล้อมก็ทบทวนมนต์คาถาต่างๆและพูดย้ำให้ลูกสาวระมัดระวังตัว "จำคาถาที่พ่อสอนได้ไหม" บุญล้อมทัก "ท่องจนขึ้นใจแล้วจ้ะพ่อ ก็ไม่เคยจะได้ใช้สักครั้ง" มนต์ชยาบ่น ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องบังคับให้ท่องให้สวดคาถาต่างๆมากมาย "ไม่ต้องได้ใช้น่ะดีแล้ว แต่ก็ห้ามลืม ยามคับขันต้องเอาออกมาป้องกันตัว" บุญล้อมเสียงเข้มเมื่อเห็นลูกสาวไม่ค่อยจริงจังกับคำพูดเตือนของเขา "จ้าพ่อล้อมจ๋า เชื่อในตัวน้ำมนต์ ยอหอ อย่าห่วง" เธอโตมาด้วยสภาพแวดล้อมที่ต้องช่วยเหลือตัวเอง ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่คนที่อ่อนแอ ออกจะแก่นแก้วด้วยซ้ำไป แต่ถึงกระนั้นคนเป็นพ่อก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดีเมื่อลูกห่างจากอกไป "น้ำมนต์ไปอยู่กรุงเทพมีทั้งกำปั่นที่เรียนอยู่ด้วยกัน ไหนจะมีกระจิ๊ดริดกับกะจ้อยร่อยไปด้วยอีกต่างหากพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" มนต์ชญาหันไปยักคิ้วให้รักยมตัวน้อยสองตนที่ยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆเธอ "ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะพ่อ" เสียงรักยมตัวน้อยบอกเสียงแจ๋วแต่ใครจะได้ยินบ้างก็อีกเรื่อง "มีอะไรก็อย่าลืมนึกถึงสิ่งที่พ่อสอนไว้ล่ะ อ่อแล้วพระที่หลวงปู่ให้ก็แขวนไว้อย่าถอดเด็ดขาดนะจำคำพ่อไว้" "จ้าพ่อบุญล้อมมมมมม" เสียงรักยมประสานแทรกขึ้นมาพร้อมกับเสียงของมนต์ชญา .................................................................................................................... "ไงล่ะเจ้าน้ำมนต์ เจ้ากำปั่นจะกลับกรุงเทพแล้วหรือ" หลวงปู่ทักเมื่อเห็นน้ำมนต์และสหายเดินเข้ามา "กราบจ้ะหลวงปู่ ใช่จ้ะนำมนต์จะเดินทางพรุ่งนี้แล้ว" น้ำมนต์ก้มลงกราบ "เจ้ากำปั่นดูแลเพื่อนดีๆล่ะ พวกเอ็งด้วย จิ๊ดริด จ้อยร่อย" หลวงตาพูดอย่างอารมณ์ดีนอกจากน้ำมนต์ก็มีหลวงปู่ที่มองเห็นสองรักยม "จ้ะหลวงปู่" รักยมน้อยรับคำพร้อมกัน ก้มลงกราบหลวงปู่บัวก้นกระดก "ในยามมีเหตุเพศภัยอันตรายใดๆก็ให้นึกถึงอำนาจพระพุทธคุณเอาไว้ให้มั่นนะลูกนะ" หลวงปู่พูดเตือนเหมือนกับบุญล้อม "จ้ะหลวงปู่" น้ำมนต์น้อมรับสิ่งที่หลวงปู่สอน "เดินทางปลอดภัยๆ" หลวงปู่อวยพรพร้อมยกบาตรน้ำมนต์มาประพรมให้หนุ่มสาวทั้งสอง แต่รักยมตัวน้อยสองตนวิ่งหลบไปอยู่ข้างหลังของมนต์ชญา "ปั่นพรุ่งนี้เจอกันอย่าสายนะ" มนต์ชญาเตือนเพื่อนรักที่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพด้วยกัน "เออ ไม่สายน่า บายเพื่อน" กำปั่นบอกลาแล้วกลับบ้านไป ...........................................................................................................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม