บทที่ 4

1246 คำ
ผู้เป็นพ่อไม่อยากให้เสียเวลา รีบเอ่ยบอกตรงประเด็นไม่ต้องอ้อมค้อม โดยไม่ลืมเล่นละครบทโศกทำตาแดงๆ ขณะเอ่ยบอกด้วย “พิมพอจะรู้ใช่ไหมลูกว่าสภาพการเงินของครอบครัวเขากำลังย่ำแย่ พ่อไม่ได้ทำงานแล้ว เรามีรายได้แค่เพียงเล็กๆ น้อยๆ เข้ามาในบ้าน แต่ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่าแสน สองแสน” “ก็ให้คุณลีน่างดไปช้อบปิ้ง งดไปเที่ยวยุโรป งดไปกินข้าวนอกบ้าน ค่าใช้จ่ายก็ลดลงเองค่ะ” พิมพ์มาดาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแขวะบิดาอีกครั้ง ได้ยินลูกสาวพูดกับบิดาเช่นนั้น อรลดาต้องขึงตามอง พร้อมกับเค้นเสียงดุเบาๆ “พิม ทำไมพูดกับคุณพ่อแบบนั้นล่ะลูก”             “พิม พูดเรื่องจริงค่ะคุณแม่ ค่าใช้จ่ายที่คุณพ่อบอกว่ามากโข เกิดจากคุณลีน่าใช้เงินเปลืองราวกับว่าตัวเองผลิตแบงค์ได้”             พิมพ์มาดาไม่มีเกรงกลัวกับการเอ่ยพูดแทงใจดำบิดา ทำเอาปกรณ์ต้องนิ่งเงียบไปหลายนาทีกว่าจะเอ่ยพูดออกมาได้             “อย่าต่อว่าพี่ลีน่าเลยลูก ตอนนี้พี่ลีน่าก็กำลังช่วยพ่อประหยัดทุกวิธีทางเท่าที่จะทำได้” ปกรณ์ปกป้องลูกสาวคนโตอย่างเต็มที่             ‘ลูกสาวคนโปรด แตะต้องไม่ได้เลยใช่ไหมคะ’             พิมพ์มาดากัดเม้มริมฝีปาก ต่อว่าอยู่ในใจไม่อยากเอ่ยพูดออกมา เพราะรู้ว่าคำประชดประชันของเธอจะทำให้มารดาไม่สบายใจ             “คุณพ่อจะให้พิมกับคุณแม่ช่วยยังไงคะ”             “เมื่อห้าปีก่อน พ่อทำธุรกิจผิดพลาด ขาดทุนไปหลายสิบล้าน พ่อเลยไปกู้ยืมเงินพ่อเลี้ยงตรินมาต่อยอดทำธุรกิจ พ่อเลี้ยงไม่คิดดอกเบี้ย แต่พ่อต้องเอาโฉนดที่ดินผืนนี้ไปค้ำประกัน และตอนนี้พ่อเลี้ยงตรินก็ทวงเงินของเขาแล้ว แต่...แต่พ่อไม่มีเงินไปคืนให้เขาแม้แต่บาทเดียว...”             ในตอนท้าย ปกรณ์เอ่ยบอกเสียงขาดห้วงติดสั่นเทา แถมดวงตายังแดงก่ำ ยิ่งเป็นการเพิ่มความสงสารให้กับอรลดาผู้เป็นภรรยา แต่กับพิมพ์มาดา หญิงสาวได้แต่เบือนหน้าหนี อีกทั้งยังพอเดาได้ว่า คนที่ต้องรับภาระคลี่คลายสถานการณ์นี้คงไม่พ้นเธอเป็นแน่ เพียงแค่ไม่รู้ว่าบิดาจะให้ช่วยอย่างไรก็เท่านั้นเอง             “คุณพี่ เป็นหนี้พ่อเลี้ยงตรินเท่าไรคะ” อรลดาเอ่ยถาม หลังจากนิ่งเงียบฟังมานาน             “ยี่สิบล้าน” ปกรณ์เอ่ยตอบสั้นๆ ทว่าทำเอาอรลดาหน้าซีดร้องถามเสียงหลงด้วยความตกใจ             “คุณพระ! ทำไมถึงได้มากมายถึงเพียงนี้คะ”             “ลดาก็รู้ว่าพี่ทำธุรกิจขาดทุนถึงสามครั้งสามคราด้วยกัน พี่ไปยืมเงินพ่อเลี้ยงตรินหลายครั้ง กระทั่งจำนวนหนี้เพิ่มขึ้นมามาก และตอนนี้พ่อเลี้ยงตรินก็ต้องการเงินของเขากลับคืนแล้ว”             “คุณพี่บอกว่าไม่มีเงินใช้หนี้ให้พ่อเลี้ยงตริน แล้วเราจะทำยังไงต่อไปคะ”             อรลดาเป็นเดือดเป็นร้อนกับความทุกข์ของสามี แม้สามีไม่เคยดูดำดูดีนางเลย แต่เมื่อตกเป็นของปกรณ์แล้ว นางกลับรักสามีคนนี้มาก             ปกรณ์ถอนหายใจยาว ตีหน้าเศร้าสร้อย ขณะเอ่ยพูดต่อว่า “ถ้าเราไม่มีเงินไปใช้หนี้พ่อเลี้ยงตรินภายในเจ็ดวัน พ่อเลี้ยงตรินจะยึดบ้านของเรา นั่นก็หมายความว่าพวกเราจะไม่มีที่ซุกหัวนอนอีกต่อไป”             “คุณพระช่วย” อรลดายกมือทาบอกร้องออกมาด้วยความตกใจอีกหน สีหน้าเป็นกังวลแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ในขณะที่พิมพ์มาดากลับนั่งนิ่งเฉย ไม่แสดงอาการใดๆ ให้บิดาเห็น “เราพอจะมีวิธีแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นไหมคะ คุณพี่” “มีสิ ลดา แต่ขึ้นอยู่กับพิม ว่าจะช่วยพ่อหรือเปล่า” ปกรณ์หันไปมองลูกสาว ที่นั่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่ออกความเห็น ไม่เอ่ยถามแม้แต่คำเดียว             “ยังไงคะ คุณพี่จะให้ลูกช่วยยังไงคะ” อรลดาเอ่ยถามต่อสีหน้ายังเต็มไปด้วยความกังวล             ปกรณ์ตีหน้าเศร้า เอ่ยตอบเสียงแผ่วเบาว่า “พ่อเลี้ยงตรินจะยกหนี้ให้พวกเราทั้งหมด หากพิมยอมแต่งงานกับลูกชายของพ่อเลี้ยง”             “พิมไม่แต่ง!”             พิมพ์มาดาปฏิเสธทันควัน ดวงตากลมโตจ้องมองบิดาเขม็ง ทั้งเจ็บปวด ทั้งเสียใจ ที่บิดามาหาเธอเพียงเพื่อให้เธอช่วยทำหน้าที่ล้างหนี้ให้กับครอบครัว             “พิม...ทำไมปฏิเสธแบบนั้นล่ะลูก ทำไมไม่ช่วยคุณพ่อ” อรลดาตำหนิลูกสาว             “ในเมื่อเงินที่ยืมมา คุณลีน่าเป็นคนเอาเงินไปใช้ซะส่วนมาก แล้วทำไมไม่ให้คุณลีน่าไปแต่งงานล้างหนี้ล่ะคะ ทำไมต้องเป็นพิม”             พิมพ์มาดาเอ่ยถามแทงใจดำ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าอลีน่าใช้เงินมือเติบมากเพียงใด และคนที่ไม่มีงานทำอย่างอลีน่าจะเอาจากไหนมาถลุงเล่น ถ้าไม่ใช่ขอจากพ่อแม่             คราวนี้ผู้เป็นพ่อถึงกับหน้าซีด นิ่งเงียบกับคำพูดแทงใจดำที่ลูกสาวคนเล็กต่อว่ามา แต่กระนั้นก็ยังโกหกลูกสาวกับภรรยาต่อ             “พอพ่อเลี้ยงตรินต้องการให้ลูกสาวของพ่อแต่งงานกับลูกชายของเขา พ่อส่งรูปของลีน่ากับพิมไปให้ทางโน้นเลือก และลูกชายของพ่อเลี้ยงตรินก็เลือกพิม พ่อถึงต้องมาขอร้องให้พิมช่วยเหลือครอบครัวของเรายังไงล่ะลูก”             “ฮึ! ดีจังเลยนะคะ ที่หวยมาออกที่พิม” พิมพ์มาดาประชด ก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็งอีกครั้ง “ยังไงพิมก็ไม่แต่งงานล้างหนี้”  ปกรณ์ตีหน้าเศร้า พร้อมกับถอนหายใจยาว พลางลุกขึ้นยืน โดยไม่ลืมบอกเสียงแผ่วเบาว่า “พ่อไม่บังคับพิมหรอกลูก ถ้าหนูไม่อยากแต่งงานก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อจะไปบอกกับพ่อเลี้ยงตริน และพรุ่งนี้พ่อจะลองให้เพื่อนๆ ของพ่อช่วยหาบ้านเช่าหลังเล็กๆ ที่พวกเราพอจะอาศัยอยู่ร่วมกันได้ หลังจากต้องย้ายออกจากบ้านหลังนี้แล้ว”             เล่นละครฉากใหญ่ไปแล้ว ปกรณ์ก็ทำคอตก เดินลากเท้าราวกับหนักอึ้ง ออกจากบ้าน แต่ไม่ทันเดินพ้นจากบ้านพักหลังเล็ก อรลดาก็เอ่ยเรียกไว้เสียก่อน             “คุณพี่คะ อย่าเพิ่งไปค่ะ”             อรลดาเดินเร็วๆ ไปจับมือสามีมากุมไว้ พลางเอ่ยบอกให้ปกรณ์คลี่ยิ้มออกมาได้             “เราไม่ต้องย้ายไปที่ไหนทั้งนั้น เดี๋ยวลดาจะพูดกับลูกเองค่ะ คุณพี่สบายใจได้นะคะว่าเราจะไม่เสียบ้านหลังนี้ไปแน่นอน”             “ลดา พี่ขอบคุณมาก”             ปกรณ์สวมกอดร่างเล็กของภรรยานอกสมรสไว้แน่น หายใจคล่องคอ มั่นใจว่ายังไงๆ พิมพ์มาดาก็ต้องทำตามคำสั่งของมารดา             “พี่กลับก่อนนะลดา เผื่อลดาอยากจะมีเวลาพูดกับลูกเป็นการส่วนตัว”             “ค่ะ คุณพี่ ลดาจะพูดกับลูกนะคะ”             อรลดาเดินไปส่งสามีหน้าบ้าน หลังจากสามีกลับไปบ้านใหญ่แล้ว ก็รีบเดินเข้ามาในบ้าน แต่ไม่ทันได้เอ่ยพูดอะไร ก็ถูกลูกสาวเอ่ยดักคอไว้ก่อน             “พิมไม่แต่งงานแน่นอนค่ะ คุณแม่”             “พิม...แม่ขอร้องนะลูก” อรดลาเอ่ยขอร้อง สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลกับความทุกข์ของครอบครัว แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เอ่ยหว่านล้อมต่อ เพราะลูกสาวเดินเร็วๆ เป็นวิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่นแล้ว 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม