I LIKE YOU
3
ในขณะที่ฉันกำลังอาบน้ำและมองชุดที่แขวนอยู่ที่ราว ก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ความจริงเสื้อผ้าแบบนี้ฉันไม่เคยใส่เลยสักครั้งนะ ปกติฉันจะเป็นพวกแต่งตัวเซอร์ๆ หน่อย หรือง่ายๆ เลยก็ที่นังกะเทยทึกปิงเรียกเซอร์ถุนไง? ฉันถอนหายใจออกมา ก่อนจะหยิบเสื้อเชิ้ตขาวบางซีทรูมาดู ก็สวยดีนะ ถ้าไม่ติดว่าโป๊ไปนิด ฉันหยิบเกาะอกสีดำมาสวมก่อนและตามด้วยเสื้อเชิ้ตซีทรูติดกระดุมจนถึงคอ และตามด้วยกางเกงขาสั้นยีนขาด เออ... ดูไปดูมา ฉันก็มีน้ำมีนวลเหมือนกันนะ แต่งตัวแบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบ ที่สำคัญ ทรงผมทรงใหม่ก็เพิ่มความมั่นใจให้ฉันด้วย
ปังๆ
“แว้ก!”
“ให้ไปอาบน้ำนะยัยจิ๋ม ไม่ได้ให้ไปหลับ”
“รู้แล้วนา เสร็จแล้วๆ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างตกใจกับเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นมา ก่อนจะเปิดประตูออกไปก็เห็นร่างสูงของเฟิร์สที่สวมกางเกงขาเดฟสีดำ กับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เผยอกล่ำๆ ผมสีดำก็เสยขึ้นไป จนเห็นใบหน้าหล่อชัดเจนขึ้น ใบหูซ้ายก็มีต่างหูสีดำติดเต็มใบหู ไหนจะรอยสักที่ต้นคอขวาอีก โอ้ว... หล่อมาก!
“จะจ้องอีกนานไหมยัยจิ๋มเล็ก หลับอยู่หรือไง?”
“เปล่าสักหน่อย แค่แบบ ไม่เคยแต่งตัวแบบนี้ก็เลย...”
“ไม่มั่นใจ” เฟิร์สตอบแทนฉัน ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าฉันทันที ใบหน้าหล่อก้มลงจนเสมอกับใบหน้าของฉัน ปากก็ดุนดันอมยิ้มไปมา ริมฝีปากกระตุกยิ้มจนฉันได้แต่มองว่าหมอนี่จะทำอะไรแพลงๆ อีกหรือเปล่า?
“เอางี้ หลับตาสิ ฉันเรียกความมั่นใจให้”
“ไม่ เดี๋ยวนายเล่นอะไรแพลงๆ อีก”
“เถอะนา ไม่ทำอะไรพิเรนทร์แน่ สาบานให้มดกัดตายเลยเอ๊า”
“อย่ามาไร้สาระ ฉันไม่หลับหรอก” ฉันเดินสวนเฟิร์สไป แต่ทว่ามือของเขากลับคว้าต้นแขนฉันไว้ ทำให้ฉันหันไปมองใบหน้าหล่อที่ตอนนี้มือทั้งสองข้างกำลังจับไหล่ฉันไว้อย่างแนบแน่น
“หลับตาหน่อยนะขิม”
“...”
“ไม่ทำอะไรแน่นอน สัญญา”
“แน่ใจนะ เพราะถ้านายทำอะไรพิเรนทร์อีก ฉันสัญญาเลยว่าจะถลกหนังหน้านายมาเหยียบเล่นแน่!” ว่าแล้วฉันก็ค่อยๆ หลับตาลงทันที และรับรู้ว่ามือของเฟิร์สได้ปล่อยจากไหล่ฉันแล้ว แต่ทว่าความเงียบกลับเข้ามาปกคลุมแทน จนฉันขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
แชะ
“เอ๋? ทำอะไรของนาย”
จุ๊บ~
ความรู้สึกที่หน้าผาก ทำให้ฉันตกใจเมื่อรับรู้ถึงริมฝีปากร้อนๆ ของเฟิร์สที่จูบลงมาที่หน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา จนฉันโกรธลืมตาขึ้นมองใบหน้าหล่อที่แสยะยิ้มอยู่อย่างกวนบาทา
“เฟิร์ส! นายมันฉวยโอกาสอีกแล้วนะ”
“อะไร? ก็เรียกความมั่นใจให้เธอไง ไม่ดีเหรอ รู้สึกโอเคยัง”
“เหอะ รู้สึกแย่กว่าเดิมน่ะสิ... ทีหลังอย่าทำแบบนี้กับฉันนะ ฉันไม่ชอบ”
“...”
“ถ้าจะทำแบบนี้ ไปทำกับผู้หญิงของนายนู้น นายมันหื่น บ้ากาม ฉันโคตรไม่ชอบนายเลย รู้ไว้ด้วย!” ฉันตะคอกร่างหนาและเดินสวนเขาไปทันที หมอนี่มันเป็นโรคจิตหรือไง? แม้แต่เพื่อนก็ไม่เว้นเลย (ได้ข่าวว่าเธอไม่รับเขาเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ?) ผู้ชายแบบเฟิร์สฉันไม่เคยชอบเลยสักนิด ผู้ชายที่ชอบทำตัวรุ่มร่ามกับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนรักของตัวเองแบบนี้ มันเห็นแก่ตัวชัดๆ
“นี่ยัยจิ๋ม... มีคนจะแนะนำให้รู้จัก”
“เอ๋? ใครเหรอปิง”
ฉันกับปิงปองเรียนอยู่มหาลัยปีหนึ่ง ฉันกับปิงปองเรียนคณะนิเทศฯ ด้วยกัน แต่ตอนนั้นปิงปองได้แนะนำเพื่อนของปิงปองให้ฉันรู้จัก
“นี่เฟิร์สเพื่อนฉัน ส่วนเฟิร์สนี่เพื่อนสาวฉัน ชื่อขิม”
ฉันในตอนนั้นเงยหน้าสบตากับร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาดี หล่อเหลาและดูเจ้าเสน่ห์ กำลังส่งยิ้มให้ฉัน แต่ทว่า... ฉันไม่เคยชอบหน้าเขาเลยสักนิด แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนกับปิงปองเพื่อนของฉัน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ขิม”
“อืม เช่นกัน”
เฟิร์สทักทายฉันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จนแล้วจนเล่า เราสามคนก็มักจะมานั่งที่โต๊ะหินอ่อนด้วยกันทุกวันจนเป็นกิจวัตร แต่สิ่งที่ทำให้ฉันกับเฟิร์สเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน ก็เพราะหมอนี่มันชอบปากเสียเสมอๆ ไง
“ปิงปอง ดูพี่ตั้มสิ น่ารักเนาะ... ฉันชอบพี่เขาจัง อ๊าย”
“เหอะ ไม่เห็นจะหล่อเลย สู้ฉันก็ไม่ได้”
“ใครขอความเห็นนายไม่ทราบ”
“ไม่มี แค่อยากออกความเห็น... ทำไม? แตะไม่ได้หรือไง อย่างพี่เขาไม่มีวันมองเธอหรอก ยัยบ๋อง!”
“ไอ้บ้าเฟิร์ส!”
“เฮ้ยๆ พวกแกสองคนเนี่ยเป็นอะไรกันนักหนา ทะเลาะกันทุกวัน ไม่เบื่อหรือไง?”
และมักจะเป็นปิงปองทุกครั้งที่ห้ามทัพฉันกับเฟิร์สอยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่า ความที่หมอนี่มันเจ้าเล่ห์ และกวนบาทา ทำให้ฉันสาบานต่อก้อนเนื้อที่หน้าอกอันน้อยนิดของตัวเองเลยว่า จะไม่ขอญาติดีกับเขาเด็ดขาด!
“แกก็หัดว่าเพื่อนแกบ้างสิ ยุ่งเรื่องคนอื่นเขาจริง เรื่องของตัวเองเอาให้รอดก่อนเหอะ... สาวๆ เนี่ยจะครบร้อยแล้วมั้ง?”
“แล้วเธอยุ่งอะไรด้วย? ฉันจะมีสาวอีกกี่คนมันก็เรื่องของฉัน”
“ใช่ ฉันจะชมพี่ตั้ม มันก็เรื่องของฉันเหมือนกัน เพราะฉะนั้นนายไม่มีสิทธิ์มาว่าพี่ตั้ม!” เฟิร์สจ้องมองฉันด้วยสีหน้ากวนๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับฉัน มองฉันด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“ยัยบ๋อง!”
“ไอ้บ้าเฟิร์ส... ฉันโคตรจะเกลียดนายเลย ให้ตายเหอะ”
“ทำอย่างกับฉันชอบเธองั้นแหละ ยัยจิ๋มเล็ก!”
ก็เพราะเจอกันทีไรก็ต้องมีเรื่องกันตลอด จนทำให้วันหนึ่งที่หมอนั่นออกจากมหาลัยกลางคันเพื่อไปเรียนต่อที่เมืองนอก เพราะครอบครัวหมอนี่ทนพฤติกรรมของเขาไม่ได้ ขนาดครอบครัวยังทนไม่ได้เลย แล้วสาวๆ พวกนั้น ทนได้ไงกัน? ช่างเถอะ
กลับมาปัจจุบัน
เราสองคนมาถึงสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่เรียกอีกอย่างว่าผับ ใช่... หมอนี่พาฉันมาผับ ที่สำคัญเราสองคนก็ไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่ออกมา เฟิร์สเดินนำฉันเข้าไปข้างในที่ตอนนี้เสียงเพลงและเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างพากัน เหวี่ยงตัวเต้นอย่างเมามันส์ ฉันแอบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเหวี่ยงหัวตัวเองสะบัดไปมา จนฉันกลัวเหลือเกินว่าคอเธอจะหลุดไหม? และนั่นอีก ผู้ชายคนนั้นกำลังทำอะไร? จับก้นผู้ชายกันเองเหรอ... ฉันควรเดินไปเตือนผู้ชายคนนั้นไหมว่าเขากำลังจะถูกลวนลามด้วยน้ำมือเพศเดียวกัน ฉันมองแผ่นหลังของเฟิร์สที่เดินไปถึงโซนที่นั่ง ก่อนที่เขาจะแทคมือกับผู้ชายสามสี่คนที่นั่งดื่มอยู่ พร้อมกับผู้หญิงสวยๆ อีกสามคน ใบหน้าหล่อพยักหน้าให้ฉันเดินมา
“เฮ้ย เด็กใหม่มึงหรือวะไอ้เฟิร์ส?”
“ใช่ที่ไหนเล่า เพื่อนของเพื่อนกู”
“เพื่อน? ฮ่าๆ เพื่อนเหรอ? ไม่มั้ง อย่างมึงเหรอจะมีเพื่อนน่ารักๆ แบบนี้... กูไม่อยากจะเชื่อเลย”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ” เฟิร์สนั่งลงและกระดกขวดเหล้าเข้าปากทันที จนฉันทรุดตัวนั่งลงข้างเขา มองใบหน้าของเพื่อนเฟิร์สที่ส่งยิ้มมาให้
“ชื่ออะไรครับ? ผมเตอร์ ไอ้หัวลิ่มนั่นชื่อ... ช่างมันเหอะ แต่ไอ้ตัวหน้านิ่งที่ซุกนมอยู่ชื่อกี้ พวกเราเป็นเพื่อนไอ้เฟิร์สครับ”
“อ่อ ฉันชื่อขิม ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ฉันพยักหน้ารับและมองคนที่ชื่อกี้ ที่เตอร์บอกว่ากำลังซุกนมอยู่? อย่าคิดลึกกันนะ เพราะว่าหมอนี่กำลังซุกไปที่หมอนรูปนมวัวต่างหาก ใครก็ช่างกล้าออกแบบนะนั่น... แต่ช่างเถอะ สถานที่แบบนี้ ฉันก็เพิ่งจะเคยมานะ ที่สำคัญฉันไม่มีอาการง่วงนอนเลยสักนิด
“ขิม ดื่มค็อกเทลเป็นไหม?”
“เอาสิ”
“จะกินทำไม?”
“ยุ่งอะไรด้วย ฉันจะกิน” เฟิร์สหรี่ตามองฉันที่แยกเขี้ยวใส่เขา ก่อนจะมองร่างหนาที่ลุกไปไหนก็ไม่รู้ จนกระทั่งฉันเข้าใจแล้ว หมอนั่นเดินไปหาหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวสวยและเซ็กซี่มากๆ เหอะ ไม่ทิ้งลายสินะ... หมอนี่เคยคบผู้หญิงคนหนึ่งได้วันเดียวและก็เลิก พอวันรุ่งขึ้นกลับคบกับอีกคน จะว่าเขาแรดก็ได้นะ คำว่าแรดเนี่ยไม่ต้องใช้เฉพาะกับผู้หญิงหรอก สำหรับผู้ชายอย่างเฟิร์สมันสมควรใช้กับเขามากๆ เลยล่ะ
“เตอร์ ฉันขอค็อกเทลอีกสิ”
“จัดไปเลย สาวสวย” ฉันยิ้มให้เตอร์และนั่งกินค็อกเทลที่ตอนนี้หมดไปหลายแก้วแล้ว ตอนนี้ร่างกายของฉันเริ่มร้อนไปหมด มือของฉันปลดกระดุมเสื้อที่ติดคอออกไปสองเม็ด และคว้าแก้วค็อกเทลมาดื่มอีก... ฉันไม่หลับ? ใช่ ฉันไม่หลับ หรือทฤษฎีของหมอนี่จะใช้ได้นะ
“เฮ้ๆ ขิม พอแล้วมั้ง? เธอดื่มเยอะไปแล้วนะ”
“เยอะอาราย เอิ๊ก! ฮ่าๆ ไปเตอร์ หลาวไปเตนกาน มะ” ดวงตาของฉันพร่ามัวไปหมด ก่อนจะลุกขึ้นไปจูงมือเตอร์ออกไปเต้นทันที ฉันตะโกนไปมาอย่างสนุกสุดเหวี่ยง
“วู้ ฉานไม่หลาบ... เอิ๊ก ดีจายจาง ฮ่าๆ”
ร่างกายของฉันตอนนี้ร้อนรุ่มไปด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ฉันเคลื่อนไหวร่างกายไปกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มไปทั่วผับ เสียงตะโกนของผู้คนเข้ามาในโซนประสาทของฉันทันที รู้สึกดีใจจังที่ฉันไม่หลับ... แบบนี้คงต้องมาเที่ยวที่นี่บ่อยๆ แล้วล่ะ
หมับ
เอวของฉันถูกคว้าไปด้วยมือหนาที่แข็งแกร่ง ก่อนที่ใบหน้าจะไปกระแทกกับอกของใครก็ไม่รู้ แต่ทำไมร่างกายของเขามันหอมแบบนี้นะ... จมูกของฉันดอมดมไปตามอกของเขา นิ้วมือของฉันก็เขี่ยไปตามแผงอกเปลือยเปล่า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับใบหน้าหล่อที่จ้องมองอยู่ แม้ว่าแสงไฟในนี้จะน้อยนิด แต่ฉันก็พอจะรู้ว่าเขาคือใคร?
“ยัยจิ๋ม เผลอแป๊บเดียวทำไมเมาแบบนี้วะ!”
“อึก ฮ่าๆ หล่อจังเลยอะ...”
“...”
“เน่ ฉันชื่อขิมนะ นายอย่าเรียกฉันว่าจิ๋มสิ เฟิร์สสุดหล่อ เอิ๊ก!”