ชาบูจัดเต็มก่อนเข้าโรงหนังจนคิดว่าน่าจะเข้าไปนอนมากกว่าเข้าไปดู แน่นท้องมากเวอร์อีผี! กระเป๋าที่เธอสะพายมาวันนี้สร้างปัญหาให้เพราะว่ากลัวมันเปื้อน กลัวมันเป็นรอย กลัวสารพัดเลยเพราะปรกติเธอเป็นคนไม่ติดแบรนด์เนมไงแล้วดูกระเป๋ากี่แสนว่ะเนี่ย
“มึงชาแนลสวยนะใครให้ว่ะ?” อันเหล่ตามองกระเป๋าราคาแพงมากของเพื่อน
“หรือว่าเฮียจากัวร์?” ผิงมองบอกตามเป็นประกายเพิ่มอีก
“อีดอกผู้เปย์หนักเวอร์!!!”
“พอเลยพวกมึง! เนี่ยกูยังไม่เห็นหน้าคนให้เลยไม่รู้ไปตายคาอกสาวคนไหน” ก็ตื่นมาเห็นวางไว้อยู่อะคนให้เสือกไม่อยู่ เธอยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลยสักคำเพราะยังไม่เห็นหน้าหรือถ้าเห็นหน้าก็อาจจหาเรื่องชิ่งหนีเหมือนทุกครั้ง
“หึงหรอ…”
“กูเปล่าเว้ยอีผี!!”
“แหนะ! หน้าแดงมึงหึงก็พูดมาเถอะ!”
“แดกไปเลย!” เพื่อนล่ะคนมันน่าเย็บปากนักแซวอยู่นั่น
เอาเข้าจริงเธอยังกลัวเฮียจากัวร์ไม่จางหายเลย เขาชอบมาโผล่แบบเงียบๆแล้วก็ไปเงียบๆมองเธอเหมือนดุแต่บางครั้งก็เหมือนว่าอยากจะจับกินงั้นแหละที่สำคัญเธอคุยกับเขาไม่เคยรู้เรื่องหรอก คนอะไรเปลี่ยนเรื่องไวมากแล้วสมองเธอก็มีแค่เนี่ยเองตามไม่ทันหรอกนะ
“เฮียจากัวร์รักมึงจะตายเมื่อไรมึงจะยอมว่ะ?” อันถามเพื่อนด้วยความสงสัยหนักมาก
“เออใช่ เนี่ยในแก็งสัตว์โลกน่ารักเหลือมึงคนเดียวแล้วนะเว้ย! กูเห็นตามมึงมาเป็นปีแล้วนะทำไมใจมึงยังแข็งได้ขนาดนี้นะ” ผิงถามซ้ำอีกไม่เข้าใจเพื่อน
“ผิงจับมินนี่ใส่พานถวายเฮียจากัวร์เลยป่ะ?”
“มึง! ความคิดบรรเจิดวะ!”
“เหี้ยว่ะ! แดกเร็วๆเลยกูอยากดูหนังแล้ว!” นี่เธอต้องระวังเพื่อนไหมเนี่ยแต่ล่ะคนแลดูอยากให้เธอได้กับเขามากเลย
นี่ถ้าเกิดว่าเฮียจากัวร์ได้ยินนะที่เพื่อนพูดนะ เธอคิดภาพรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาออกเลยว่าจะสยองขวัญขนาดไหน แต่ป่านนี้คงไปหลับคาอกใครสักคนแล้วมั้งได้ข่าวว่ามีเด็กเยอะนักนี่มีคนบอกว่าเขาเลี้ยงได้เลี้ยงดีจนอีกนิดเดียวจะเปิดฮาเร็มได้แล้ว และมีอีกข้อที่ทำให้ใจแข็งไม่หวั่นไหวอะไรง่ายๆทั้งที่หลายอย่างชัดเจน คือเฮียจากัวร์ไม่เคยบอกรักเธอสักครั้งสิ่งที่เขาทำก็อย่างที่เห็นมันทั้งแปลกทั้งพิลึกชอบกล
เขาแอบเข้าห้องเธอได้ไงยังไม่รู้เลย!
อีกโต๊ะใกล้ๆชายหนุ่มใส่แว่นดำสวมหมวกนั่งถือตะเกียบคีบเนื้อไปหัวเราะไปกับคำพูดของเด็กๆที่ดูจะสนับสนุนเขามากเหลือเกิน เขาขับรถตามเธอมาจนถึงที่นี่แล้วคิดว่าคงต้องกลับแล้วแหละเพราะว่ามีประชุมต่อ
“เมื่อไรจะว่างอยู่กัน 2 คนนะ” เขาอยากหาเวลาอยู่ตามลำพังกับเธอแต่มันน้อยมากยิ่งเธอปิดโอกาสด้วยยิ่งแล้วใหญ่
มินนี่เป็นเด็กสดใสมาก เธอเปร่งประกายมากกว่าทุกคนแล้วเอาใจเขาไปทีล่ะน้อยจนกลัวว่าสักวันจะรักจนถอนตัวไม่ขึ้นนี่สิ เขาไม่เคยบอกรักมินนี่เลยนะแต่การกระทำต่อให้มองจากดวงจันทร์ก็รู้ว่าพิเศษกว่าใครที่เขาเคยมี
“ไปซะแล้ว!” เขาเรียกพนักงานมาเก็บเงินทั้งที่แทบไม่ได้กินเลยมัวแต่แอบฟังพวกเธอคุยกันเรื่องเขาอยู่
สถานีต่อไปคือดูหนังจ้า! แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆเหมือนว่ามีคนคอยตามคอยมองตลอดเวลา เธอไม่ได้รู้สึกคนเดียวนะเพราะเพื่อนก็เป็นเหมือนกันเลยต้องรีบเดินให้เร็วขึ้น
“ท้องจะแตกแล้วมึงยังยัดป็อปคอร์นอีกหรอ?” นับถือความกินจุของเพื่อนจริงๆนะ
“มึงกูมีผัวต้องกินเอาแรงเยอะๆป่ะ มึงแม่งคนโสดจะเข้าใจอะไรเล่า!” อันจ่ายค่าป็อปคอร์นและน้ำอัดลมเสร็จเดินนำเพื่อนเข้าโรงหนังตามเวลา
“กูว่าแปลกๆ”
“อุปทานหมู่ป่ะ? กูแทบจะแหกตาตามมึงแล้วนะมินนี่!” ผิงมองไปรอบๆไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกแต่เพื่อนพูดมาตลอดทางไง
“เหรอว่ะ? ไปดูหนังเหอะ!” ก็พยายามจะไม่คิดอะไรแล้วไงแต่ก็คิดเหมือนเดิมนั่นแหละ
เธอยืนรอเพื่อนคุยโทรศัพท์กับผัวก่อนแล้วค่อยไปพร้อมกันทีเดียวถึงจะสายหน่อยแต่ไม่เป็นไรเพราะหนังน่าจะเริ่มฉายพอดี เอาจริงนะขี้เกียจดูโฆษณา
หันตอนนี้แหละ…หันเลย!!
“ก็ไม่มีใครหนิ” เธออุตส่าห์รอจังหวะเผลอจะหันไปแต่ก็ว่างเปล่าไร้คนน่าสงสัย
หลังจากเธอเดินเข้าไปในโรงหนังจากัวร์เดินออกจากเสาต้นใหญ่ที่ปิดบังตัวไว้แล้วหัวเราะนิดๆในความฉลาดของเธอ เมื่อกี้เกือบถูกจับได้แล้วนะ เขาอยากจะซื้อตั้วตามเข้าไปแต่ว่าเวลาหมดแล้วไว้เจอกันใหม่แล้วกันนะมินนี่!
ผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์แสนหฤโหดเพราะสิ้นเดือนแล้วเธอถูกตัดค่าขนมด้วยนี่สิ พี่โบ๊ทลงความเห็นว่าเธอเอาเงินไปลงกับเที่ยวกับเหล้าเบียร์มากกว่าเรื่องเรียน
โถว่…แก่แล้วก็ไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย!
“มึงผิงอะ?” เพื่อนหายไปหนึ่งต้องถามหา
“ไปกับผัววิศวะแล้วไปเหอะมึงป่านนี้คงกินกันลั่นห้องแล้วมั้ง!” อันพูดติดตลก
“ในมอ.นี่นะ!” เห้ย! ไปเอากันตรงไหนไม่บอกกันเลยอยากจะตามไปแอบดูจัง!
“อืมในมอ.นี่แหละเด็ด ไปเถอะกูหิวข้าวแล้ว”
“เออ ไปก็ไป” งงมากเลยอยู่ดีๆเพื่อนก็หายไปหาผัวทิ้งให้เพื่อนที่แสนดีนั่งรอกินข้าวเที่ยงตั้ง 10 นาที ออกมากินข้าวที่โรงอาหารเพราะไม่มีรถสักคน ครั่นจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์แล้วดูแดดมันก็ร้อนไปคงได้ละลายก่อนถึงร้านอาหารพอดี
ช่วงเย็นเพื่อนขับรถมาส่งที่หอพักพร้อมกับรอยแดงที่คอจนน่ากลัว เธอก็ขี้เกียจถามอะไรนอกจากลงจากรถขึ้นห้องไปแค่นั้น นี่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมพี่โบ๊ทไม่หาคอนโดให้อยู่แต่ให้มาอยู่ที่หอพักแทน มันเหนื่อยนะตอนขึ้นบันไดเนี่ย! เธอกำลังบ่นในใจอยู่ดีๆก็มีคนมาจับแขนดึงเข้าหาจนเกือบล้มคว้ำแหนะพอเงยหน้ามองเท่านั้นแหละ
‘หนีไป’ คำเดียวดังในหัว
“มินนี่ไปกินข้าวกับเฮียนะ”
“เฮียจากัวร์!!” ตายล่ะยังไม่อยากเจอเขานะ
“ปะ...ปล่อยแขนมินนี่ก่อน” เธอค่อยๆแกะมือเขาออกจากแขนเธอแล้วรีบวิ่งขึ้นไปห้องหนีเขาให้เร็วที่สุด
มันเหนื่อยนะการวิ่งหนีผู้ชายเนี่ย!
ก๊อกๆๆ…
“เปิดประตูดีๆหรือให้เฮียพังเข้าไป” อะไรกันคนแค่มาหาเพราะคิดถึงแต่เด็กเวรไม่รู้สึกดีใจแล้วยังวิ่งหนีไปอีก เขากำลังจะเปิดประตูเองแล้วแต่มินนี่เปิดให้ก่อน
“หนีหน้าเฮียทำไม?” เธอทำเหมือนเขาเป็นโรคจิตงั้นแหละ
“ก็...ก็...จะเข้าห้องน้ำปวดอึเลยรีบเฉยๆ” ตอแหลได้โล่อีกถ้าจะรอดจากเขาได้เสียงไม่สั่นขนาดนี้
“ไม่เนียน!”
“เข้ามาในห้องมา” สุดท้ายเขาก็จับได้เหมือนเดิม ทำไมนะโลกถึงต้องเหวี่ยงคนฉลาดเป็นกรดมาให้ด้วย หาคนโง่หลอกง่ายไม่มีสมองมาให้เธอไม่ได้รึไงกัน
จากัวร์เดินเข้ามาภายในห้องพักนักศึกษามองเหมือนกันว่าไม่เคยมาทั้งที่แอบเข้ามาบ่อยพอสมควรเลย กระเป๋าที่ให้เป็นของขวัญดูเหมือนจะชอบใจเพราะเห็นใช้ทุกวัน
“ห้องเรียบร้อยดีนี่” ไม่รกไม่สกปรกเพราะเขาตามเก็บกวาดให้นิดหน่อยเวลาเธอไม่อยู่ห้องแล้วยังชอบซื้อของเอาเข้ามาไว้โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าเป็นของใครแต่ก็กิน
“พอดีว่าเป็นกุลสตรีค่ะ”
“ชอบกระเป๋าไหม?”
“เฮียจากัวร์อย่าทำให้กลัวได้ป่ะ?” ปรกติเธอก็กลัวเขาอยู่แล้วนะนี่เขามาห้องเธอครั้งแรกมองรอบๆเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง
หึ! มินนี่ไม่เคยเอาผู้ชายมาเลยนะคนที่มาจีบเธอเจ็บตัวเกือบทุกคนจนน่างงใจว่าเป็นฝีมือพี่ชายจริงรึเปล่า บางคนที่ทำท่าว่าจะคุยกันได้ยาวก็ลาออกจากมหาลัยหนีไปซะงั้น
งงนะแต่คงเป็นเพราะพี่ชายหวงแค่นั้น!