“มักน้อยเสียจริง” เขาจับคางสาวเอาไว้ก่อนจะทาบริมฝีปากลงไปหา มือหนาเลื่อนไปสัมผัสกับไหล่บอบบาง ก่อนจะวกกลับมาตรงปทุมถันอวบอิ่ม
ริมฝีปากร้อนของเขาแทะเล็มไปตามไหปลาร้า ก่อนจะซุกเข้าตรงซอกคอหอมกรุ่น
ชัชครางเบา ๆ ขณะยืนขึ้นเต็มความสูง เขาถอดเสื้อออกทางศีรษะอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอได้เห็นซิกซ์แพ็กของเขาอย่างชัดเจน
ก่อนที่ชัชจะคลุกเคล้าเข้ามาใหม่ เขาซุกไซ้หนักขึ้น จัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกจากกาย จับเธอแยกขาออกจนกว้าง พร้อมด้วยการกดแทรกความเป็นชายเข้าหาอย่างหิวกระหาย
“อ๊า... แน่นฉิบ ทำไมถึงได้แน่นแบบนี้” สอดเสียบกันกี่ครั้งเธอก็ยังแนบแน่นจนใบหน้าของเขาเหยเก
อาจเพราะเธอสดซิงและไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน จนตกเป็นของเขา นั่นเลยทำให้ไม่ว่ากี่ครั้งที่เขาสอดแทรกก็ยังคับแน่น ตัดรัดดีเยี่ยม
ยอมรับว่าหลงใหลกับความสาวสด แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอทำให้เขาสุขใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้
ชัชเองก็ตกใจกับความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน ความรู้สึกเฉยชาที่มีต่อผู้หญิงมันแปรเปลี่ยนไปได้อย่างไรเขาไม่รู้ตัว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาอยากทำในทุก ๆ วันคือการได้เห็นหน้าเธอ ได้เห็นรอยยิ้ม ได้กอดเธอ ได้ฟังเสียงหวาน ๆ ช่างเอาใจของเธอ
ชัชยิ่งกระแทกสะโพกสอบเข้าหาร่องสาวจนร่างของเธอสั่นคลอนเบียดอัดไปกับโซฟาตัวยาวจนแทบพังพิน
ขาเธออ้ากว้าง อ้อมแขนน้อยกอดรัดร่างแข็งแรงที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ร่างของมยุรินโยกคลอนรุนแรงไปตามแรงกระแทกกระทั้น เธอปรือตามองเขาด้วยความรัก เสียวซ่านและวาบหวามจนต้องเผยอปากร้องครางแทบขาดใจ
กายหนุ่มสาวโชกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อโซมกาย จวบจนใกล้ถึงจุดแตกพร่า เขาก็ร้องบอกเธอด้วยใบหน้าเหยเก พร้อมทั้งกระแทกสะโพกเข้าหาเธอไม่ยั้งแรงจนมยุรินร้องครางไม่เป็นส่ำ
“คุณชัชคะ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ”
“ไม่ไหวก็ไม่ต้องอั้น อ๊า...” ชัชเกร็งกระตุก กระแทกถี่ ๆ เพียงไม่นานก็แตกพร่าเต็มร่องสาว
“ออกไปกินข้าวข้างนอกกันไหม” ชัชเอ่ยถามเด็กสาว
“ออกไปได้เหรอคะ” ประโยคใสซื่อของเธอทำให้เขาต้องถามกลับ
“ทำไมถึงจะออกไปไม่ได้ล่ะ”
“เปล่าค่ะ คือหนูมาอยู่กรุงเทพฯ ไม่เคยออกไปไหนเลยค่ะ” เธออ้อมแอ้มตอบ พี่สาวพามาทำงานบ้านที่นี่เธอก็ไม่เคยออกไปไหนเลย
จริง ๆ แล้วตอนมาอยู่แรก ๆ เธอไม่ได้พักอยู่ที่แพนเฮ้าส์แห่งนี้ แต่เช่าบ้านอยู่กับพี่สาว ชัชจ้างให้พี่สาวกับเธอมาทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้าเพียงเท่านั้น เพราะพี่สาวเป็นแฟนของลูกน้อง ชัชเลยไว้ใจให้เข้ามาดูแลที่นี่ให้ เธอเลยตามติดมาด้วย
“ก็จะพาออกไปนี่ไง”
“คือหนูไม่มีเสื้อผ้าใส่เลยค่ะ จะให้ออกไปสภาพนี้คุณไม่อายหรือคะ” เธอก้มมองตัวเอง
“อยากให้ซื้อเสื้อผ้าให้เหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ แต่หนูแต่งตัวมอซอ ไม่กล้าเดินใกล้คุณหรอกค่ะ”
“เธอมีชื่อเล่นไหม”
“ชื่อรินค่ะ”
“อืม...” เขาครางรับ ดูผ่อนคลายและใจดีกว่าวันแรกที่ได้เจอกัน
เธอชอบมองเท้าขาวสะอาดของเขา เล็บเท้าตัดอย่างเรียบร้อย ใต้ร่มผ้าของเขาขาวเพียงใดเธอเห็นมันอย่างชัดเจน เส้นขนสีดำเข้มที่ตัดกับผิวสีขาวทำให้เขาดูเซ็กซี่อย่างไม่น่าเชื่อ
เธอไล่สายตาขึ้นไปยังช่วงขาเพรียวและหยุดที่หน้าท้องแกร่งที่อัดแน่นไปด้วยซิกซ์แพ็ก
อกกว้างของเขาผึ่งผาย ลำคอหนา ใบหน้าเรียวคมสัน คางผ่า ปากหยักได้รูป สีแดงจัดอย่างคนสุขภาพดี จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้ม และดวงตาของเขาก็ทำให้เธอใจละลาย
ชัชจัดว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาดี เขาหล่อเหลา ดูดีทุกระเบียบนิ้ว ผมของเขานุ่มมือยามที่ได้สัมผัส เขาตัดผมเปิดข้างรองทรงสูง มันดูดีเข้ากับใบหน้าได้รูปของเขา
“จะมองอีกนานไหม” ริมฝีปากแดงจัดเอื้อนเอ่ย เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนจะหน้าแดงซ่านที่เผลอมองเขายาวนานขนาดนี้
“หนูขอโทษค่ะ”
“แทนตัวเองด้วยชื่อเล่นสิ ฉันชอบ”
“ชอบหรือคะ”
“ไหนลองเปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูหน่อยซิ ว่าเธอมีเสื้อผ้าอะไรพอจะใส่ออกไปข้างนอกกับฉันได้บ้าง” เขาเปลี่ยนเรื่อง เธอก็รีบทำตาม เปิดตู้เสื้อผ้าอย่างอาย ๆ เพราะมีแต่เสื้อผ้าเก่า ๆ ย้วย ๆ จริง ๆ เขาก็เคยเห็นเธอแต่งตัว แต่คิดว่าอยู่บ้านทำความสะอาดบ้าน เธอคงไม่อยากพิถีพิถันในการแต่งตัว
ชัชขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะหันมามองเด็กสาวตรงหน้า เธอเป็นเด็กสาวตัวเล็ก ผิวขาวเนียนละเอียด หน้าตาจัดว่าน่ารักและจะเรียกว่าสวยก็ย่อมได้ ถ้าจับแต่งตัวให้ดูดีสักหน่อย รับรองว่าผู้ชายมองเหลียวหลัง
พอคิดมาถึงประโยคหลัง เขาก็รู้สึกหวงเธอขึ้นมาจับใจ เขาไม่อยากให้ผู้ชายคนไหนมองเธอ
เธอเหมือนดอกไม้ป่าหอมกรุ่นที่หลงเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ แม้ที่นี่จะไม่ใช่เมืองหลวง แต่ก็เป็นจังหวัดใหญ่ที่เจริญไม่แพ้กรุงเทพฯ
เธอเหมือนดอกไม้ป่า ที่นอกจากกลิ่นจะหอมแล้วความสวยก็งดงามกว่าดอกไม้พลาสติกในเมืองใหญ่เสียอีก
ชัชหงุดหงิดตัวเอง ชักจะคิดเรื่องของเมียทาสในปกครองมากไปจนฟุ้งซ่าน
“รอเดี๋ยว” เขาพูดขึ้นก่อนจะรวบเสื้อผ้าของเธอออกมาจากตู้และจัดการยัดใส่ถุงขยะ
“คุณชัชทำอะไรคะ” มยุรินเอ่ยถามอย่างตกใจ
“เสื้อผ้าพวกนี้ควรทิ้ง ผ้าขี้ริ้วบ้านฉันจะยังดูดีกว่าเสื้อผ้าของเธออีก”
“แล้วหนู เอ๊ย! รินจะเอาอะไรใส่คะ”
“ก็บอกว่ารอเดี๋ยว” ประโยคของเขาทำให้เธอรอคอย และได้พบว่าเพียงไม่นานก็มีเสื้อผ้าถูกนำมาส่งเป็นจำนวนมาก
“ไปลองให้ดูหน่อย” เขาเอ่ยกับเธอหลังจากโบกมือไล่พนักงานของร้านกลับไปก่อน
เจ้าของร้านเป็นเพื่อนสนิทกัน ชัชจึงสามารถเรียกให้พนักงานนำชุดมาให้ลองได้เท่าที่ต้องการแล้วค่อยเรียกเก็บเงินทีหลัง
“ให้หนูลองชุดเหรอคะ” อย่างไรเธอก็ติดเรียกแทนตัวเองว่าหนูอยู่ดี ชัชเลยปล่อยผ่าน
“ใช่ ลองสวมให้ดูหน่อยว่าพอดีไหม ฉันบอกขนาดรูปร่างเธอไปแล้ว ร้านนี้เขาเก่งไม่น่าพลาด” ชัชทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาวราคาแพง มองเมียทาสใต้ปกครองไม่วางตา
“เอาชุดนั้นก่อนแล้วกัน” เขาชี้ไปยังเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นธรรมดาที่แขวนอยู่ในราว เป็นชุดสำหรับใส่อยู่บ้าน แต่มีป้ายราคาแขวนเอาไว้ตรงคอเสื้อ เธอพลิกดูราคาอย่างไม่ตั้งใจก่อนจะวางแทบไม่ทัน
“ทำไมเสื้อผ้าพวกนี้แพงจังเลยคะ แค่เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงขาสั้นเองค่ะ”
“ของแบรนด์เนมมักจะแพงเสมอ” เขาโบกไม้โบกมือให้เธอไปลองชุด มยุรินนำเสื้อผ้ามาลองสวมใส่ดู เธอจับเนื้อผ้าแล้วเห็นถึงความแตกต่าง