บทที่15) จบที่เราเบาที่สุด
"โอเคไหมครับหนูแซน" เฟียสต้าลอบมองหญิงสาวในสภาพมีผ้าถุงของโรงพยาบาลเพียงผืนเดียวที่ปกปิดร่างกายอรชรนั้นเอาไว้ก็อดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
"นี่พี่ยังไม่กลับไปอีกเหรอคะ?" แซนดี้คว่ำปากให้กับคนที่กำลังส่งยิ้มที่ดูยังไงก็เจ้าเล่ห์มาให้เธอ เธอหรือก็คิดเอาไปเองว่าถ้าหากถ่วงเวลาอาบน้ำให้นานเข้าไว้เขาก็คงจะกลับไปแล้วเมื่อเธอเดินกลับออกมาจากห้องน้ำ ที่ไหนได้...เพราะนอกจากเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมแล้วนั้นเขาก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะยอมกลับไปอย่างง่ายๆเสียอีกด้วย ความรู้สึกของเธอมันบอกมาแบบนั้น
"หนูแซน คือ...คือพี่แค่อยากจะคอยดูแลและเทคแคร์หนูแซนครับ" เฟียสต้าเริ่มตะกุกตะกักอย่างไปไม่เป็นเมื่อท่าทีที่หญิงสาวมีต่อเขานั้นมันดูห่างเหินเสียจนเขาเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมา
"นั่งก่อนนะครับ" เดินเขาไปประคองเธอทั้งที่ร่างกายของตัวเองมันกำลังสั่นไหวจนแทบจะทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่
"ใส่เสื้อไหมครับ พี่เตรียมเอาไว้ให้แล้วนะ"
"พี่กลับไปเถอะ แซนดี้อยู่ได้ อีกอย่างพี่ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะอีกสักพักคุณพ่อคุณแม่ของแซนดี้ท่านโทรมาบอกแซนดี้ว่ากำลังจะเข้ามาแล้ว ยังไงแซนดี้ก็ต้องขอขอบคุณที่เฟียสต้าอุตส่าห์สละเวลามาดูแลแซนดี้นะคะ ขอบคุณค่ะ" มือสวยยกขึ้นไหว้หนุ่มรุ่นพี่ตามมารยาท เธอช้อนตามองเขาครู่หนึ่งก่อนจะคว้าเสาน้ำเกลือเพื่อกลับไปพักผ่อนที่เตียงคนไข้
"พี่ช่วยครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ" แซนดี้เอ่ยปฏิเสธอย่างนุ่มนวล เธอรู้ว่าท่าทีของตัวเองมันคงจะดูทุลักทุเลเสียจนเขาทนมองไม่ได้ หากแต่เธอก็ไม่คิดที่จะร้องขอความเมตตาอะไรจากเขาเพราะเธอมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่ได้แสนดีอย่างที่กำลังแสดงออกมาให้เธอเห็น
มีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ในตัวตนของเขา บางอย่างที่ตรงข้ามกับภาพลักษณ์สุภาพบุรุษของเขาโดยสิ้นเชิง และเธอก็สัมผัสได้ในตอนที่เขามองมาด้วยแววตาที่เธอไม่เคยเห็นจากเขามาก่อนแล้วบอกกับเธอว่า 'พี่รู้ว่าหนูแซนเกลียดพี่ แต่เขารักหนูแซนครับ' เมื่อก่อนหน้านี้นั่นเอง
เขาอันตราย สัญชาตญาณของเธอมันบอกออกมาแบบนั้น
"งั้นพี่จะนั่งอยู่ตรงนั้นนะครับ เผื่อหนูแซนต้องการอะไร" เฟียสต้าหน้าเจื่อนนิดหน่อยเมื่อได้ยินคำปฏิเสธเชิงไล่กลายๆจากปากของแซนดี้ แต่ก็ยังคงหน้าด้านหน้าทนรอรับใช้เธอโดยการนั่งรอตรงโซฟาที่อยู่ข้างๆกัน แม้จะรู้ดีว่าแซนดี้จะไม่มีวันเรียกหาชื่อตนอีกแล้วก็ตาม
"ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป พี่ช่วยลงไปหาซื้อยาคุมชนิดฉุกเฉินให้กับแซนดี้หน่อยจะได้ไหมคะ" เสียงเล็กกระซิบแผ่วอย่างเริ่มรู้สึกกระดากอายเมื่อคิดย้อนกลับไปว่าเมื่อก่อนหน้าตัวเองนั้นทำตัวเหลวแหลกมากแค่ไหน
แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเธอก็ยังไม่อยากจะกลายเป็นเด็กใจแตกมีลูกตั้งแต่ยังเรียนไม่จบชั้นมัธยมปลายหรอกนะ
"ได้ครับ" คนที่จงใจจะทำให้หญิงที่ตัวเองรักยอมศิโรราบโดยการมีความสัมพันธ์แบบหลั่งในและมีลูกด้วยกันถึงกับคอตกด้วยไม่รู้ว่าสมัยนี้มันมียาคุมชนิดฉุกเฉินอย่างที่หญิงสาวได้เอ่ยออกมาเมื่อก่อนหน้านี้
"เฮ้อ!" ปากสีชมพูจัดผ่อนลมหายใจหนักๆออกมาอย่างหนักใจหลังจากที่ร่างใหญ่ของเฟียสต้าเดินออกไปจากห้องแล้วระยะหนึ่ง
แซนดี้: อีวีวี่
เธอจึงคว้ามือถือเครื่องเก๋ขึ้นมาเพื่อส่งข้อความไปปรึกษาเพื่อนสนิทของตัวเองในทันที
วีวี่: เป็นไงมั่งมึง เจ็บมากไหม
แซนดี้: โคตรเจ็บ แทบฉีกเลย ครั้งแรกด้วย
วีวี่: อีแซน อีบ้า! อะไรคือครั้งแรกแทบฉีกโคตรเจ็บ อะไรของมึง! เห็นพ่อมึงบอกกูว่าตู้ล้มทับมึงแล้วอะไรมึงฉีก!
"โอ๊ยอีแซน!" เมื่อตั้งสติได้ว่าตัวเองตอบอะไรกลับไปก่อนหน้านั้นแซนดี้ก็ถึงกับสบถออกมาให้กับโง่เง่าของตัวเอง ไอ้ที่เขาว่าคนละเรื่องเดียวกันมัน
เป็นแบบนี้นี่เองสินะ
แซนดี้: ก็เปล่าหนิ กูพิมพ์ผิดน่ะ
แซนดี้: อิโมจิหัวเราะทั้งน้ำตา
วีวี่: อีแซน
วีวี่: กูรู้จักกับมึงมาตลอดชีวิต และมึงก็คงจะรู้ว่ากูเองก็ไม่ได้อ่อนต่อโลกมากถึงขนาดที่ไม่เข้าใจว่าอะไรของมึงแทบฉีกในครั้งแรก วีวี่รู้ แต่วีวี่แค่ไม่ได้เห็นกับตา
วีวี่: ใครทำมึง อีแซน บอกกูมา
แซนดี้: อีโมจิหัวเราะทั้งน้ำตา
แซนดี้: อีวีวี่ คือกูรู้ว่ากูใจง่าย แต่กูก็ทำไปแล้ว กูเสียเวอร์จิ้นไปแล้ววีวี่ แล้วที่สำคัญก็คือกูไม่ได้ป้องกัน
วีวี่: อีแซน! กูอยากจะแรปด่ามึงเป็นภาษาต่างดาวจริงๆอีสัตว์ แต่เอาไว้ก่อน!
วีวี่: ถ้าไม่ได้ป้องกัน ทางเดียวที่พอจะหลงเหลืออยู่ก็...ยาคุมชนิดฉุกเฉินอย่างที่กูเคยบอก
แซนดี้: เขากำลังลงไปซื้อให้
วีวี่: ใคร? กูละอยากจะรูจนตัวซีดตัวสั่นว่าไอ้หน้าหมาที่ไหนที่มันสามารถทำให้คนที่หวงเวอร์จิ้นยิ่งกว่าอะไรอย่างมึงตบะแตกคาโรงพยาบาลไปได้ขนาดนี้!
แซนดี้: ...
วีวี่: อีสรินยา ตอบ!
แซนดี้: พี่เฟียสต้า
วีวี่: ตาย! กูเนี่ยตาย ตายโห่งตายห่า! แล้วอีนี่มึงเกลียดกันภาษาอะไรวะถึงได้ไปนอนเน้ดสดแตกในคาเตียงของโรงพยาบาลวะนั่น! เกลียดแบบใด! ตอบกูมาค่ะคุณกิตติ!
"ฮึก.." ปลายจมูกจิ๋วเริ่มแดงเรื่อหลังจากเสียงสะอื้นด้วยความเสียใจเล็ดลอดออกมาจากปากสวยนั้น อุตส่าห์คิดว่ามันเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ก็แล้ว เธอเกลียดเขาก็แล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ดันมานั่งร้องไห้เพราะความเสียใจอยู่ดี
"แกมันง่ายแซนดี้ แกมันเลว เด็กเลว!" แซนดี้ผรุสวาทว่าตัวเองที่อยากรู้อยากลองจนเป็นเหตุให้ตัวเองต้องสูญเสียสิ่งสำคัญที่มีเพียงหนึ่งเดียวของผู้หญิงไป เธอง่ายเอง...
วีวี่: อีแซน กูขอโทษ กูไม่ได้จะว่ากูแค่ตกใจ
วีวี่: ไม่เป็นไรนะมึง คนเราผิดพลาดกันได้ พลาดไปแล้วก็แค่เริ่มใหม่ที่เสียแล้วก็เสียไปและหัวใจมึงก็ยังเต้นอยู่ มึงยังไม่ตายถูกไหม! ไม่ตายก็ยังไม่สายที่จะเริ่มใหม่เว้ยอีแซน รักมึงที่สุดของหัวใจกูเลยนะอีเพื่อนแรด
แซนดี้หยุดการสนทนากับเพื้อนสนิทเอาไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะปิดหน้าจอมือถือเครื่องหรูลงและวางมันลงบนเตียงหลังจากได้ยินเสียงใครสักคนที่กำลังเปิดประตูห้องเข้ามา
"แซนดี้ พี่ขอโทษ" จากความตั้งใจเดิมที่หน้ามืดตามัวอยากจะได้น้องมาเป็นเมียจนถึงขั้นมีความสัมพันธ์อันลึกซึ่งแบบหลั่งในก็เปลี่ยนเป็นความรู้สึกผิดในทันที เมื่อสังเกตได้ว่าดวงตาสวยของหญิงสาวนั้นดูแดงๆราวกับพึ่งผ่านการร้องไห้เสียใจมา
แล้วเธอจะมีอะไรให้ต้องเสียใจในเมือเธอเป็นเด็กดี(แม้จะดื้อไปบ้าง) เรียนก็เก่ง ถ้าจะมีอะไรที่ทำให้เธอร้องไห้เสียใจก็คงจะไม่พ้นเรื่องที่เขาพึ่งจะกระทำต่อหญิงสาวไปนั่นแหละ
"ไม่เป็นไรค่ะ พี่ลืมๆมันไปซะเถอะค่ะ" แซนดี้เผยยิ้มอ่อนโยนเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้ติดใจอะไรต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
"แซนดี้ผิดเองค่ะ ช่างมันเถอะ" ทุกอย่างมันก็เริ่มมาจากเธอเองที่กระชากเสื้อผ้าจนขาดวิ่นต่อหน้าเขา เธอให้ท่าเขาเองจะไปโทษอะไรเขาได้
"แซนดี้ พี่...พี่อยากจะรับ...
"แซนดี้ไม่ต้องการค่ะ เลิกแล้วต่อกันเถอะนะคะ แซนดี้ขอให้ระหว่างเรามันจบลงแค่ตรงนี้เถอะนะ ได้ไหมคะ" เธอไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบใดๆจากเขาทั้งนั้น เพราะความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขามันมีเพียงแค่ความเกลียดชัง เธอไม่ได้ชอบ ไม่ได้รัก ไม่แม้แต่จะอยากรู้จักเขาด้วยซ้ำ ให้ทุกอย่างมันจบลงแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว ดีต่อทุกฝ่ายทั้งเธอและเขา
เพราะจบที่เรามันเบาที่สุดสำหรับเธอ...
-ตัด-
ขอบคุณโลกใบนี้ที่ให้กำเนิดยาที่ให้ชื่อว่าคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉินขึ้นมา
มัลลิกา
(เขียน)