เมื่อรถกระบะสี่ประตูถูกขับเข้ามาในรั้วอาณาเขตนับพันไร่ของไร่เหมันต์ ผู้มาใหม่ก็รู้สึกตื่นตากับภาพที่เห็น ที่นี่มีพื้นที่สีเขียวกว้างใหญ่ไพศาล ถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน ช่างเป็นภาพที่งดงามมากเหลือเกิน แถมอากาศที่นี่ยังสดชื่นกว่าในกรุงเทพอยู่มากโขอีกด้วย
ธาราไม่เคยย่างกรายขึ้นมาที่ภาคเหนือเลยสักครั้ง ครั้งแรกก็มาถึงเชียงรายเกือบเหนือสุดของประเทศไทยเลยทีเดียว เจ้าหล่อนไม่อยากจะคิดเลยว่าชายหนุ่มที่เธอเพิ่งร่วมหอลงโรงด้วย จะร่ำรวยมหาศาลมากขนาดไหน เพราะดูจากที่นี่แล้วถ้านับเป็นมูลค่าคงจะหลายพันล้านบาทเลยทีเดียว
ความกว้างใหญ่ไพศาลของไร่เหมันต์ทำให้ธารานั่งชมอย่างเพลินตาเพลินใจ จนไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้รถได้จอดสนิทแล้ว คนที่นั่งข้างกันจึงเอ่ยเรียกเพื่อจะได้เข้าไปในบ้าน
“น้ำค้าง น้ำค้าง”
“คะพ่อเลี้ยง” เจ้าหล่อนรีบหันขวับมามอง ทำหน้าเหลอหลาจนฝ่ายชายอดขำไม่ได้
“ถึงแล้วเข้าบ้านกันเถอะ” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้
“ออค่ะ แล้วน้องคิมล่ะคะ ให้ฉันช่วยอุ้มไหม” คิมหันต์นอนหลับปุ๋ยอยู่บนตักผู้เป็นพ่อ แต่ทว่าเธอกลับเอ่ยราวกับว่าแข็งแรงกว่าอีกฝ่ายซะอย่างนั้น
“อวดเก่งจัง ลงไปก่อนเถอะเดี๋ยวฉันอุ้มเอง” เหมันต์ขำออกมาเล็กน้อย
“ฉันแค่อยากจะช่วยทำไมต้องขำกันด้วยล่ะ” เธอเอ่ยราวกับกำลังงอนชายหนุ่ม ก่อนจะเดินหน้าบึ้งลงไป
ธารามองดูบ้านสองชั้นที่สร้างจากไม้ล้วน มีระเบียงยื่นออกมาเพื่อชมวิวทิวทัศน์ของไร่อีกด้วย ถ้าไม่มาเห็นกับตาเธอคงคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝัน ทำไมนะน้องสาวของเธอถึงได้ทิ้งผู้ชายคนนี้ไปได้ ออกจะร่ำรวยขนาดนี้ แถมเขาเองก็ใช่ว่านิสัยจะแย่
“กรี๊ด! พ่อเลี้ยงกลับมาแล้ววว” หญิงสาววัยรุ่นหน้าตาสะสวย แต่งตัวจัดจ้านเดินผ่านธาราด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ตรงเข้าไปหาผู้เป็นเจ้าของไร่ เห็นอย่างนั้นธาราก็หันกลับไปมอง ดูว่าเจ้าหล่อนคนนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงทำนิสัยอย่างนั้นใส่เธอ ทั้งที่ยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แถมยังระริกระรี้เมื่อเห็นสามีของเธออีกต่างหาก
“สวัสดีค่ะคุณน้ำค้าง” หันกลับมาก็เจอกับหญิงวัยอายุราวห้าสิบกว่า เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ เห็นอย่างนั้นเธอก็รีบยกมือไหว้ตอบอย่างตกใจเพราะกลัวว่าจะอายุสั้น
“สวัสดีค่ะ ไม่ต้องไหว้หนูก็ได้ค่ะป้า ว่าแต่ป้ารู้จักหนูด้วยเหรอคะ” เธอเอ่ยถามด้วยสีหน้างงงวย โดยลืมไปว่าตอนนี้เธอสวมรอยเป็นน้องสาวอยู่
“ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ ก็คุณน้ำค้างมาพักที่นี่กับพ่อเลี้ยงอยู่บ่อยๆ อำป้าเล่นรึเปล่าคะเนี่ย” บัวคลี่ทำหน้างงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำเธอไม่ได้ ทั้งที่แต่ก่อนจิกหัวใช้อย่างกะอะไรดี
“อ๋อ โทษทีค่ะพอดีหนูอาจจะหลงๆ ลืมๆ ไปหน่อย” ธารายิ้มแหยๆ ให้กับแม่บ้านเก่าแก่ของบ้านหลังนี้
หลังจากทักทายกันแล้วทั้งหมดก็เข้าไปในบ้าน เหมันต์อุ้มลูกชายไปนอนที่เตียงในห้อง ออกมาแล้วก็เรียกทุกคนในบ้านให้มารวมตัวกัน แนะนำให้รู้จักธาราอย่างเป็นทางการในฐานะนายหญิงคนใหม่ของที่นี่
“หลายคนคงอาจจะเคยรู้จักกับคุณน้ำค้างมาบ้างแล้ว ก่อนหน้านี้เธอมาที่นี่ในฐานะคนรักของฉัน แต่จากนี้ไปเธอจะอยู่ที่นี่ในฐานะภรรยาของฉัน ให้ทุกคนเรียกเธอว่าแม่เลี้ยง เข้าใจตรงกันนะ” เหมันต์ยืนอยู่ตรงหน้าลูกน้องทุกคน
ส่วนธาราเองก็ยืนอยู่ข้างสามี ยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร แต่ทว่าคำปองกลับทำหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะตัวหล่อนเองก็หวังที่จะได้เป็นนายหญิงของบ้านหลังนี้ นั่นทำให้ความฝันของเธอพังทลายลงในพริบตา
“สวัสดีค่ะทุกคน ฉันขอฝากเนื้อฝากตัวอย่างเป็นทางการด้วยนะคะ” เธอส่งยิ้มให้กับทุกคนอย่างเป็นมิตร หลายคนยิ้มตอบ แต่ก็มีบางคนที่ทำสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร
“รู้จักกันแล้วก็แยกย้ายกันไปได้ แค่นี้ล่ะ” เหมันต์เอ่ย จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของใครมัน
เมื่อเหลือเพียงแค่สองคนแล้ว ธาราก็ทำตัวไม่ถูก ได้แต่ส่งยิ้มให้กับชายหนุ่ม
“ยิ้มให้ฉันอย่างนี้หมายความว่าไง” เหมันต์ถามภรรยาสาวเชิงหยอก เห็นอย่างนี้เขาอยากจะพาเข้าไปในห้องซะตอนนี้เสียด้วยซ้ำ รสสวาทเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาทำให้เขาหลงใหลเจ้าหล่อนได้อย่างง่ายดาย ความรู้สึกแปลกใหม่นี้มันเกิดขึ้นพร้อมกับความสงสัยที่ค้างคาอยู่ในใจ ยิ่งได้พูดคุยได้ใกล้ชิดกัน เขายิ่งมั่นใจว่าเธอคนนี้ไม่ใช่น้ำค้างแน่นอน หากจะบอกว่าเป็นแฝดกันเขาก็เชื่อเพราะใบหน้าเหมือนกันซะเหลือเกิน นั่นคือสิ่งที่เขาจะต้องหาคำตอบให้ได้
“ปะ...เปล่าค่ะ พอดีฉันจะถามว่าให้ฉันนอนห้องไหน” แววตาของเขาทำให้ธาราไม่กล้าสู้หน้า มันทำให้เธอนึกถึงฉากรักบนเตียงเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังจำทุกท่วงท่า ทุกแรงกระแทกที่ชายหนุ่มถาโถมเข้ามาในตัวเธอได้ดี
“ทำอย่างกับเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกซะงั้น จำห้องนอนของเราไม่ได้แล้วหรือ” สัมภาระของธาราถูกคนขับรถนำไปไว้ในห้อง เธอจึงไม่รู้ว่าห้องที่น้องสาวเธอเคยนอนร่วมกับผู้เป็นเจ้าของบ้านอยู่ตรงไหน
“เอ่อ...จำได้ค่ะ เพียงแต่ฉันไม่ได้มาที่นี่นานมันอาจจะหลงๆ ลืมๆ ไปบ้าง”
“ถ้างั้นไปที่ห้องนอนของเราดีกว่า เธอเดินนำหน้าไปก่อนเลย” เหมันต์ผายมือเชิญเจ้าหล่อนให้เดินนำหน้าไป
“ค่ะพ่อเลี้ยง” เธอตัดสินใจเดินตามทิศทางที่อีกฝ่ายผายมือไป
“ไม่ใช่ทางนั้น...ทางนี้” เหมันต์ชี้ไปอีกทาง ทำเอาธาราถึงกับหยุดชะงัก ขมวดคิ้วจนเป็นปม รู้สึกเสียหน้าซะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสงสัยในตัวเธอแล้วหรือยัง
“แล้วทำไมคุณถึงผายมือมาทางนี้ล่ะคะ ฉันก็เลยตามเลย” เธอแก้ตัว
“สงสัยเธอยังคงเมารถอยู่ เอาเป็นว่าเดินตามฉันมาก็แล้วกัน” เหมันต์ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินนำหน้าหญิงสาวไปที่ห้องนอน
ธาราเดินตามหลังอย่างว่าง่าย เจ้าหล่อนยกมือขึ้นมาทาบหน้าอกด้วยความโล่งใจ ที่สามารถเอาตัวรอดไปได้อีกครั้ง