ตอนที่ 2 พ่อหนุ่มบ้านไร่กับสาวมือตบ (ผี) 2/2

2183 คำ
ณ ไร่สุขเกษม ซึ่งได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ไร่สุขเกษมเปรมปรีดิ์ วันนี้มีงานทำบุญใหญ่ ที่นาน ๆ เจ้าของไร่จะอนุญาต ด้วยความที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ แต่เพื่อความสบายใจของคนงาน และเหล่าลูกน้องจอมเอาแต่ใจ ก็มีแต่ต้องยอม “เอาน่าคุณออส แค่ไปรดน้ำมนต์นิดหน่อยเองครับ หลวงพ่อไม่คิดเงินเพิ่มหรอก... นะครับ ผมขอร้อง” นทีเอ่ยทั้งน้ำตา แต่แขนขาทั้งยื้อทั้งกระชากผู้เป็นนายออกจากห้อง แถมยังมีแรงเหนือกว่าอีกต่างหาก “พอเถอะนที! ฉันยังมีงานที่ต้องทำนะ แค่ทำบุญแล้วก็แยกย้ายไม่ใช่เหรอ ยังจะให้ฉันไปทำอะไรอีก!!” ออสที่พยายามเกาะขอบประตูห้องทำงานใต้ดินเอาไว้แน่น พยายามโน้มน้าวใจผู้เป็นลูกน้องที่จ้างมากับมือให้ปล่อยตนกลับไปทำงานเสียที! “แค่พรมเบา ๆ ไม่ได้เปียกเสียหน่อย คุณออสไม่ได้เป็นโรคกลัวน้ำนี่ครับ จะกลัวไปทำไม” ยัง... ยังไม่หยุดที่จะพยายามดึงเจ้านายออกมาให้ได้ “ก็บอกว่าไม่ไปไง ฉันยังเหลืองานที่ค้างอยู่ในหัว ต้องรีบจัดการก่อนจะลืมนะโว๊ย!” ออสพยายามเรียกเรี่ยวแรงทั้งหมดออกมา เพื่อพาตนไปยังโต๊ะทำงานให้ได้ แต่ไอ้เจ้าลูกน้องจอมดื้อด้านนี่สิ ไม่ยอมปล่อย แถมเหมือนจะมีแรงเยอะขึ้นด้วย! “ขอโทษนะครับคุณออส” เสียงทุ้มต่ำ และร่างกายบึกบึนของอาทิตย์ ที่มักมากับใบหน้าที่แสนจะเรียบนิ่ง ต่างจากพลังแขนอันมหาศาล รวบรัดร่างสูงที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงลอยวืดขึ้นพาดบ่าไปอย่างไม่สามารถหลบเลี่ยงได้! “ไอ้อาทิตย์! ฉันไม่อยากไป แกเข้าใจมั้ย ฉันเป็นเจ้านายแกนะเว๊ย! แกต้องฟังฉันสิ ทำไมพวกแกถึงไม่ยอมฟังฉันบ้างเลยวะ!?!” นั่นแหละ กรรมของคนเป็นเจ้านาย “เอาน่า~ อาออสก็น่าจะฟังคนอื่น ๆ บ้างเป็นไร ที่เขาทำก็หวังดีกันทั้งนั้น... เนอะ~” อรรถ ผู้เป็นหลานกาฝากเพียงหนึ่งเดียวที่ออสเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ไม่คิดเลยว่าโตมาจะมารวมหัวกับพวกนี้ด้วย! “ไอ้หลานเวร! อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะ!!” เพื่อไม่ให้เป็นการขายหน้าไปมากกว่านี้ ออสเลยยอมลงเดินเองก่อนที่ตนเองจะเป็นหัวข้อให้เม้าท์กันในวงเหล้าของเหล่าคนงานในไร่เสียก่อน ไร่แห่งนี้ ถูกปล่อยร้างไปหนึ่งปีกว่า ทำให้คนงานหลายคนเลือกที่จะลาออกและไปอยู่ที่อื่น แต่การมาของออส แม้ช่วงแรกจะดูไม่ได้ความ แต่เขาก็เป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของคนงานอีกหลายคนที่ไม่มีที่ไป ทำให้คนที่หมกมุ่นกับโปรแกรม หรือไม่ก็อุปกรณ์สุดล้ำสมัยต่าง ๆ ต้องหันมาจับจอบจับเสียม ขับรถไถแทน แม้ปากจะบอกว่าไม่อยากทำ ไม่ต้องการ แต่สุดท้ายผลงานก็ออกมาดีเกินคาด ทั้งผลผลิต และแพลนขยายกิจการของเขา ก็ดูจะได้รับผลตอบรับดีมากอีกด้วย บ้านที่เคยไฟไหม้ไปเมื่อ 3 ปีก่อน ก็ถูกสร้างใหม่ ยังทรงบ้านเรือนไทยเอาไว้ตามแปลนเดิม เพิ่มเติมออฟฟิศเพราะเจ้าตัวเขาไม่อยากเดินไปทำงานไกลจากเตียงนอน ส่วนคนงานที่ไว้ใจได้ส่วนใหญ่ก็เป็นคนเก่าคนแก่ สามารถพูดคุยกับเจ้าของไร่คนใหม่อย่างไม่มีอะไรปิดบัง แต่ปิดบังไปก็เท่านั้น ออสคนนี้ช่างจี้ ช่างเค้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไร สุดท้ายก็หลุดออกมาจนหมด แต่ใครจะคิดละว่าไร่ที่เคยตายไปแล้ว จะกลับมาพลิกฟื้นได้อีกครั้ง อีกทั้งยังมีออสที่ประดิษฐ์อุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อให้คนงานสะดวกสบายมากขึ้น แม้บางงานจะต้องใช้มือของคนจริง ๆ ก็ตาม แต่ก็ช่วยทุ่นแรง แถมเพิ่มผลผลิตได้เยอะ ขนาดบริษัท SS ก็ยังมาทำสัญญาด้วย แม้ความจริงจะใช้เส้นสายจากความสนิทในช่วงแรกก็ตาม สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ออสสร้างมากับมือ มันมีคุณภาพตามที่ต้องการจริง ๆ ทำให้ลบข้อครหาได้โดยทันที เรื่องแปลก ๆ มันเริ่มขึ้นเมื่อ 5 เดือนก่อน ปกติออสเป็นคนไม่ยอมนอนหากงานยังไม่เสร็จ หรือยังไม่สามารถเคลียร์ความคิดของตัวเองได้หมด เขาจะไม่ยอมนอน แม้ว่าจะง่วงแค่ไหนก็ตาม แต่จู่ ๆ ในเวลาเดิมช่วง 22.00 น. ชายหนุ่มจะเดินเข้าไปในห้องนอนเหมือนคนไร้สติ แต่ตื่นเช้าในช่วงเวลา 06.00 น. ทุกวัน ทั้ง ๆ ที่ควรจะนอนเต็มอิ่ม แต่ดูอย่างไร ร่างกายของผู้เป็นนายก็มีแต่จะทรุดโทรมลงทุกวัน “มาแล้วครับหลวงพ่อ พรมเยอะ ๆ เอาให้ชุ่มเลยครับ” อรรถเป็นคนบอก “ไอ้อรรถ!!” แน่ล่ะ คนเป็นอาต้องตวาดใส่อยู่แล้ว กวนประสาทแทบทุกวินาที งานก็ไม่ทำ ยังจะมากวนบาทาอีก!“ใจเย็น ๆ โยม โทสะเป็นสิ่งที่มี การที่โยมสามารถระงับโทสะได้ จะถือว่าเป็นบุญกุศลนะโยม” เห็นท่าไม่ดี หลวงพ่อเองก็ต้องห้ามปราม เห็นมาเยอะ ในโลกนี้มีทั้งคนสัทธา และคนที่ไม่ยอมเชื่ออะไรง่าย ๆ อย่างพ่อหนุ่มตรงหน้า สภาพร่างกายดูแย่กว่าที่คิด แววตาของผู้เห็นโลกมากกว่า 50 ปี ทั้งฝึกบริกรรมกถาต่าง ๆ ก็มีมาก และมันก็มากพอที่จะมองเห็นเงาดำทมิฬที่เกาะชายผู้นี้อยู่ ดูท่าน้ำมนต์ขันที่ท่านได้บรรจงเสกขึ้น จะได้ผลไม่มากเท่าไหร่ “พนมมือสิครับ คุณออส” นทีสั่งผู้เป็นนาย “ให้ตายเถอะ ฉันเนี่ยนะต้องมาทำอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้แบบนี้” สุดท้ายออสก็พนมมือตามที่ลูกน้องสั่ง ตลอดชีวิตออสอยู่เพียงหน้าจอมอนิเตอร์ ที่รายล้อมไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย แม้กระทั่งตนจะต้องมาเป็นชาวสวนชาวไร่ก็ตาม ในสวนของเข้าก็ต้องมีเครื่องมือต่าง ๆ ที่เขาเป็นคนคิดค้นขึ้นเอง แต่ทำไมกัน จะต้องมานั่งรับน้ำมนต์ที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเป็นส่วนประกอบแบบนี้ด้วย! ซ่า!!~ น้ำมนต์ทั้งขัน หลวงพ่อเล่นสาดไปที่เจ้าของไร่อย่างออสเพียงคนเดียว!! หวังว่าน้ำมนต์นี้ จะช่วยไล่สิ่งชั่วร้ายที่เกาะตัวชายหนุ่มผู้นี้ออกไปได้บ้าง “เดี๋ยวสิหลวงพ่อ! ไหนบอกแค่พรมไง นี่มันเปียกยันข้างในเลยนะ!!” ออสลุกพรวดพร้อมโวยวายยกใหญ่! เสื้อยืดขาวที่ย้วยแล้วย้วยอีกตอนนี้กลายเป็นผ้าเบา ๆ ที่เพิ่งโดนน้ำ ทำให้คอเสื้อที่ไม่มีแรงจะพยุงตัวเอง ห้อยย้อยลงมาถึงกลางอก เผยให้เห็นแผงอกกว้างขาว แน่นหนึบด้วยกล้ามเนื้อพอดีส่วน เพราะไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน สุดท้ายก็โดนลูกน้องเจ้าปัญหาลากไปออกกำลังกายอยู่ดี เสื้อขาวเมื่อต้องน้ำแล้วมีหรือมันจะไม่บางจนมองเห็นไปถึงไหนต่อไหน ลอนกล้ามสมส่วนถูกฉายออกมาผ่านรอยเปียกที่ชุ่มทั้งกาย หญิงสาวที่เป็นคนงานในไร่แม้จะน้อย แต่ก็พอมีบ้าง ได้เห็นภาพตรงหน้า มีหรือจะไม่กรี๊ดกร๊าดจนออกนอกหน้า เห็นปากร้ายแบบนี้ ก็เป็นนายในฝันของสาวในไร่หลายคน ด้วยเบ้าหน้าที่ได้รูป ขาวละมุนต่างจากคนงานคนอื่นที่ผิวดำกระด้าง ดวงตาคมกริบ ทุกครั้งที่ตวัดไปมองใคร ราวกับจะฟาดหัวใจของผู้ที่ถูกมองตายดิ้นเสียตรงนั้น จมูกโด่งเด่นเป็นสัน รับกับริมฝีปากรูปกระจับแดงระเรื่อ กลุ่มผมสีดำสนิท พอถูกน้ำลูบลงมา ก็ทำให้ไอ้ทรงที่มันยุ่ง ๆ ดูเรียบร้อยขึ้นมาเพียงครู่ ก่อนจะมีมือใหญ่ของเจ้าของมาสางแรง ๆ เพียงให้เม็ดน้ำมันกระเด็นหายไป ช่างเป็นภาพที่ชวนให้หลงใหล ทำเอาใจสาวชาวไร่หลายคนแทบละลายเมื่อได้เห็น “อาตมาขอโทษ เมื่อกี้มันหลุดมือ อาตมาตั้งใจ เอ๊ย ไม่ได้ตั้งใจนะโยม” หลวงพ่อก็พยายามสำรวมให้มากที่สุด แม้จะตกใจจนแทบอยากจะลุกออกจากอาสนะเสียตอนนี้ เสียงกรีดร้องโหยหวน แม้เพียงครู่ แต่ก็ทำพระที่จำพรรษามากกว่า 20 พรรษาขนลุกซู่ ไม่คิดเลยว่าพ่อหนุ่มหน้าตาดีแบบนี้ จะถูกวิญญาณอาฆาตมากมายขนาดนี้มาตามรุมทึ้ง ‘น่าสงสาร’ “พอแล้ว ๆ ฉันจะกลับห้อง” ออสพยายามจะหันหลังกลับ แต่ก็ถูกทั้งเลขาอย่างนที บอดี้การ์ดอย่าง อาทิตย์ และหลานกาฝากอย่างอรรถ รั้งร่างเอาไว้ พร้อมกระชากลงมานั่งที่เดิม “สวดมนต์ให้ด้วยครับ เอาหนัก ๆ” อรรถเป็นคนขอ “หรือจะน้ำมนต์อีกสักขันก็ได้ครับ เผื่อจะดีขึ้น!” นทีเองก็ด้วย “มีแบบดื่มหรือเปล่าครับ เอาสักเหยือกเลยก็ได้” อาทิตย์เสริม “เอ่อ~” หลวงพ่อถึงกับเลือกทำตามคำขอไม่ถูก “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ โว้ย!! อื้ออ!!~” “จับไว้ ๆ” นทีที่คว้าคอของเจ้านายมาแล้วเอามือตนอุดปากเขาเอาไว้ ขอความร่วมมือให้ทั้งสองที่เหลือช่วยกันจับแขนขาให้แน่น เพราะเชื่อสนิทใจเลยว่าเจ้านายตัวเองกำลังโดนสิ่งที่มองไม่เห็นเล่นงานอยู่แน่ “พวกโยม... ดูรักเจ้านายของพวกโยมกันจังเลยนะ” หลวงพ่อยิ้มแหย ๆ ก่อนจะหลับตาพร้อมพนมมือ บทสวดเพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลถูกท่องไปยาวยืด แม้ภาพตรงหน้าจะเห็นแล้วทรมานแทนก็ตาม ไม่รู้ว่าบทสวดนี่จะได้ผลหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็อาจจะช่วยยื้อชีวิตพ่อหนุ่มตรงหน้าได้อีกหน่อย “อ่อยอั้นไอ!!!” (ปล่อยฉันไป!!!) งานพิธีทำบุญใหญ่ได้จบไป อะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้มาเห็นที่นี่ เหล่าหลวงพ่อ และหลวงพี่ทั้งหลายกำลังจะกลับ แต่ก็ยังมีอีกองค์ที่ยังติดใจกับสิ่งที่เห็น เมื่อลองดูดี ๆ แล้ว บ้านหลังนี้มัน... “เฮี้ยนจริง ๆ เฮ้อ~ ถ้าไปยุ่ง มันจะใช่กิจของสงฆ์หรือเปล่านะ?” แต่ถึงอย่างนั้น จะปล่อยไปเฉย ๆ ก็ไม่ได้ หลวงพ่อเจ้าของน้ำมนต์ขันใบโต เลยเดินมุ่งหน้าเข้าไปยังเรือนไทยหลังที่เพิ่งออกมาอีกครั้ง แม้จะเป็นเรือนที่ทำใหม่ แต่ภายใต้เรือนแห่งนี้นี่สิ ไม่รู้ว่ากี่ศพต่อกี่ศพที่ยังไม่ไปเกิด “ลืมอะไรหรือเปล่าครับ?” เลขาหน้ามน ตอนนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของการทารุณกรรมจากเจ้านายเต็มตัว เดินมาถามหลวงพ่อที่น่าจะกลับไปได้สักพักแล้ว “เดี๋ยวผมช่วยหา” “ไม่หรอกโยม อาตมากำลังมองดูบ้านหลังนี้ เลยคิดว่าจะทำอย่างไรดี?” พอได้เดินดูแล้ว ก็พอจะเข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงได้มีวิญญาณอาฆาตตามติดขนาดนี้ ทั้งเจ้าที่ที่ควรจะดูแลรักษาที่นี่ ก็อ่อนกำลังลงไปมาก ทำให้สัมภเวสีเข้าออกที่นี่เป็นว่าเล่น อย่างกับแก้ผ้ากลางสนามรบไม่มีผิด “หมายถึงอะไรหรือครับ?” นทีมองหลวงพ่ออย่างสงสัย ก่อนที่ท่านจะล้วงเข้าไปในย่ามสีเดียวกับจีวรที่ห่มอยู่ “ติดต่อคนนี้ก็แล้วกัน สีกาผู้นี้อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยก็พอจะป้องกันเจ้านายของโยมได้บ้าง ที่จริงอาตมาอยากจะให้ติดต่ออีกคน แต่เจ้านั่นมันเอาใจยาก น่ารำคาญ เลยแนะนำเป็นสีกาผู้นี้แทน” หลวงพ่อยื่นกระดาษที่มีเบอร์โทรเขียนเอาไว้ ไม่รู้ว่าเป็นคนสำคัญแค่ไหน ถึงได้จำขึ้นใจ แน่ล่ะ นังเด็กคนนี้โทรมาขอหวยบ่อยจะตายไป เลยต้องระวังเอาไว้! “เดี๋ยวผมจะลองติดต่อดูนะครับ ขอบคุณหลวงพ่อมาก ๆ ครับ” นทียกมือไหว้ พร้อมอาสาไปส่งหลวงพ่อที่วัดด้วยตนเอง ระหว่างทางไม่มีเรื่องที่น่ากลัวออกมาจากปากหลวงพ่อเสียเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงานวันนี้เสียมากกว่า อีกทั้งยังชื่นชมเจ้านายของตนว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แม้นทีเองจะยอมรับถึงความเก่งของเจ้านายก็ตาม แต่พอได้ยินคนอื่นชม ก็มีขนลุกบ้าง แต่ก่อนกลับนี่สิ หลวงพ่อก็ได้ย้ำนักย้ำหนาในเรื่องที่พูดไปก่อนหน้านี้ “อย่าลืมโทรหาสีกาคนที่อาตมาแนะนำนะโยม อาตมากลัวจะไม่ทันเวลา” นั่นคือสิ่งเดียว และสิ่งสุดท้ายที่หลวงพ่อเตือนเขา “ไม่ทันเวลา... อย่างนั้นเหรอ?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม