บทที่ 3 สถานที่ลับ [3/3]

1171 คำ
“พวกมึงแม่งน่ารังเกียจ!” เสียงของใครบางคนทำให้ฉันค่อย ๆ หันไปมอง และเห็นเป็นพี่เหมันต์ที่กำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงมองจ้องรุ่นพี่ใจร้ายอย่างเอาเรื่อง แววตาวาวโรจน์แลดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งการปรากฏตัวของพี่เหมันต์สร้างความตกใจให้พวกรุ่นพี่ใจร้ายไม่น้อย รวมถึงฉันด้วย “พี่เหมันต์!” “ขอโทษน้องเขาดิ มึงชนน้องเขานี่!” พี่เหมันต์พูดสั่งรุ่นพี่ที่ชนฉันเสียงเหี้ยม ทำเอารุ่นพี่ถึงกับสะดุ้งตกใจ ก่อนจะปรายตามามองฉันแล้วขยับปากพูดขอโทษออกมาอย่างว่าง่าย แต่มันเป็นเสียงที่แผ่วเบามากหากไม่ตั้งใจฟังคงไม่รู้ว่าพูดอะไร “พะ..พี่ขอโทษ” “พูดดัง ๆ เหมือนตอนที่มึงบูลลี่น้องเขาสิวะ!!” พี่เหมันต์ตะคอกใส่รุ่นพี่เสียงดังลั่น ซึ่งดูน่ากลัวและขัดกับใบหน้าหล่อใสมาก “พี่ขอโทษ!” ได้ยินรุ่นพี่พูดขอโทษฉันเสียงดังฟังชัด พี่เหมันต์ก็กระตุกยิ้มพอใจพร้อมแค่นเสียงในลำคอว่า “หึ” “พวกผมไปก่อนนะครับ” “อย่าเพิ่งไป!” “มึงด้วยอีกคน ขอโทษน้องเขาที่ปากหมาใส่สิวะ!” พี่เหมันต์ชี้หน้าสั่งรุ่นพี่อีกคนที่ว่าให้ฉัน “คะ..ครับ พี่ขอโทษครับ” รุ่นพี่คนนั้นสะดุ้งตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันมาพูดบอกฉันแบบชัดถ้อยชัดคำเหมือนกลัวว่าพี่เหมันต์ตะคอกใส่ให้พูดใหม่ “พวกผมขอโทษแล้ว ไปก่อนนะครับ” พูดเสร็จก็ก้มหัวให้พี่เหมันต์แล้วพากันรีบวิ่งหนีไปแบบไม่รอให้ฉันพูดอภัยให้ ช่างดูแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง พอรุ่นพี่ใจร้ายพวกนั้นไปแล้ว พี่เหมันต์ก็ปรายตามามองฉันด้วยแววตาที่ดูอ่อนลงไม่เหมือนเมื่อกี้นี้ พี่เหมันต์เดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นมือมาตรงหน้าฉัน “พี่ช่วย” ฉันมองใบหน้าและมือของพี่เหมันต์สลับไปมาอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจเช็ดมือที่เปื้อนดินกับกระโปรงแล้วค่อย ๆ ยื่นไปจับมือของพี่เหมันต์ด้วยหัวใจที่กำลังเต้นเร็วแรง ฉันลุกขึ้นยืนได้สำเร็จโดยได้รับความช่วยเหลือจากพี่เหมันต์ และฉันยังถูกพยุงมาที่โต๊ะหินอ่อนด้วย ฉันจึงขอบคุณไปอย่างซึ้งใจ “ขอบคุณค่ะพี่เหมันต์” พี่เหมันต์ไม่ได้พูดตอบ แต่พยักหน้าตอบแทน ก่อนจะหลุบตามองเข่าที่ถลอกของฉัน แล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ดูคล้ายเป็นห่วง “เจ็บรึเปล่าน้องขนมฟู?” “คะ?” ฉันได้ยินดังนั้นก็เอียงคอมองหน้าพี่เหมันต์แบบงุนงง เพราะฉันไม่ได้ชื่อขนมฟู แต่ชื่อแยมโรลต่างหาก “พี่ถามน้องนั่นแหละ น้องขนมฟู” “หนูชื่อแยมโรลค่ะ” ฉันบอกไปอีกครั้งเพราะบางทีพี่เหมันต์อาจจะจำชื่อฉันไม่ได้หรือไม่ก็จำผิด แต่สีหน้าของพี่เหมันต์หลังจากได้ยินฉันบอกไปแบบนั้นกลับดูไม่ได้รู้สึกผิดหรือประหลาดใจเลยสักนิด เหมือนกับรู้อยู่แล้ว “พี่ว่าชื่อขนมฟูเหมาะกว่า น่ารักกว่าเยอะเลย” “พี่เรียกหนูว่าแยมโรลเถอะค่ะ” แม้จะเป็นชื่อใหม่ที่พี่เหมันต์อุตส่าห์ตั้งให้ แต่ฉันก็ไม่ค่อยชอบมันสักเท่าไหร่ เพราะคำว่า ‘ฟู’ มันเหมือนตอกย้ำผมฟู ๆ ของฉัน “พี่ขอเรียกแค่คนเดียวไม่ได้เหรอ?” พี่เหมันต์ถามกลับเสียงอ้อน ทำเอาหัวใจของฉันกระตุกวูบ พี่เหมันต์จะรู้ไหมว่ากำลังทำให้หัวใจของฉันจะวายตาย “……” “ได้ไหมครับ?” ทำไมพี่เหมันต์ต้องทำเสียงแบบนี้ด้วยนะ ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย “แล้วแต่พี่เลยค่ะ นะ..หนูขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะ” ฉันยกมือไหว้แล้วหยัดกายลุกขึ้น ทว่าก็ถูกพี่เหมันต์จับข้อมือรั้งไว้แล้วออกแรงดึงให้ฉันนั่งลงไปอีกครั้ง “น้องจะรีบไปไหน เดี๋ยวพี่ไปซื้อปลาสเตอร์มาแปะให้ก่อน” “มะ..เป็นไรค่ะ หนูกลับไปแปะที่บ้านก็ได้ค่ะ” แผลมันไม่ได้ถลอกจนเลือดไหลอาบ แต่แค่ซิบ ๆ นิดหน่อย ฉันค่อยกลับไปให้แม่ทำแผลให้ที่บ้านก็ได้ แม้อาจจะถูกบ่นจนหูชาก็ตาม “อย่าดื้อสิครับ” พี่เหมันต์พูดบอกเสียงเข้ม ทำเอาฉันไม่กล้ากระดุกกระดิกตัว จึงนั่งนิ่งมองจ้องหน้าพี่เหมันต์อย่างไม่กล้าลองดี “นั่งรออยู่นี่ก่อนนะน้องขนมฟู เดี๋ยวพี่มา แป๊บเดียว” พูดสั่งฉันเสร็จก็วิ่งไป ฉันมองตามแผ่นหลังของพี่เหมันต์จนลับสายตา ก่อนจะก้มลงมองบาดแผลของตัวเอง ตอนแรกมันก็รู้สึกเจ็บนะ แต่พอเห็นว่าพี่เหมันต์ดูเป็นห่วงก็หายเป็นปลิดทิ้งเลย ไม่นานพี่เหมันต์ก็กลับมาพร้อมขวดน้ำเกลือและปลาสเตอร์ ทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าฉันแล้วจัดการเปิดขวดน้ำเกลือ “แสบนิดนึง ทนหน่อยนะน้องขนมฟู” พี่เหมันต์พูดบอกก่อนจะเทน้ำเกลือราดใส่แผลฉัน และมันก็ทำให้ฉันร้องออกมาด้วยความแสบ แสบจนน้ำตาเล็ด “โอ๊ย! ซี๊ด” พี่เหมันต์เงยหน้ามองฉันพลางอมยิ้มเล็กน้อยครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงเอาปลาสเตอร์แปะแผลให้ฉัน “เสร็จแล้ว เก่งมากน้องขนมฟู” หลังจากแปะปลาสเตอร์ให้ฉันเสร็จ พี่เหมันต์ก็หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขา และก็ต้องสะดุ้งตกใจอย่างแรงเมื่อจู่ ๆ พี่เหมันต์ก็เอามือลูบหัวฉันเบา ๆ เหมือนเอ็นดู แถมยังไม่รังเกียจผมฟูฟ่องของฉันเลยสักนิด ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงโครมครามคล้ายจะระเบิดในอกอยู่รอมร่อ ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก “น้องกลับบ้านไหวไหม หรือต้องให้พี่ไปส่ง?” “ไม่เป็นไรค่ะ! หนูกลับเองได้ค่ะ” ฉันกระเด้งตัวลุกขึ้นตอบกลับไปอย่างทันควัน ฉันไม่ได้เจ็บมากจนเดินไม่ไหว และขืนให้พี่เหมันต์ไปส่งที่บ้านฉันคงได้หัวใจวายได้ตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทางแน่ ๆ ....ยิ่งทำลายล้างฉันอยู่ “แน่ใจนะ?” เขาทำหน้าไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ ฉันจึงต้องพยักงึกงักและตอบไปเสียงหนักแน่น “ค่ะ สบายมากค่ะ” “โอเค งั้นกลับดี ๆ นะครับน้องขนมฟู” พี่เหมันต์พูดบอกเสียงทุ้มนุ่มพร้อมส่งยิ้มแสนอบอุ่นมาให้ฉัน “ค่ะ กลับแล้วค่ะ สวัสดีค่ะพี่เหมันต์” ฉันยกมือไหว้พี่เหมันต์ไป เมื่อเห็นเขาพยักหน้ารับให้ ฉันก็หมุนตัวเดินออกมาแบบช้า ๆ ค่อย ๆ เดิน เพราะถึงแม้ไม่ได้เจ็บเข่ามาก แต่ก็ทำให้เดินเป็นปกติได้ยากเหมือนกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม