สุดท้ายก็ได้รัก 02 กลับบ้าน(3)

730 คำ
“พ่อ…” คำพูดของพ่อทำรสลินพูดไม่ออก พ่อของเธอน้ำตาเอ่อคลอแต่ก็ยังส่งยิ้มมาให้เธอ พ่อเสียใจแต่ยังคงพูดปลอบใจเธอ เธอทำให้พ่อเสียใจ “มา ลงจากรถก่อน ร้องไห้มาเฮงงงหมดแล้ว” พ่อภูมิพูดพลางกลบเกลื่อนความทุกข์ใจด้วยเสียงขำ “เฮงมันดื้อ ลงไปหาพ่อเลย พี่โรสจะลงรถแล้ว” รสลินจึงกลบเกลื่อนเช่นกัน มาเฮงมองหน้า แลบลิ้นออกมาเลียแก้มเธอแล้วลงจากรถ รสลินจึงลงบ้างก่อนที่มาเฮงจะกระโดดขึ้นมาอีกรอบ ลงจากรถมายืนต่อหน้าพ่อก็ตั้งท่าจะร้องอีกครั้งพ่อจึงดึงเธอเข้าไปกอด มือใหญ่ที่อบอุ่นเสมอลูบที่ศีรษะด้วยความเอ็นดู “พ่อ…หนูขอโทษ” “อืม ไม่เป็นไร เขาไม่รักก็ช่างเขา พ่อรักลูกนะ กลับมาอยู่บ้านเรานะลูก” “ชีวิตคู่ของหนูล้มเหลว” “แต่ชีวิตลูกสำคัญกับชีวิตพ่อเพราะงั้นห้ามคิดอะไรไม่ดี รู้ใช่ไหมว่าพ่อมีลูกเป็นแก้วตาดวงใจ” “หนูไม่ได้จะคิดสั้น หนูแค่เสียดายเวลาที่ผ่านมา ถ้าคิดว่าหนูไม่ใช่ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ หนูไม่น่าแต่งงานกับเขาเลย” “ความรักของคนเราไม่เท่ากันนะลูก ใจคนก็เปลี่ยนได้เมื่อเจอคนที่ถูกใจกว่า เมื่อก่อนธิติรักหนู แต่พอเวลาผ่านไปเขาเจอคนที่ใช่กว่าคนที่เขารู้สึกมากกว่าเขาก็ต้องเลือกคนที่เขารู้สึกด้วยมากกว่า ไม่เป็นไรนะอย่าไปเสียใจให้คนโลเลแบบนั้นเลย เริ่มต้นใหม่กัน ไม่มีใครเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ วันนี้ล้มก็ตั้งหลักลุกขึ้นใหม่ ลูกสาวพ่อเก่งอยู่แล้ว เนี่ยยังสวยอยู่เลยหาใหม่ได้สบาย เดี๋ยวมีคนรู้ว่าลูกพ่อโสดก็มีคนมารอต่อแถวเพียบ นี่พ่อคงต้องเตรียมตัวเลือกลูกเขยใหม่ซะแล้วสิ” “ขอบคุณนะคะพ่อ” ซึ้งใจกับคำพูดของพ่อเหลือเกิน พ่อของเธอดีแบบนี้เสมอ เข้าใจเธอทุกอย่าง “มีอะไรต้องขอบคุณ ลูกเป็นลูกของพ่อนะโรส ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับลูกลูกยังมีพ่อ พ่อคนนี้พร้อมซัพพอร์ตลูกเสมอ” “ตลอดทางหนูเครียดมาก ไม่รู้จะบอกพ่อยังไงดี หนู…” “เอาน่า อย่างน้อยตอนรักกันมันก็ดีไม่ใช่เหรอ ถือว่าออกไปหาประสบการณ์ชีวิต ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป พ่อเคยบอกโรสเสมอนะลูก” “หนูเข้าใจค่ะ หนูแค่คิดว่ากับธิติจะมีคำว่าตลอดไปจนกว่าเราจะตายจากกัน หนูคาดหวังในตัวเขามากเกินไป หนูแค่คิดว่าธิติจะเหมือนพ่อที่ยังคงรักแม่เพียงคนเดียวทั้งที่แม่จากไปหลายปีแล้วพ่อก็ยังรักและมีแค่แม่” “เขาคือเขา พ่อคือพ่อจะเหมือนกันได้ยังไง ปะ ๆ เข้าบ้านกัน” พ่อเอ่ยปากชวนอีกครั้งเมื่อเห็นว่าลูกสาวจะร้องไห้อีกรอบ ชื่อของเธอคือ ‘รสลิน’ เป็นชื่อที่แม่ตั้งให้ แม่ของเธอจากไปนานมากแล้ว แม่นอนหลับไปเฉย ๆ ภาษาชาวบ้านเรียกไหลตาย เป็นการจากไปที่ไม่มีคำบอกลา พ่อของเธอเสียใจมาก จากนั้นพ่อภูมิก็เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวมาตั้งแต่รสลินอายุ 13 ปี เมื่อแม่จากไปพ่อของเธอก็ลาออกจากงานประจำมายึดอาชีพขายข้าวแกงเพราะจะได้มีเวลาให้ลูกสาว อาหารฝีมือพ่อไม่ต่างจากฝีมือแม่ พ่อของเธอทำอาหารอร่อยมาก พ่อร่วมทำร้านกับเพื่อนของพ่อ ร้านพ่อขายดีมาก ๆ ทุกวันนี้พ่อก็ยังคงยึดอาชีพนั้น พ่อบอกว่าพ่อชอบขายเพราะเวลาทำอาหารจะคิดถึงแม่ตลอด เมื่อปีก่อนรสลินควักเงินก้อนมาเปิดร้านข้าวแกงติดแอร์ แต่ราคาข้าวแกงยังคงเท่าเดิม ลูกค้าหนาแน่น ขายดีมากกว่าเดิมหลายเท่า ดีจนพ่อกับเพื่อนของพ่อต้องจ้างคนงานมาช่วย ร้านอาหารของพ่อกลายเป็นร้านชื่อดังที่มีคนมาหนาแน่นทุกวัน ร้านพ่อถูกพูดถึงในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม