งานแต่งงานในระหว่างที่งานแต่งงานยังมิได้ถูกจัดขึ้นนั้น ลู่ชิงฟงได้ลักลอบนัดพบกับเหว่ยฟางอยู่ไม่ขาด โดยมีเสี่ยวหลินเป็นต้นทางให้ทั้งคู่อยู่เสมอ ในตอนนั้นหว่าอิ๋งที่นำผ้าไปขายในตลาดเสร็จแล้ว นางเดินเล่นไปจนถึงศาลาที่ติดกับริมแม่น้ำเล็กๆ ที่ไม่ห่างจากหมู่บ้านนัก ยังไม่อยากกลับบ้านไปในตอนนี้เพราะบรรยากาศของที่นั่นมันทำให้นางคิดถึงแต่หยี่หาน นางเห็นเรือเอี๊ยมจุ๊นที่มีผ้าใบคลุมปิดกันแดดเป็นทรงโค้ง สลักชื่อตระกูลลู่เอาไว้ หน้าต่างของเรือที่มีผ้าม่านสีขาวบางปิดอยู่ถูกลมพัด ทำให้นางมองเห็นชายหญิงสองคนที่จุมพิตกันในนั้น ภาพที่เห็นชั่วพริบตานั้นกับเรือที่โคลงไปมา และสาวใช้ที่นั่งหันหลังให้กับม่านที่เป็นทางเข้าไปในโค้งผ้าใบ ทำให้หว่าอิ๋งขนลุกกับสิ่งที่เกิดขึ้น นึกไม่ถึงว่าเหว่ยฟางที่เกิดในตระกูลผู้ดี จะชอบสัมพันธ์อันโลดโผนบนเรือในตอนกลางวันแสกๆ เช่นนี้ “เขาว่ากันว่าสามวันจาก นารีเป็นอื่น แต่คุณหน