คุณต้องเป็นของผมคนเดียว...

1274 คำ
ตอนที่ 9 “เบนซ์จ๋า..คุณรู้ไหมครับว่า..ชีวิตนี้ผมขาดคุณไม่ได้” ติณภพกระซิบเสียงแหบพร่าในขณะที่ยังคงจูบริมฝีปากอิ่มนั้นอย่างไม่รู้เบื่อ กนกอรจ้องประสานสายตากับดวงตาคมอย่างหวั่นไหว... เขาใช้ความสามารถเรื่องเซ็กซ์และความหล่อหลอกล่อให้เธอตกหลุมพรางจนเกิดสัมพันธ์ที่เลยเถิด แล้วยังคําหวานที่พรํ่าออกมาอีก เขาที่พรมจูบเธออย่างแสนรักทําให้กนกอรอยากจะตอบรับคําเชิญชวนของเขา...เพียงแต่... “คุณติณก็รู้นี่คะ..ว่ามันเป็นไปไม่ได้” “แล้วคณรักเขาหรือเปล่าล่ะ..เบนซ์ คุณอยู่กับเขา คุณมีความสุขมั้ย? ผมเห็นเขาให้คุณทำแต่งาน งก ๆ คุณหนีมาอยู่กับผมเถอะนะ ผมจะเลี้ยงดูคุณเอง รับรองว่าดีกว่าเขาเป็นร้อยเท่าพันเท่า ผมจะไม่ให้คุณต้องทำงานเลย” “เบนซ์ไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกค่ะ เสี่ยกำธรมีพระคุณกับเบนซ์และครอบครัวมาก...” ติณภพถึงกับพูดไม่ออก เขาทำได้เพียงแต่ก้มจูบเพื่อหลบเลี่ยงสายตาของหญิงสาว และพลางกระซิบเสียงแผ่วเบา “เขาเพียงแค่ใช้คุณเป็นเครื่องมือเท่านั้นแหละเบนซ์ ที่ผ่านมาผมรู้นะว่าเขาก็ใช้คุณเป็นเหยื่อล่อกำนันแต้ม เพื่อให้กำนันเซ็นต์ยินยอมสัมปทานโรงโม่หิน” “ค่ะ เบนซ์ไม่เถียง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้บอกให้เบนซ์มานอนกับคุณ แต่เบนซ์เลือกที่จะทำมันเอง” “เพราะอะไรล่ะ เพราะคุณรักผมใช่มั้ย” “เบนซ์ไม่ปฏิเสธนะคะว่าชอบคุณ..แต่อยู่ ๆ จะให้เบนซ์ทิ้งเขามาหาคุณเลย...มันคงไม่ง่ายนัก” “วิธีนั้นขอให้เป็นหน้าที่ผมเอง...ขอเพียงแค่คุณไว้ใจผมก็พอ” “คุณจะทำอะไรเหรอคะ” กนกอรถามขึ้นอย่างสงสัย “ผมรู้มาว่าเสี่ยกำธรสัมปทานโรงโม่หินครั้งก่อนหน้านี้ มันมีนอกมีใน เขาร่วมมือกับกลุ่มนายกอบต. และกำนันแต้มหักหลังชาวบ้าน” ติณภพอธิบายสิ่งที่เขารู้มา และเขาอาจจะต้องดึงเธอมาเป็นพวกเพื่อเล่นงานเสี่ยกำธรอีกที “คุณรู้” กนกอรตกใจที่มีคนล่วงรู้เรื่องนี้ “ใช่ผมรู้” ติณภพบอกความจริงเพียงครึ่งเดียวให้กนกอรได้รับรู้ ...หากอีกครึ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้บอกเธอไปก็คือ...เขามีหลักฐานเอาผิดเสี่ยกำธรและพรรคพวกในการสัมปทานโรงโม่หินครั้งที่แล้ว เพราะในความเป็นจริง เขาคือบริษัทคู่แข่งของเสี่ยกำธรนั่นเอง แต่ครั้งนี้เขารู้ว่าเสี่ยกำธรจะมาซื้อที่ดินแถวนี้เขาเลยมาตัดหน้าซื้อไว้เองก่อน แล้วทำทีเป็นจะยอมขายให้เสี่ยเพราะเขาหลงรักกนกอรตั้งแต่ที่เห็นเธอครั้งแรกในงานเลี้ยงสัมปทานโรงโม่หินครั้งที่แล้ว "แล้วคุณจะเอายังไงต่อไปคะ" "ผมยังบอกคุณตอนนี้ไม่ได้ครับ" "คุณไม่ไว้ใจเบนซ์เหรอคะ" "ผมไว้ใจคุณครับ..แต่ว่าถ้าผมจะให้คุณช่วยอะไรบางอย่าง คุณพร้อมจะทำมันหรือเปล่าครับ" "ถ้าไม่ใช่เรื่องเลวร้าย จนเกินไปเบนซ์ก็ยอมช่วยค่ะ" "ขอบคุณนะ แล้วผมจะบอกคุณอีกที" พรนภากลับถึงบ้านช้ากว่าปรกติเพราะมัวแต่ไปหาซื้อของกินหลังจากที่เลิกงานแล้ว ครั้นเมื่อเห็นพี่สาวยังไม่กลับบ้านก็นึกแปลกใจพลางมองไปยังนาฬิกาที่ฝาผนังก็เกือบห้าทุ่มแล้ว ทําไมพี่สาวยังไม่กลับบ้านอีก? เด็กสาวหยิบโทรศัพท์กดเบอร์โทรศัพท์หาพี่สาวทันที แต่ก็ไร้วี่แววว่าอีกฝ่ายจะรับสาย พรนภาวางข้าวของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะในห้องพลางเดินไปเดินมาราวกับหนูติดจั่น แม้ว่ากนกอรจะบอกล่วงหน้าแล้วว่าจะไปติดต่อเรื่องสัมปทาน แต่ป่านนี้พี่สาวเธอยังไม่กลับ หรือจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกันแน่ และก่อนที่พรนภาจะเครียดมากไปกว่านี้ เสียงจากข้อความในแอพไลน์ของมือถือก็ดังขึ้น 'แบมพี่อาจจะกลับดึกหน่อยนะ ไม่ต้องเป็นห่วง' พรนภาขมวดคิ้วทันทีที่อ่านข้อความจบ หญิงสาวกดโทรศัพท์หาพี่สาวอีกครั้งหากกนกอรก็ยังคงไม่รับสายอยู่ดี คราวนี้พรนภาสังหรณ์ใจว่ามันอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับพี่สาวของตัวเอง หญิงสาวตัดสินใจเดินขึ้นไปหาเสี่ยกำธรที่ห้องชั้นบนแต่ว่าไฟที่ห้องปิดสนิท กำลังจะหันหลังกลับแต่ว่ามีอีกห้องฝั่งตรงกันข้ามมีแสงไฟลอดจากประตูมา ธีธัชชะงักมือจากการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเมื่อได้ยินเสียงเคาะที่หน้าประตูห้องชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ..ใครกันที่จะมาหาเขาในยามวิกาลเช่นนี้ ชายหนุ่มเดินออกมา ก็เห็นว่าใบหน้าหวานๆ ของใครบางคนยืนอยู่ เขาจึงเอ่ยถาม “เออ..มาหาใครเหรอครับ” ธีธัชที่ยังไม่รู้จักกับพรนภาเอ่ยถามขึ้น แต่เขาก็พอจะเดาออกได้ว่าเธอน่าจะเป็นน้องสาวของกนกอรตามที่บิดาเคยเล่าให้ฟัง ธีธัชเพิ่งเรียนจบมหาลัยแล้วต้องการจะเข้ามาช่วยงานของเสี่ยกำธร “เสี่ยกำธรไม่อยู่เหรอคะ” “อ๋อ คุณพ่อออกไปทำธุระครับ...คุณจะเข้ามาคุยข้างในกับผมก่อนมั้ยครับ” ธีธัชยิ้มให้แล้วเชื้อเชิญอย่างเป็นมิตร “อ๋อ ม่ะไม่แล้วค่ะ ขอโทษที่รบกวน” “ผมชื่อธีธัชเป็นลูกชายของคุณกำธร เผื่อคุณอาจยังไม่รู้จักผม” “ผม..ไม่รู้หรอกนะแล้วพ่อผมก็ไม่อยู่ซะด้วย” “ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันต้องขอโทษอีกครั้งที่รบกวน” พรนภาขอโทษเป็นครั้งที่สาม เพราะเธอไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา อาจก็อายตกใจก็ตกใจที่เจอคนแปลกหน้าในบ้านเช่นนี้ แต่ด้วยใบหน้าคมหล่อเหลาของธีธัชทำให้เธอคิดไปในทางที่ดี “อืม..พี่สาวไม่อยู่น้องสาวเลยจะมาทำหน้าที่แทนว่างั้น” “พูดแบบนี้คุณหมายความว่าไง ดิฉันโทรหาพี่เบนซ์แล้ว แต่ว่าเธอไม่รับสาย เห็นบอกว่าจะกลับดึก ๆ เลยคิดว่าคุณพ่อคุณน่าจะรู้เรื่องเลยมาถาม ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ และเมื่อพูดจบเธอก็หันหลังเดินหนีทันทีไม่อยากอยู่ให้เขาดูถูก คนอะไรไร้มารยาทชะมัด “แต่พี่สาวคุณไม่ได้ออกไปกับพ่อผมหรอกนะ” “ค่ะ” เธอตอบเขาเสร็จก็หันหลังกลับทันที ธีธัชรีบเดินตามคนที่เดินหนีเขา “ไม่ใช่ว่าพี่สาวคุณแอบไปคบชู้แล้วมาสวมเขาให้พ่อผมหรอกนะ” เสียงนั้นดังอยู่ข้างหลังเธอห่างเพียงไม่กี่ก้าว จนทำให้เธอตกใจ พรนภารีบเก็บอาการตกใจและเอ่ยตอบด้วยเสียงเรียบ “คงไม่ใช่แน่นอนค่ะ” พรนภาอยากต่อว่าในความคิดของเขา แต่ก็ทำได้แค่คิดในใจเท่านั้น “แล้วถ้างั้น ทำไมเค้าถึงยังไม่กลับล่ะ..แล้วก็ไม่รับโทรศัพท์คุณอีก” ธีธัชพูดให้พรนภาได้คิด จริงสิ! พี่เบนซ์ไลน์มาได้แต่โทรไปไม่รับ พี่เบนซ์กำลังทำอะไรสักอย่างแน่ “ฉันไม่ทราบค่ะ” “เอางี้ละกัน เดี๋ยวผมจะโทรถามคุณพ่อผมให้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม