ตอนที่ 4
หลังจากเรียนจบมัธยมปลายพรนภาก็ได้เข้าไปอยู่บ้านของเสี่ยกำธร และบางวันเธอก็ไปช่วยงานพี่สาวที่ออฟฟิศ เสี่ยกำธรรักและเอ็นดูพรนภาเป็นพิเศษ เพราะเธอเองก็สวยไม่แพ้พี่สาวเลย พนักงานที่นี่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงทำให้กนกอรกลัวเรื่องที่เธอคิดเอาไว้จะเกิดขึ้นมา กนกอรเป็นห่วงน้องสาวจึงขอให้ยายบัวศรีมาอยู่เป็นเพื่อนกับพรนภา ในระหว่างที่เธอต้องออกไปทำธุระข้างนอก และอีกอย่างเธอก็ไม่ไว้ใจเสี่ยกำธรสามีเธอ
“ยายจะนอนก่อนก็ได้นะคะ พี่เบนซ์คงจะกลับดึก ๆ เห็นบอกจะไปดูที่สัมปทานโรงโม่ให้เสี่ยเขาหน่ะ” เด็กสาวเอ่ยกับผู้เป็นยาย ระหว่างที่ช่วยกันล้างจานอยู่
“ยายยังไม่ง่วงหรอก ว่าแต่ช่วงนี้พี่เอ็งมันออกไปข้างนอกคนเดียวเลยหรือวะ”
“ใช่จ้ะยาย พี่เบนซ์ขับรถไปคนเดียวเลย” ถึงกนกอรจะเป็นถึงภรรยาของเจ้าของบริษัทแต่เธอก็ทำงานแทบทุกอย่าง เหมือนกันเลขาฯ คนหนึ่งเลย เธอเป็นทุกอย่างให้กับเสี่ยกำธรเลยก็ว่าได้ และผลงานที่ผ่านมาเธอก็สามารถทำให้ผู้นำหมู่บ้านยอมเซ็นต์ใบเพื่อสัมปทานโรงโม่หินมาแล้ว จึงทำให้เสี่ยกำธรไว้ใจให้เธอทำหน้าที่เจรจาต่อในโครงการใหม่ที่กำลังยื่นเรื่องเจรจาอยู่นี้ และเป็นเหตุผลให้เสี่ยต้องยินยอมให้กนกอรไปทำเรื่องนี้คนเดียว
“อ่าวแล้วเสี่ยกำธรเค้าไม่ได้ไปด้วยหรือวะ”
“ไม่ไปหรอก เห็นพี่เบนซ์ออกไปเองเกือบทุกวันเลยจ้ะยาย”
“มันแปลก ๆ ว่ะ เอ็งว่ามั้ย เสี่ยกำธรไม่น่าปล่อยให้เมียไปทำงานที่ไกล ๆ คนเดียวนะ”
“ไม่รู้สิยาย เสี่ยคงเห็นว่าพี่เบนซ์เป็นหญิงแกร่งมั้งคะ”
“ผู้หญิงยังไงก็เป็นผู้หญิงอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ”
“ถ้ายายเป็นห่วงพี่เบนซ์วันหลังก็ติดรถไปด้วยสิคะ” พรนภราตอบไปล้างจานไป เพราะไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว ก่อนหน้านี้พรนภาก็เคยถามพี่สาวว่าทำไมเสี่ยถึงปล่อยให้ไปทำงานคนเดียว พี่สาวเธอก็ตอบว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทำให้พรนภาไม่กล้าถามต่อ
“จะบ้าเหรอ ก็พี่แกมันให้ยายมาเฝ้าเอง มันคงไม่ให้ยายติดสอยห้อยตามมันหรอก”
“แล้ววันนี้เสี่ยกลับมาหรือยัง ช่วงนี้ยายไม่ค่อยเห็นเสี่ยเลย”
“ยังค่ะ แต่หนูว่าวันนี้พี่เบนซ์ต้องกลับมาก่อนเสี่ยแน่ ๆ ไม่เชื่อคอยดูสิยาย ผู้เป็นหลานสาวยืนยันอย่างมั่นอกมั่นใจ เพราะแอบส่งไลน์ไปถามพี่สาวเอาไว้เมื่อตอนกลางวันแล้ว...
“เอ็งฝากพี่เค้าซื้ออะไรอีกละ” ยายเอ่ยถามเพราะรู้จักหลานสาวคนเล็กดี
“เปล่ายาย แค่ถามว่าพี่เบนซ์อยู่ไหนแล้ว” พรนภาตอบตามความจริง เพราะถึงเธอไม่สั่งพี่สาวก็ต้องซื้อมาให้อยู่แล้ว
“จริงเหรอ”
“จริงสิจ๊ะยาย ยายก็รู้นี่น่า..ว่าพี่เบนซ์ต้องซื้อของโปรดมาฝากหนูอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องฝากซื้อเลย” หลานสาวคนเก่งเสนอความคิดเห็น
“โรตีน่ะ..กินเยอะ ๆ กินดึก ๆ ระวังจะอ้วนเอานะ เดี๋ยวจะหาผัวไม่ได้เอานะ..” ยายตอบและพลางหัวเราะ
“ยายก็พูดไป หนูน้ำหนักแค่ 48 เองนะยาย”
“ก็ไม่รู้สิ กินเยอะมันก็ขึ้นได้นี่หว่า”
เมื่อล้างจานกันเสร็จแล้ว สองยายหลานก็ไปนั่งดูทีวีกัน
เวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษๆ โทรศัพท์ของพรนภาก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล...ค่ะ พี่เบนซ์...” พรนภารับสายอย่างอารมณ์ดีและลุ้นว่าพี่สาวคงจะถามว่าอยากกินอะไรก่อนที่จะกลับเข้าบ้าน
“อ้าว...ทำไมล่ะคะ ...ค่ะๆ” พรนภาเปลี่ยนสีหน้า กลายเป็นจืดสนิทเพราะความผิดหวัง
ยายเห็นแบบนั้นแล้ว ก็เดาไม่ยากว่าหลานตัวดีคงถูกพี่สาวของเธอเบี้ยวอีกแล้วแน่ ๆ
“ยาย พี่เบนซ์จะคุยด้วย” พรนภายื่นโทรศัพท์ให้ผู้เป็นยาย จากนั้นก็หันไปนั่งหน้างออยู่หน้าทีวีคนเดียว
ยายรู้ดี... ที่หลานสาวของเธอไม่กลับมานอนที่บ้าน ก็เพราะมีความจำเป็น
และทุกอย่างที่ทำไปก็เพื่อครอบครัวนั่นเอง เพราะปีนี้เสี่ยต้องการจะสัมปทานพื้นที่เพื่อทำโรงโม่หินให้ได้ตามเป้าที่วางไว้
หลังจากที่ผู้เป็นยายคุยธุระกับหลานสาวเสร็จ ก็เข้าไปปลอบใจหลานสาวคนเล็ก
ที่นั่งหน้างอแบบนี้ก็คงเพราะงอนพี่สาวของเธอตามระเบียบ เนื่องจากอดกินของอร่อยที่พี่สาวจะต้องซื้อมาฝากตัวเองทุกครั้ง