ถูกตาต้องใจ

666 คำ
สายตาสีอำพันหรี่มองคนที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของตัวเองเงียบๆ นิ้วแกร่งเคาะลงบนโต๊ะทำงานเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กวาดสายตามองหญิงสาวที่เข้ามายืนตรงหน้าอย่างละเอียดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เรียวปากหยักยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เมื่อสายตาสะดุดอยู่ที่หน้าอกอวบใหญ่ดันเสื้อยืดที่หญิงสาวสวมใส่ออกมาชัดเจน ไล่สายตาต่ำลงมายังหน้าท้องแบนราบและสะโพกผายที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงยีนรัดรูปก็พึงพอใจ สรีระของหญิงสาวตรงหน้าจัดว่าดีพอใจ แม้ไม่ได้สูงโปร่งสักเท่าไหร่ แต่ความสูงก็น่าจะไม่ต่ำกว่าร้อยหกสิบเซนติเมตรอย่างแน่นอน “เดียร์ ยกมือไหว้เสี่ยสิ” ขจีกระซิบบอกลูกสาวที่ยืนก้มหน้าเพื่อซ่อนความประหม่าในแววตาไว้ หญิงสาวจึงรีบกมือไหว้พร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบสายตาคมสีอำพันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทว่าสบได้เพียงครู่ก็ต้องรีบหลุบสายตาต่ำลงเช่นเดิม เมื่อสายตาคู่นั้นมีอิทธิพลต่อตัวเธอเสียเหลือเกิน มันทั้งดุดัน เร่าร้อน และน่าเกรงขามอย่างไรไม่รู้ จนเธอเกิดความรู้สึกประหม่าเเละกลัวในเวลาเดียวกัน “ลูกสาวเจ๊เป็นใบ้เหรอ ถึงเอาแต่ยีนเงียบไม่พูดไม่จา” ครั้งนี้คนถูกกล่าวหาว่าเป็นใบ เงยหน้าขึ้นสบสายตาคมอีกครั้ง และยังเผลอเม้มปากแน่นมองเสี่ยเสือผู้มีอิทธิพลอย่างไม่พอใจเสียด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นแววเยาะเย้นขบขันส่งผ่านมาทางสายตาก็เผลอแสดงท่าทางไม่พอใจส่งผ่านไปทางสายตา “ไม่ใช่จ๊ะ เดียร์มันพูดได้ ไม่ได้เป็นใบ้หรอก” “ก็ดี เพราะผมคงอึดอัดแย่ ถ้าต้องอยู่กับคนใบ้...ชื่อเดียร์เหรอเรา” เอ่ยถามออกมา นาเดียร์จึงจำใจต้องพยักหน้ารับและตอบกลับไปเบาๆ “ค่ะ ชื่อนาเดียร์ หรือจะเรียกว่าเดียร์ก็ได้ค่ะ” “เดียร์ ที่แปลว่า….ที่รัก….อะเหรอ” คนถูกถามหน้าแดงซ่าน แค่คำพูดแสนธรรมดาทำไมเธอต้องเขินอายขึ้นมา ใบหน้าก็ยังร้อนผ่าวราวกับยืนกลางแดดอย่างไรอย่างนั้น หัวใจเจ้ากรรมก็เต้นระส่ำบ้าคลั่งอย่างไม่มีสาเหตุ บ้าเกินไปหรือเปล่าเดียร์ เขาแค่ถาม เขาไม่ได้เรียกแกว่าที่รักสักหน่อย “จะหมายถึงอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” “เหรอ หึ!” เสี่ยเสือพึงใจกับความพยศของคนตรงหน้าที่มีให้เห็น “เสี่ยคะ แล้วเรื่องหนี้สินของเราถือว่าหมดสิ้นใช่ไหมคะ” “ใจเย็นสิเจ๊ ผมยังไม่ได้ตรวจเช็คของเลยว่าสภาพเป็นยังไง เกิดเจ๊เอาของไม่ดีมาย้อมแมวขาย ผมไม่ตายเหรอหนี้ไม่รู้กี่ล้าน” นาเดียร์เงยหน้าขึ้น แสดงความถือดีออกมาอย่างห้ามไม่ไหว นี่เขากล่าวหาว่าเธอคือของไม่ดีได้อย่างไร คนบ้า! พูดจาไม่ให้เกียติกันบ้างเลย ส่วนเสือก็ยิ้มมุมปากออกมา เมื่อเห็นความไม่พอใจแกมอวดดีของสินค้าตรงหน้า กล้าดียังไงมาแสดงกิริยาอวดดีแบบนี้ใส่เขา ทั้งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์แสดงอะไรออกมาทั้งนั้น ในเมื่อครอบครัวของเธอเป็นคนมาเสนอเขาเอง ไม่ใช่เขาที่เรียกร้องสักหน่อย “เดียร์คือของมีคุณภาพ ไม่ใช่สินค้าย้อมแมวค่ะ” เสียงหวานเปล่งวาจาออกมาหนักแน่น กล้าก้าวผ่านความกลัวสบสายตากับคนตรงหน้าที่กล้าดูถูกเธอ แม้รู้ดีว่าสถานะเเละความจำเป็นของตัวเองในเวลานี้ ไม่มีสิทธิ์แสดงความก้าวร้าวหรือไม่พอใจออกไปก็ตาม ทว่าเมื่ออีกคนดูถูกซึ่งๆ หน้าก็ย่อมทนไม่ได้ “แล้วฉันจะพิสูจน์เอง ว่ามันดีจริงหรือแค่คำคุยเท่านั้น” เสี่ยขา อยาก ให้เสี่ยพิสูจน์เร็วๆๆ จังเลยค่ะ ว่าดีจริงหรือเปล่า ไรท์นี่เช็ดน้ำลายรอเลยจ้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม