ฉันนี่ล่ะ นางร้ายตัวจริง

ตรวจสอบเครื่องสอดแนม

ตระกูลลู่

ลู่เสียนเดินเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าร้อนรน แล้วรีบเดินตรงไปยังห้องรับแขกทันที เพราะบิดามารดาโทรศัพท์ให้เขาเข้ามาพบที่บ้านด่วนในวันนี้ ลางสังหรณ์ของลู่เสียนบอกว่าจะต้องเกี่ยวกับเรื่องของเฉินลี่มี่อย่างแน่นอน

“อ้าวมาแล้วหรือเจ้าลูกชายตัวดี เห้อ!!หาคู่หมั้นดีๆไว้ให้ก็ไม่ชอบ พ่อล่ะอยากรู้จริงๆว่าผู้หญิงแบบไหนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้” ลู่คงเอ่ยปากทักทายปนแขวะ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเองทันที่ที่เจอหน้า

“มีเรื่องสำคัญอะไรหรือครับ ถึงได้โทรตามผมด่วนขนาดนี้” ลู่เสียนถามพ่อแม่ของตนเองออกไปทันทีด้วยความร้อนใจ

“ก็ไม่ด่วนเท่าไหร่หรอก ต้องเรียกว่าข่าวดีของแกมากกว่าเจ้าลูกชาย” ลู่คงตอบลูกชายออกไป ใจก็นึกโมโหลูกชายอยู่มาก

“ข่าวดีอะไรครับคุณพ่อ”

“ก็วันนี้บ้านตระกูลเฉิน เขามาถอนหมั้นตามความต้องการของแกแล้วน่ะสิ พ่อกับแม่ก็ลงนามยินยอมไปแล้วเรียบร้อย สบายใจแล้วล่ะสิคราวนี้ ว่าแต่เมื่อไหร่แกจะพาแฟนมาแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักสักที”

ลู่คงอธิบายให้ลูกชายฟังด้วยตนเอง เพราะภรรยากำลังโมโหลูกชายหนักกว่าเขาเสียอีก ทั้งยังเอ่ยถามไปถึงแฟนสาวที่เป็นนางเอกละครของลูกชายอีกด้วย

“ถอนหมั้นไปแล้วหรือครับ ทำไมพ่อกับแม่ไม่บอกผมก่อน ตัดสินใจกันเองเหมือนตอนหมั้นเลยนะครับ ส่วนเรื่องแฟนผมยังไม่มีแฟนจะพามาแนะนำได้อย่างไร”

ลู่เสียนกล่าวตัดพ้อบิดามารดาเสียยกใหญ่ และยังปฏิเสธเรื่องที่ตนเองมีแฟน เพราะตัวเขาเองยังไม่มีแฟนจริงๆ มีแต่อดีตคู่หมั้นที่พึ่งถอนหมั้นกันไปเพียงเท่านั้น

“แล้วแม่นางเอกไป๋ฮวานั่นล่ะ ไม่ใช่แฟนกันแต่ไปจูบกันดูดดื่มในห้องพักส่วนตัวยามวิกาล เรียกว่าอะไร คู่นอน หรือคู่ขา”

ลู่อิงเถาที่เงียบมานาน ก็เอ่ยปากสอบถามลูกชายตัวดีทันที เพราะความโกรธปนหมั่นไส้ ที่ได้ยินคำว่าไม่มีแฟนออกมาจากปากลูกชาย

“ใครเป็นคนบอกแม่ครับ ว่าผมจูบกับไป๋ฮวาในห้องพัก” ลู่เสียนถามออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน เพราะตนเองได้ทำแบบนั้นลงไปจริงๆ

“หึหึ ก็คนที่เขาเอ่ยปากถอนหมั้นแกนั่นล่ะ หนูลี่มี่เข้าไปเห็นเองกับตา ทั้งยังยืนดูอยู่ตั้งนาน พวกแกก็ไม่รู้สึกตัวกันรึไง ว่ามีคนมองดูอยู่ คงจะอยู่ในอารมณ์มัวเมาเต็มที่ล่ะสิ” ลู่อิงฮวา เอ่ยตอบลูกชายออกไปอย่างนึกหมั่นไส้เต็มทีแล้ว

“ลี่มี่เข้าไปเห็นหรือครับ”

ลู่เสียนเอ่ยถามมารดา ออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะตอนนี้เขาหมดแรงจะพูดแล้วจริงๆ และเวลานี้ลู่เสียนก็เข้าใจทุกคำพูดของอดีตคู่หมั้นแล้ว ที่เธอกล่าวว่าเขาสกปรก และบอกว่ารังเกียจ

“ก็ใช่น่ะสิ แล้วเมื่อไหร่จะพาแม่นางเอกมาแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จัก ถ้ารักชอบกันจริงพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร ส่วนเรื่องถอนหมั้นในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ได้รักกัน ก็ถอนหมั้นกันไปก็ดีแล้ว ต่างฝ่ายต่างจะได้ไปเจอคนที่ตนเองรักเสียที ไม่ต้องมาทรมานหมั้นหมายกันอยู่”

ลู่อิงฮวาที่ทำใจได้บ้างแล้วก็เอ่ยปากพูดคุยกับลูกชายอย่างมีสติ เพราะความผิดส่วนหนึ่ง ก็มาจากตัวเธอและสามี ที่บังคับหมั้นหมายเฉินลี่มี่ให้กับลู่เสียน ทั้งๆที่ลูกชายไม่ได้ต้องการ และพยายามขอถอนหมั้นอยู่ตลอดเวลา

ลู่อิงฮวาก็ได้ถามไปถึงคนรักของลูกชาย อย่างพยายามทำใจยอมรับคนที่ลูกชายของตนเองรักใคร่ชอบพอ เพราะนับจากนี้ต่อไปตัวเธอ และสามีจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องความรักของลูกชายอีก

“ผมกับไป๋ฮวาไม่ได้มีอะไรกัน เรื่องวันนั้นเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ พึ่งนึกได้ว่ามีธุระด่วน”

ลู่เสียนรีบปฏิเสธบิดามารดาทันที และรีบขอตัวกลับคอนโดของตัวเอง เพราะไม่มีแรงพูดอะไรต่อแล้ว จิตใจของชายหนุ่มตอนนี้บีบรัดกันอย่างหนัก ความรู้สึกวูบโหวงเหมือนกำลังสูญเสียของรัก เข้าจู่โจมจิตใจของเขาอย่างกะทันหัน ความเสียใจ ความรู้สึกผิด ตอนนี้ได้ผสมรวมกันกลายเป็นความหนักอึ้งในหัวใจ จนนึกอยากออกไปดื่มแอลกอฮอล์เพื่อคลายความรู้สึกเหล่านี้

“หย่งหาน ออกไปดื่มกันคืนนี้ที่คลับของโจวเฟย” ลู่เสียนต่อสายโทรศัพท์ หาเพื่อนสนิทของตนเองทันที เพื่อนัดหมายกันไปดื่มที่คลับของเพื่อนสนิทอีกคน

“โอ้ คุณชายลู่อยากเมาหรือครับวันนี้ ตกลงเจอกันคืนนี้เพื่อน” หย่งหานตอบรับทันที เพราะไม่ได้เจอหน้าเพื่อนสนิทอย่างลู่เสียนมาสักพักแล้ว

.

.

.

คลับของโจวเฟย

ชายหนุ่มทั้งสามนั่งดื่มเพื่อคลายเครียดกัน บนห้องวีไอพีของเจ้าของคลับ ข้างกายชายหนุ่มทั้งสาม ต่างมีหญิงสาวแต่งกายเซ็กซี่มาช่วยบริการชงเครื่องดื่ม และบริการอื่นๆตามที่ชายหนุ่มทั้งสามต้องการ

“อะไรนะ เฉินลี่มี่ถอนหมั้นกับแกแล้ว ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง แล้วแกมานั่งซึมเศร้าเหมือนคนอกหักอยู่แบบนี้ทำไมกัน”

หย่งหาน เอ่ยปากถามลู่เสียนเพื่อนสนิทของตนเองทันที ที่เห็นอาการซึมเศร้าเหมือนคนถูกแฟนทิ้ง ทั้งๆที่ออกมาดื่มฉลองการถอนหมั้น ท่ามกลางสาวสวยเซ็กซี่แท้ๆ

“หย่งหานแกก็อย่าไปถามลู่เสียนมันมาก ดื่มๆไปเถอะ” โจวเฟยที่พอจะมองอาการของลู่เสียนออก ก็กล่าวห้ามปรามหย่งหานทันที

ลู่เสียนดื่มจนรู้สึกมึนเมามากแล้ว จึงขอตัวออกไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางไปห้องน้ำชายหนุ่มก็พยายามเดินให้ตรงที่สุด เพราะออกมาใช้ห้องน้ำตรงชั้นล่าง เนื่องจากอยากออกไปเดินสูดอากาศด้านนอกด้วย เพราะวันนี้เขารู้สึกเมามากกว่าทุกครั้งที่เคยมาดื่ม จึงมองเห็นใครก็เป็นเฉินลี่มี่ไปเสียหมด

“อุ๊ย ลู่เสียนมาดื่มกับเพื่อนหรือคะ ใจตรงกันเลย วันนี้ฉันก็นึกอยากดื่มเหมือนกัน แต่นี่ก็จะกลับแล้ว คุณไปส่งฉันหน่อยได้ไหมคะ ฉันรู้สึกมึนๆ”

ไป๋ฮวารีบไปเกาะแขนลู่เสียน และรีบพูดออดอ้อนล่อลวงชายหนุ่มทันที เพราะวันนี้หญิงสาวต้องการจัดการลู่เสียนให้เป็นของเธอให้ได้!!!

ลู่เสียนที่มึนเมามากแล้ว และมองเห็นใครก็เป็นเฉินลี่มี่ ก็ยอมเดินตามไป๋ฮวาไปขึ้นรถของหญิงสาวทันที ไป๋ฮวาก็ไม่รอช้ารีบขับรถออกไปยังคอนโดส่วนตัวของตนเองทันที วันนี้ไป๋ฮวาออกมากับเพื่อนสนิทก็จริง แต่ก็หนีออกมากับชายหนุ่มทันทีที่เจอเป้าหมาย

พอถึงห้องพัก ไป๋ฮวาก็วางกระเป๋าถือใบโปรดของตนเอง ไว้ที่โต๊ะข้างเตียงทันที หลังจากนั้นบทเพลงแห่งความรักระหว่างชายหญิงก็บรรเลงไปจนล่วงเข้าสู่วันใหม่ของวัน

ตลอดเวลาที่บรรเลงเพลงรัก ลู่เสียนส่งเสียงครางเรียกชื่อเฉินลี่มี่ออกมาตลอดเวลา เพราะคิดว่าหญิงสาวที่เขาร่วมรักอยู่นั้น คืออดีตคู่หมั้นของตน!!

ส่วนไป๋ฮวาก็ได้แต่พยายามกดข่มความโกรธ ที่กลายเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ตนเองไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้พูดแย้งอะไรออกมาเลย กลับรับสมยอมเป็นเฉินลี่มี่ทั้งคืน เพราะต้องการผูกมัดลู่เสียนให้ดิ้นหนีไม่หลุด ให้ยอมตกลงคบหากับเธอสักทีนั่นเอง

ตลอดเหตุการณ์บรรเลงเพลงรักของชายหญิงในคืนนี้ อุปกรณ์สอดแนมตัวจิ๋ว ก็ได้ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม คมชัด ทั้งภาพและเสียง จนเจ้าของอุปกรณ์ถึงกับทนดูไม่ไหวกันเลยทีเดียว