"เหมียว"
เหมียวมองหน้าของวศิน เขาเองก็จ้องเธอเช่นกัน หญิงสาวไม่รู้เขาจะมาไม้ไหน ถึงชวนเธอนอนด้วย แต่ก็ช่างเถอะ เธอไม่ใจอ่อนหรอกเขาสร่างเมา เขาก็เป็นวศินปากหมาเหมือนเดิม
"นอนเป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม? ศินไม่ทำอะไรหรอก"
"เหมียวว่าเหมียวกลับดีกว่า แม่แคทคงรอเหมียวแล้ว"
"ถ้างั้นอยู่ต่ออีกนิดได้ไหม?"
"มันดึกมากแล้วนะวศิน" เหมียวเอ่ย วันนี้เขาเป็นอะไรถึงอยากให้เธออยู่ด้วย เขาทำราวกับเธอเป็นคนสำคัญทั้งๆที่จริงมันไม่ใช่
"งั้น! กลับไปเถอะ"
"พรุ่งนี้เหมียวจะมาหาใหม่"
"อืม"
วศินนอนหันหลังให้เธอ หญิงสาวลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินออกมาจากห้อง เธอเดินมาหยุดตรงหน้าลิฟท์
"ตายแล้วลืมเอาเสื้อผ้าออกมาด้วย"
เธอบ่นอุบอิบ ถ้ากลับบ้านชุดนี้แม่ต้องถามว่าทำไมถึงอยู่ในชุดนี้ ชุดที่ใส่ออกไปอยู่ไหน ต้องโดนซักประวัติยาวแน่ๆ ถ้าที่ดีเอากลับด้วยดีกว่า ถ้าแม่ถามเอาเสื้ออ้วกให้ดูเลยดีกว่า เธอเดินกลับมาที่หน้าห้องของวศิน จากนั้นก็แต่คีย์การ์ดเข้าไป เธอเดินเข้ามาจนถึงห้องนอนของเขา ภาพตรงหน้าคือเขาเอาคัตเตอร์ออกมาจากลิ้นชัก
"นายทำบ้าอะไร?" เหมียวรีบเข้าไปแย่งคัตเตอร์ออกจากมือของเขา จากนั้นก็โยนทิ้งไป
"เปล่า''
"เปล่าอะไรในเมื่อเห็นอยู่ว่านายเอาคัตเตอร์ออกมา นายจะกรีดคอกรีดข้อมือตัวเองใช่ไหม"
"ไม่ได้กรีด แค่เอาขึ้นมารูดเล่นเฉยๆ มันเครียดๆเลยหาอะไรทำ" เขาแค่จะเอารูดเล่นกรีดสมุดเล่นคลายเครียดเท่านั้น ไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายแม้แต่น้อย
"ท่าจะบ้า ทั้งเมาทั้งเครียดใครเขาบ้าเอาคัตเตอร์มารูดเล่น"
"ช่างเถอะ แล้วกลับมาทำไม รีบกลับสิมันดึกมากแล้ว"
"กะว่าจะมาเอาเสื้อผ้าแล้วกลับ แต่ตอนนี้เหมียวไม่ไว้ใจ กลัวนายคิดสั้น"
"งั้นมานอนคุยเป็นเพื่อนหน่อย"
"บ้าบอ มาชวนนอนคุยกัน พิลึก"
"ก็แค่นอนคุย ไม่ทำอะไรหรอก ศินเป็นสุภาพบุรุษพอนะ เธอไม่ต้องกลัวหรอก"
"ก็ได้"
เหมียวขึ้นไปนอนข้างๆชายหนุ่ม เขาบรรยายความทุกข์ในหัวใจของเขาให้เธอฟังซะยืดยาว เขาทุกข์เหมือนกับตอนที่เธอทุกข์ ความรู้สึกเดียวกันเลย เขาเจ็บปวดไม่น้อยกว่าเธอเหมือนกัน และคนที่จะเข้าใจความรู้สึกของกันและกัน คือคนที่มีความรู้สึกเดียวกัน เธอเคยเจ็บเพราะเขา เขาต้องมาเจ็บเพราะเปลว
เหมือนกงกรรมกงเกวียนเลย เขาเจ็บไม่ต่างจากเธอ
"เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
"อืม"
"ฝันดีนะ" เหมียวเอ่ยกับเขา
"ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อน"
"ขอแค่นายไม่เกลียดเหมียว พูดดีๆกับเหมียว เหมียวก็ดีใจมากที่สุดแล้ว"
"อืม ต่อไปนี้จะเลิกปากหมาใส่ ที่จริงก็ไม่ได้เกลียดหรอก แค่ปากไม่ดีแค่นั้นเอง เพราะศินรักเปลว เลยไม่ชอบให้ใครมาจีบหรือมาชอบ ต่อไปนี้จะเลิกพูดไม่ดีใส่"
"สัญญานะ"
เหมียวชูนิ้วก้อยขึ้นพร้อมกับฉีกยิ้มให้ อยากให้เขาเป็นแบบนี้ตลอดไปจัง
"สัญญา"
^_^
วศินใช้นิ้วเกี่ยวก้อยกับเธอ จากนั้นก็ดึงเข้าไปกอด ใจดวงน้อยมันเต้นระรัว ราวจะทะลุออกมานอกอก
เธอรักเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยไม่ขัดขืนอะไรทั้งนั้น ดีใจที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของเขา อยากจะหยุดเวลาเอาไว้อย่างนี้ตลอดไป
"รักศินใช่ไหม?"
"รักสิรักมาตลอด"
เธอเอาหัววางบนแขน มันเหมือนกับความฝันเลย แต่มันคือความจริง ไม่อยากจะเชื่อเลย
"งั้นศินขอแล้วกัน"
"..." ผู้ชายเวลาเมา จะเป็นแบบนี้ตลอดหรือเปล่า ถ้าสร่างเมาเขาจะปากร้ายเหมือนเดิมไหม เหมียวจ้องชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมกับครุ่นคิดไปด้วย
"วศินพลิกขึ้นมาคร่อมเธอ เขาจ้องใบหน้าสวยหวานอยู่สักพักจากนั้นเขาก็ก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา เขาสอดลิ้นเข้ามาในปากของเธอ เรียวลิ้นพันลิ้นเล็กของเธอไปมา เธอจูบตอบเขาอย่างเต็มใจ
หญิงสาวรักเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถึงจะพยายามห้ามใจตัวเองเอาไว้ แต่พอเขาพูดดีๆด้วย ใจของเธอมันอ่อนระทวยลงทันที
"อืม"
วศินครางในลำคอออกมาเบาๆ อย่างพึงพอใจ เธอเคลิ้บเคลิ้มไปกับรสจูบ ที่เขาปรนเปรอให้ เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับรสจูบของเขา
"อื้อ"
เขาใช้มือบีบที่อกอวบของเธออย่างถือวิสาสะก่อนจะเลื่อนไปแกะกระดุมเสื้อของหญิงสาวออกจนเผยให้เห็นยอดปทุมถันสีหวานไร้อาภรณ์ปกปิด เธอไม่ได้ใส่ชั้นในพอแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออก อกอวบสล้างก็อวดความงามต่อสายตาของชายหนุ่ม
"สวย" เขาว่าแล้วก้มงับลงมาที่ยอดถันสีชมพูระเรื่อ เพียงแค่ปลายลิ้นสากตวัดดูดดุนหญิงสาวก็แอ่นอกรับสัมผัสแสนวาบหวามของเขาทันที
"อื้อ วศิน อ้ะ อ๊า"
เหมียวครางออกมาเบาๆ พร้อมกับกำผมของเขาเอาไว้แน่นเพื่อบรรเทาความเสียว
"ซี๊ด!!"
วศินเพิ่มแรงดูดพร้อมกับตวัดลิ้นสากไปมา เขาขบกัดเบาๆ เธอรู้สึกร้อนวูบวาบในช่องท้องทุกครั้งที่เขาดูดเลีย
"อ้ะ อ๊า!
วศินจูบซุกไซร้ลงมาจนถึงเนินเนื้อสามเหลี่ยม เขายกขาเธอเป็นตัวเอ็ม ก่อนจะก้มหน้าลงพร้อมกับตวัดลิ้นเลียไปที่ร่องสวาท เหมียวใช้มือกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น เมื่อความเสียวจู่โจมเธอรุนแรงอีกครั้ง
"ซี๊ด วศิน อ๊า"
หญิงสาวครวญครางออกมาทุกครั้งที่เขาตวัดลิ้นเลียสลับดูดดุนจนเกิดเสียงดัง ในท้องของเธอ ราวกับมีผีเสื้อนับล้านตัวบินอยู่ เธอเสียวจนต้องร่อนสะโพก
"อ๊า วศิน เหมียวเสียว อ่า"