คำตอบของเธอไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจแต่ก็ยังเจ็บที่ถูกปฏิเสธอยู่ดี ใบหน้าสวยหันไปทางอื่นพร้อมกับค่อยๆห่างเขาไปเรื่อยๆกว่าจะได้สติก็ได้ยินเสียงประตูห้องดังขึ้นและเป็นเขาคนเดียวที่อยู่ในห้องทำงานนี้
น้ำตาไหลมาได้ไงวะ?
“กูแพ้อีกแล้วเหรอ?” ไม่ว่าจะรักใครก็เจอแต่ความผิดหวังเสมอไม่รู้ว่าเพราะเขามันใจง่ายรักใครเร็วเลยเป็นแบบนี้รึเปล่า
เปลือกตาปิดลงพยายามไม่ให้มีน้ำตาไหลออกมาก่อนจะพ่นลมหายใจแล้วลืมตามองอีกครั้ง สองเท้าก้าวเดินตามคนใจร้ายออกไปแต่พบเพียงความว่างเปล่าคิดว่าคงจะกลับไปแล้ว ไม่มีแล้วข้าวเย็นในวันนี้คงจะมีแค่เหล้าที่ล้างคอแทน
เวลาสองทุ่มกว่าๆนายนั่งดื่มกับเพื่อนสนิทที่บ้านไม่พูดอะไรมากมายออกไปแต่เพื่อนคงจะรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะตัวที่นอนลงบนโซฟามือยังถือแก้วเหล้าตาพริ้มยิ้มทั้งที่รู้สึกเสียใจมาก
ไม่น่าเลย…ไม่น่าใจร้อนบอกรักเร็วเลย
คนไม่รักกันไม่ว่าจะทำยังไงก็คงไม่รักหรอก
“ทำไมวะไอ้อิฐ กูมันเหี้ยมากเลยใช่ป่ะน้องเขาถึงไม่รักกู” พูดแล้วอยากจะร้องแต่มันอายเพื่อนเกินกว่าน้ำตาจะไหลออกมา
“ใครทำมึงเป็นได้ขนาดนี้วะ?” ไม่เห็นมันเล่าให้ฟังเลยว่ากำลังคบกับใครอยู่แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเพื่อนถึงมีสภาพแบบนี้ ใครมันทำเพื่อนกูอกหักอีกเนี่ยเจอหน้าจะตบให้หัวทิ่มเลย!
“กูมันใจง่ายไปใช่ป่ะ?”
“ไม่เว้ยไอ้นายความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอก”
“กูแม่งไม่น่ารักใครเลยวะ เจ็บเหี้ยๆแต่แม่งโคตรคิดถึง”
“ตัดใจเถอะมึง ไอ้นายมึงมีกูอยู่นะเว้ยเมียไม่จำเป็นหรอก”
“ก็กูรักเขานี่หว่า แม่งเจ็บฉิบหายแล้วกูจะมองหน้าเขายังไงวะต้องเจอกันทุกวันด้วย”
“เฮ้อ…หนักใจแทนวะ!” ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครแต่มั่นใจว่าต้องเป็นคนใกล้ตัวแน่ ไอ้นายมันไม่ใช่คนจะมีความลับกับเพื่อนมาตั้งแต่เรียนแล้วการที่มันไม่บอกเนี่ยรู้เลยว่าไม่อยากให้เขามองผู้หญิงคนนั้นในทางที่ไม่ดี
“เอ้า! หลับเฉย” ดีเนอะเพ้อแล้วก็หลับมือยังจับแก้วเหล้าอยู่เลยแต่ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้วขอดูหน่อยเถอะว่าใครมันทำเพื่อนเขาอกหักซะยับเยิน
ขออนุญาตเสือกหน่อยนะครับเพื่อน!
เขาใช้นิ้วเพื่อนสแกนปลดล็อกโทรศัพท์ก่อนจะเข้าดูรูปภาพซึ่งก็ไม่ค่อยมีอะไรจนมากเจอกับอัลบั้ม ‘คนน่ารักของนาย’ ชื่อก็บอกชัดแล้วมีเหรอจะรอกดเข้าไปดูเลยสิ
“เชี้ย!! น้องเพลง” คนใกล้ตัวมากเลยแต่ว่ามันไปแอบคุยตอนไหนวะ เขาไม่ใช่คนขี้เสือกมากหรอกดังนั้นวางโทรศัพท์คืนให้แล้วพรุ่งนี้ค่อยถามมันดูก็ได้
“แล้วเมียกูรู้เรื่องยังเนี่ย!?”
“เดี๋ยวนี้หัดซุ่มเงียบนะมึงไอ้นาย!” มันน่าจะปรึกษาเขาหน่อยจะได้เตือนให้ว่าน้องเพลงไม่เอาใครทั้งนั้นมันไม่ใช่คนแรกนะที่ถูกปฏิเสธจนอกหักยับเยินขนาดนี้
อรยืนที่ระเบียงห้องดื่มไวน์กับเพื่อนรักที่แวะมาหาโดยไม่โทรบอกล่วงหน้าแถมยังขอนอนด้วยอีก เพลงยืนเหม่อลอยมองอย่างไร้จุดหมายดื่มไวน์ที่เธอส่งให้โดยไม่พูดอะไรสักคำ
“เป็นไรรึเปล่าเพลง?” ได้ข่าวว่าจะไปทำงานเป็นเลขานี่แล้วทำไมถึงดูเหม่อขนาดนี้ละเจ้านายดุเหรอ
“เจ้านายกูคือเพื่อนผัวมึง” อรพอจะรู้อยู่บ้างเรื่องที่เฮียนายคุยกับเธอผ่านไลน์ เธอไม่เคยเล่าอะไรมากกว่านั้นแต่ตอนนี้มันอึดอัดมากไม่รู้ว่าจะสู้หน้ายังไงดี
“แล้วไง?”
“เฮียนายขอคบกู”
“กรี๊ด…จริงดิมึง…”
“กูปฏิเสธไปแล้ว กูไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้นนะ” แต่ถึงอย่างนั้นรสจูบยังติดปากอยู่เลยไม่ว่าจะดื่มไวน์ไปกี่แก้วก็ไม่สามารถลบล้างได้
“เฮียนายเป็นคนดีนะมึง”
“กูรู้ เฮียนายเป็นคนดีมากจนกูไม่คู่ควรเลย”
“เพลงมันคือความรักนะ มันไม่มีเหตุผลหรอกว่าจะคู่ควรรึเปล่ามึงไม่ลองให้โอกาสเฮียนายบ้างเหรอ?” ด้วยฐานะ นิสัยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเพลงกับเฮียนายอาจจะต่างกันบ้างเล็กน้อยแต่มันคือความรักที่ไม่ควรเอาอะไรมากั้นนะ
เมื่อก่อนเฮียนายเจ้าชู้แบดบอยตัวพ่อส่วนเพื่อนเธอก็รักอิสระเกินกว่าจะคบกับใครแต่ถ้ารักกันก็น่าจะปรับจูนกันได้นี่ เอาจริงๆนะเป็นห่วงเพื่อนมากกว่าใครเพราะไม่เคยมีความรักเลยไงส่วนเฮียนายอันนี้ไม่รู้เหมือนกัน
“ไปนอนเหอะมึงคืนนี้กูให้กอดเลย”
“อืม หมดแก้วนี้จะตามไป”
วันต่อมานายเดินเข้ามาในออฟฟิศช่วงสายยังมีอาการเมาค้างอยู่บ้างแต่สิ่งแรกที่มองหาไม่ใช่พนักงานทั่วไปแต่เป็นโต๊ะเลขาหน้าห้องต่างหากละ ไม่มีใครมาเลยแต่จะถามก็ขี้เกียจอีกมันง่วงมากปวดหัวด้วย
กำลังจะตัดใจแล้วแต่ได้ยินเสียงหวานทักทายก็ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย...บ้ามาก!
“สวัสดีค่ะบอส”
“นึกว่าไม่มาซะแล้ว”
“รับปากแล้วว่าจะทำงานก็ต้องมาสิคะ รับกาแฟสักแก้วไหมคะ?”
“ก็ดี งานอะไรด่วนส่งมาเลยนะบ่ายนี้มีธุระ”
“ค่ะบอส”
“เรียกเฮียนายเหมือนเดิมไม่ได้เหรอเพลง เฮียรอในห้องนะ”
“ค่ะ เฮียนาย”
นายเดินเข้าห้องรีบจับผมให้เข้าทรงใหม่ก่อนจะเช็คหน้าตาตัวเองใหม่อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ส่ายหัวแรงๆสองสามครั้งพยายามไล่ความมึนแล้วยืนกอดอกหันหลังเมื่อประตูเปิดเข้ามาเก๊กขรึมทั้งที่ใจเต้นรัว
เชี้ย!! เจ็บไม่จำหัวใจแม่งไม่รักดี
“กาแฟค่ะ” พอยืนนิ่งแบบนี้ดูน่ากลัวมากเลยยิ่งภายในห้องนี้มีแค่เราทำให้อยากจะหนีไปไกลๆ
“เมื่อวานกลับยังไงไหนว่าจะกินข้าวเย็นด้วยกัน” เอาอีกแล้วไอ้หัวใจไม่รักดีโดนปฏิเสธจนน้ำตาไหลยังไม่จำเสือกมาใจสั่นเพียงแค่เห็นหน้าแล้วมันอยากจะกอดจะหอมอีกแล้ว
“คือ…นี่งานค่ะ” มันอึดอัดมากเลยตอนนี้อยากจะออกไปแล้วเซ็นใบลาออกซะ
“นั่งก่อนสิ กินข้าวเช้ามายังเที่ยงนี้ว่างไหม?” ก็ยังจะตื้ออีกรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เอา
“เรียบร้อยแล้วค่ะ เที่ยงนี้เพลงนัดอรไว้” เพื่อนอยู่ใกล้พอดีเลยจะแวะมากินข้าวเที่ยงด้วยกันแต่ไม่มั่นใจว่าเอาแฟนมาด้วยรึเปล่า ทำไมถึงทำตัวไม่ถูกแบบนี้นะแย่จัง
“เฮียไปด้วยสิ กินข้าวคนเดียวมันเหงา”
“แต่ว่าเฮียนายจะไปธุระไม่ใช่เหรอ?”
“ช่างมัน! เที่ยงนี้เฮียจะไปกับเพลงตามนี้นะ” ตั้งใจจะหลบหน้าเธอไปหาเพื่อนแต่ไม่รู้ว่าทำไมแค่เห็นหน้าก็รู้สึกว่าไม่อยากจะไปไหนเลย เขาแค่อยากจะอยู่กับเธอตลอดเวลาจนกว่าจะทำใจได้มั้ง
“แบบนี้ก็ได้เหรอ?” หันมายิ้มให้แล้วเดินมาหยิบกาแฟไปดื่มแต่ว่ายังมองเธอไม่ว่างตาเลย
“ได้สิ เฮียอยากอยู่กับน้องเพลงมากกว่าใครนะ” ทำไมถึงรู้สึกว่าแพ้แบบนี้วะ แม่งยิ้มโคตรน่ารักเลย
“งั้นเที่ยงนี้เพลงเลี้ยงเองเป็นการขอโทษที่หนีกลับก่อนดีไหมคะ?”
“แต่เฮียเป็นเจ้านายจะให้เลขาเลี้ยงได้ไงห่ะ?”
“ได้สิคะ รับรองว่าจะไม่บอกใครเลย”
“เอางี้นะ เที่ยงนี้เพลงเลี้ยงส่วนเย็นนี้เฮียเลี้ยงเอง” คิดเหรอว่าจะปล่อยไปง่ายๆห่ะแม่คนใจร้ายของเขา
“เพลงกลับไปทำงานก่อนดีกว่า” เธอต้องถอยออกมาห่างๆแต่ว่าเฮียนายยังอุส่าห์เดินตามออกมาจนถึงหน้าห้อง เขานั่งเก้าอี้ตรงหน้าเธอแล้วดื่มกาแฟเหมือนว่ามันคือเหตุการณ์ปรกติทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลย
“คนอื่นเขามองหมดแล้ว!” เธออายนะ
“แล้วไงห่ะ? มองก็ดีสิจะได้รู้ว่าเพลงเป็นของใคร” ทุกคนที่คิดจะยุ่งกับเธอเตรียมตัวกระเด็นออกจากบริษัทได้เลย
คนนี้เขาหวงต่อให้ถูกปฏิเสธก็จะกั๊กเอาไว้จีบเองจนกว่าจะติด เขาเชื่อนะว่าในเวลาหกเดือนที่ใกล้ชิดกันเนี่ยเธอจะต้องหวั่นไหวบ้างแหละ
“เฮียพูดอะไรเนี่ย!?” อายมากกว่าเดิมอีก
“เฮียพูดจริงๆเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าหวงมาก” หมดเวลาเก็บอาการละต่อจากนี้มีแต่จะรุกอย่างเดียว
“เพลงไม่ได้เป็นอะไรกับเฮียนายนะ!” อะไรกันเนี่ยเธอจะบ้าตาย
“เดี๋ยวก็ได้เป็นไม่ต้องรีบ เฮียจองเพลงแล้วนะเมื่อวานนี้อย่าลืมสิ” จองด้วยจูบไงคิดแล้วก็อยากจะจูบอีกจัง