บทที่13 ข่าวการซุกเมีย

2394 คำ
หลังจากเกมรักจบลง นายหัวกับมธุรสก็ยังกอดก่ายกันอยู่บนฟูกนอน "ปล่อยผึ้งได้แล้วค่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะสายแล้วนะคะ" "หิว" นายหัวพูดขึ้น "ค่ะ ก็สายมากแล้วเดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนผึ้งจะไปทำอาหารเช้าให้กิน" "อาหารเช้าอะไรกันจะสิบเอ็ดโมงแล้ว อาหารเที่ยงแทนดีมั้ยผึ้ง" "ค่ะ อาหารเที่ยงก็ได้ ก็เพราะนายหัวนั่นแหละ" "เรียกนายหัวอีกแล้วนะ เป็นลูกจ้างกรีดยางเหรอถึงเรียกนายหัวอยู่ได้" "ขอโทษค่ะ ผึ้งไม่ชินปาก ไปอาบน้ำกันเถอะนะคะพี่อคินผึ้งก็หิวข้าวแล้ว" "ก็ได้ แต่ว่าอาบในอ่างนะ ขอเพิ่มอีกสักรอบได้มั้ย" นายหัวพูดอ้อนแล้วซุกไซ้จมูกลงกับซอกคอขาวเนียน "ผึ้งเป็นเมียเก็บนะพี่อคินไม่ได้เป็นเมียทาสเมียบำเรอพี่ทั้งวันนะคะ พอแล้วค่ะผึ้งหิวข้าวค่ะ" "อ้าวเหรอ เมียเก็บนี่เขาจำกัดจำนวนครั้งในการรักกันด้วยเหรอ" นายหัวถามแล้วหัวเราะกลบเกลื่อนอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ "ผึ้งไม่รู้หรอกค่ะว่ากี่ครั้ง แต่รู้ว่าตอนนี้อยากลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วออกไปทำกับข้าวค่ะ" "โอเคๆ เมียพี่คงโมโหหิวแล้ว เอาเป็นว่าเราไปอาบน้ำกัน เดี๋ยวเรื่องอาหารพี่ให้คนงานออกไปซื้อแล้วเอามาส่งให้ ผึ้งไม่ต้องทำหรอก ไว้ทำมื้อเย็นดีกว่า" นายหัวพูดเอาอกเอาใจแต่ก็ไม่เอาใจเปล่าเพราะนายหัวก็ยังเอาแต่ใจสอนรักทำรักกับมธุรสในอ่างน้ำวนไปอีกรอบ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่กำลังคลั่งรัก อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ได้ยินนายอ๊อดผู้ช่วยผู้จัดการสวนยางส่งเสียงเรียก "นายครับ นายหัวครับกับข้าวมาส่งแล้วครับ" นายอ๊อดส่งเสียงเรียกเจ้านายของตัวเอง "เออ ๆ ได้ยินแล้วกำลังออกไป" นายหัวภาคินขานรับแล้วเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับมธุรส "กับข้าวตามที่นายไลน์สั่งให้ผมไปซื้อครับ" นายอ๊อดบอกกับเจ้านาย แล้วปรายตาไปมองสาวสวยที่ยืนอยู่ด้านหลังนายแบบมีคำถามอยากรู้ว่าคนสวยที่ยืนอยู่เป็นใครกัน "ขอบใจมากที่ออกไปซื้อกับข้าวมาให้ กูตื่นสายน่ะ" นายหัวบอกลูกน้อง "ครับนาย แล้วเอ่อ" นายอ๊อดยังไม่ยอมจบ ปรายตาไปมองมธุรสอีกครั้งและยังไม่ยอมกลับจนกว่าจะรู้ว่าคนสวยที่ยืนอยู่กับนายเป็นใคร คงไม่ใช่ผู้หญิงที่นายซื้อกินธรรมดาทั่วๆ ไปแน่ๆ สวยขนาดนี้แล้วไหนจะพามานอนค้างด้วยกันที่บ้านพักที่นายหวงความเป็นส่วนตัวมากด้วย "ไอ้อ๊อดมึงนี่มันจริงๆ เลยนะ เสือกเสมอต้นเสมอปลาย นี่เมียกูเองชื่อน้ำผึ้ง" นายหัวด่าอ๊อดแต่ก็ยอมแนะนำมธุรสให้อ๊อดทราบว่ามธุรสเป็นเมีย "เมีย เมียหรือครับนาย" อ๊อดทวนถาม "เออ เมีย แล้วนี่มึงจะกลับไปได้แล้วยังกูจะได้กินข้าวมั้ยวันนี้ต้องมายืนรายงานมึงให้ละเอียดกว่านี้มั้ยครับไอ้คุณอ๊อด" "เอ่อ ไม่ต้องครับๆ อ๊อดกลับแล้วนาย" อ๊อดรีบพูดก่อนที่จะลานายหัวและเมียนายหัวกลับแต่ก็ไม่วายคิดในใจว่า "นายกูจะโดนคดีพรากผู้เยาว์มั้ยวะเนี่ย คุณน้ำผึ้งหน้ายังกับเด็กมัธยม เด็กสิบห้าชัดๆ" "แต่สวยจริง สวยเหมือนดาราถึงว่าจะเที่ยงแล้วเพิ่งได้ออกจากห้อง" "ลูกเต้าของใครหนอ นายไปได้เมียมาจากไหนกัน เรื่องนี้ต้องมีสืบต่อเว้ยไอ้อ๊อด" อ๊อดได้แต่คิดก่อนที่จะเดินจากไป ฝั่งนายหัวภาคินกับมธุรสเมื่อกินข้าวเสร็จแล้วนายหัวก็พามธุรสออกไปเดินสำรวจรอบๆ สวน "สวนยางพี่อคินเหมือนป่าเลย ร่มรื่นโอบล้อมด้วยป่าและทิวเขาสูง กว้างมากเลยค่ะ นี่ถ้าผึ้งมาเดินคนเดียวคงหลงทางกลับบ้านไม่ถูกแน่ๆ" มธุรสพูดบอกนายหัว "แค่หลงทางเองเหรอ แล้วเมื่อไหร่จะหลงรัก" นายหัวภาคินแกล้งหยอด "หลงรักแล้วค่ะ" มธุรสพูดยั่วยิ้มๆ "กับคนแก่ชอบหยอดมันต้องเจอกับเด็กสาวขี้อ่อยแหละมันถึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน" มธุรสคิดในใจ "หลงรักพี่เหรอ" นายหัวอคินแกล้งทำเสียงตื่นเต้นถามออกไป "เปล่าค่ะหลงรักสวนยางที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาค่ะ ดูลึกลับน่ากลัวแต่ก็ดูหนักแน่นมั่นคงด้วย" "เจ้าของสวนก็หนักแน่นมั่นคงนะ ไม่คิดจะหลงรักบ้างหรือไง" "ขอคิดดูก่อนได้มั้ยคะว่าควรหลงหรือทำให้หลงดีมั้ย ต้องดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆ ว่าเจ้าของสวนจะดูแลปกป้องเราได้แค่ไหนคะ" มธุรสตอบอย่างฉลาดเช่นเคย "แหม แม่ผึ้งตัวร้าย ได้ดอมดมดูดเลีย เอ๊ย! ดูดกินน้ำหวานแล้วก็คิดจะทิ้งเขาเหรอ ร้ายกาจนักนะเราน่ะ" นายหัวภาคินแกล้งพูดต่อว่ามธุรส "เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนค่ะ ผึ้งต้องเป็นคนพูดมั้ยคะ ไอ้ประโยคเมื่อกี้เขาเอาไว้ใช้กับผู้ชายที่ชอบล่อลวงผู้หญิงหลอกกินหลอกฟันผู้หญิงแล้วทิ้งไม่ใช่เหรอคะ" มธุรสหยุดเดินแล้วหันมาถามนายหัวภาคิน "เมื่อก่อนนะใช่เขาเอาไว้เปรียบเทียบผู้ชายที่หลอกล่อผู้หญิง แต่สมัยนี้ผู้หญิงร้ายกาจจะตายพี่น่ะโดนมาเยอะ ยิ่งฉลาดๆ รู้ทันผู้ชายและเป็นคนที่รักตัวเองมากๆ อย่างผึ้งด้วยแล้วยิ่งน่ากลัวไปใหญ่" นายหัวภาคินเปิดเปลือยความคิดของตัวเองในมุมมองที่ตนเองมองมธุรสให้มธุรสทราบ เมื่อมธุรสได้ฟังก็ยิ้มน้อยๆ แล้วพูดขึ้นว่า "แล้วพี่อคินจะกลัวผึ้งทิ้งพี่ทำไมคะ พี่อคินไม่ได้อยู่ในสถานะที่ต้องกลัว คนระดับพี่ รวยแบบพี่มีความพร้อมทุกอย่างเท่าพี่ พี่จะมีเมียที่เลี้ยงไว้แบบผึ้งกี่คนก็ได้ไม่ใช่เหรอ ผึ้งสิคะที่ไม่มีหลักประกันอะไรสักอย่างนอกจากร่างกายความสาวที่มีอยู่ในตอนนี้และไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันจะหมดลงจนทำให้พี่สิ้นเสน่หาในวันใด จะอยู่กันได้ครบสี่ปีตามสัญญาหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย" "ก็จริง แล้วผึ้งคิดว่าจะทำยังไงให้พี่ไม่ทิ้งผึ้งไปล่ะ" นายหัวภาคินแกล้งถาม "อือ นั้นสิ ผึ้งไม่บอกพี่อคินหรอกค่ะมันเป็นเทคนิคและความลับเปิดไพ่หมดผึ้งก็แพ้สิคะ" "ฉลาดนักนะเรานะ แล้วนี่เหนื่อยยัง" นายหัวภาคินแกล้งต่อว่าและในใจก็คิดว่านอกจากความสวยแล้วมธุรสยังมีดีที่สมอง ไหวพริบ การพูดการจา เมียเด็กคนนี้ของเขามีครบทุกอย่าง ชีวิตของมธุรสคงไปได้ไกลกว่านี้มากถ้ามธุรสยังมีพ่อค่อยปกป้องสั่งสอน แต่มองอีกมุมก็ดีที่มธุรสมีแม่ที่แย่เพราะถ้าไม่มีนางมารตีนายหัวภาคินก็คงไม่ได้ลิ้มลองรวงผึ้งหวานรวงนี้อย่างแน่นอน "ก็เริ่มเมื่อยขาแล้วนะคะเราเดินมาไกลแล้ว เดินกลับไปที่รถกันเลยมั้ยคะ" "พี่ก็ร้อนแล้วเหมือนกัน ผึ้งเดินต่อไปอีกนิดได้มั้ย อีกนิดเดียวก็จะถึงลำธาร ไปนั่งพักผ่อนตรงลำธารกัน พี่จะเก็บสะตอไปทำกับข้าวมื้อเย็นด้วย" "เดินไหวค่ะ ในสวนยางพี่มีต้นสะตอด้วยเหรอคะ" "มีสิ ผลไม้ต่างๆ ก็มีเยอะเลยพวกเงาะ ลองกอง ทุเรียน มังคุด นี่ไงมังคุดน่าจะพอสุกกินได้แล้ว น้ำผึ้งอยากไปลองเก็บมั้ยล่ะ" นายหัวภาคินพูดเชิญชวนมธุรส "ไปค่ะ น้ำผึ้งอยากเก็บมังคุด" มธุรสพูดตอบรับทันทีเหมือนเด็กที่ดีใจเมื่อได้ออกไปเที่ยวเล่น มื้อเย็นของวันนั้นมธุรสจึงได้ทำสะตอผัดกะปิกุ้งเป็นกับข้าวเย็น มีผลไม้สดๆ จากสวนทั้งมังคุด เงาะและลองกอง "สะตอผัดกะปิอร่อยมาก น้ำผึ้งทำกับข้าวเก่งนะใครสอนเหรอ" "แม่ค่ะ แม่น้ำผึ้งเป็นแม่บ้านดูแลบ้านดูแลพ่อไม่เคยทำงานนอกบ้านเลย แม่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้ผึ้งไม่อยากเอาอย่าง ผึ้งไม่อยากฝากชีวิตไว้กับผู้ชายอย่างเดียวโดยไม่คิดหาทางทำมาหากินด้วยตัวเอง ตอนพ่อยังมีชีวิตอยู่พ่อรักและดูแลแม่ดีมาก ดีจนแม่ไม่มีภูมิคุ้มกันหรือความมั่นใจใดๆ ในการที่จะกล้าออกไปทำมาหาเลี้ยงตัวเอง แม่ก็ถนัดงานบ้านแต่งานนอกบ้านแม่ก็ไม่สามารถเลย แม่เป็นคนที่น่าสงสารนะคะเขาไม่มีโอกาสเจอทางเลือกที่ทำให้สามารถยืนได้ด้วยตัวเองเลย" "ผึ้งพูดถึงแม่เหมือนไม่โกรธแม่เรื่องที่แม่ทำกับผึ้งจนทำให้ผึ้งต้องตกเป็นของพี่เลยนะ" "หมายถึงพลาดท่าเสียทีจนมีสามีแก่นะเหรอคะ" มธุรสแกล้งพูดแล้วส่งยิ้มหวานให้นายหัวภาคิน "เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวจะโดน พิสูจน์มาหลายรอบแล้วนะว่ายังไม่แก่ พี่อึดและทนมากหรือว่าอยากลองอีกสักที" "ไม่ค่ะ ผึ้งล้อเล่นหรอกค่ะ พี่อคินยังไม่แก่เสียหน่อยแต่ผึ้งเองที่ยังเด็กไป" มธุรสพูดแก้และส่งยิ้มยั่วๆ "เดี๋ยวเถอะแม่ตัวดี ยังไม่ตอบพี่เลยนะว่าตกลงผึ้งไม่โกรธแม่ของผึ้งเรื่องที่เกิดขึ้นเลยเหรอ" "ไม่โกรธค่ะแต่น้อยใจ แม่เขาคงมีเหตุผลของเขา สิ่งที่แม่ทำมันอาจจะดีที่สุดแล้วในช่วงเวลาและสถานการณ์แบบนั้น แม่คงมีความกังวลเรื่องอาสิงห์ ถ้ามองบวกก็ดีนะคะถ้าผึ้งไม่โดนแม่วางยาจนต้องตกเป็นเมียพี่ก็อาจจะเจอเรื่องเลวร้ายกว่าต้องตกเป็นเมียอาสิงห์หรือเมียใครสักคนเหมือนที่แม่บอกก็ได้เรื่องที่มันเกิดขึ้นแล้วผึ้งก็ควรยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ มันน่าจะดีกว่ามานั่งโทษอดีตแล้วฟูมฟายหาสาระอันใดกับเรื่องที่ผ่านมาและไม่สามารถแก้ไขได้อีกแล้ว" "น้ำผึ้ง เคยมีใครบอกเรามั้ยว่าน้องนะเป็นเด็กที่โตเกินอายุ ไม่ใช่แค่โตเป็นสาว มีนมโตๆ แต่สมองน้องโตด้วย mindset ของน้องมันทำให้พี่อยากรู้จักพ่อของน้อง เดาได้เลยว่าเขาน่าจะเป็นคนดีคนเก่งมาก เขาถึงสอนลูกสาวได้ดีขนาดนี้" "ขอบคุณนะคะที่ชมว่าสมองโตพอๆ กับนมโต แต่พี่อคินอย่าพึ่งไปทำความรู้จักกับพ่อผึ้งเลยนะคะ ถ้าพี่ไปรู้จักพ่อผึ้งเร็วไปมันจะทำให้ผึ้งเรียนไม่จบเอานะคะเพราะไม่มีป๋าส่งให้ผึ้งเรียนต่อ" "หน่อยแม่ตัวดีพี่ไม่ได้หมายความว่าจะลาตายไปรู้จักกับพ่อผึ้งในตอนนี้ ใจคอนี่ไม่คิดจะหวงผัวเลยนะ คือถ้าส่งให้เรียนจบแล้วพี่จะไปตายที่ไหนก็ได้แบบนั้นใช่มั้ย" นายหัวภาคินแกล้งงอนใส่มธุรส "ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย กินข้าวอิ่มยังค่ะ ไปอาบน้ำกันมั้ยคะเดี๋ยวผึ้งสระผมให้พี่อคินเอง" มธุรสเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดออดอ้อน "ร้าย เรานะมันร้ายกาจ" นายหัวพูดว่ายิ้มๆ รู้ทันความคิดของเด็กสาว คิดจะปั่นหัวให้ผัวหลงอย่าคิดว่าเขาจะไม่รู้นะ รู้หรอกแต่ก็ยอมให้ปั่น "ร้ายอะไรเล่า แล้วตกลงจะให้ผึ้งสระผมให้มั้ยถ้าพี่อคินไม่ชอบก็ไม่เป็นไรค่ะ" "ใครบอกไม่ชอบ เมียชวนลงอ่างใครบ้างจะไม่ชอบเล่า" นายหัวภาคินพูดแล้วพาเมียไปลงอ่างสระผมทั้งอาบทั้งนวดทั้งนาบไม่รู้ว่าใครหลงใครกันแน่แล้วในตอนนี้ นายหัวภาคินขลุกอยู่ในสวนยางหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ไม่ยอมกลับบ้านไปหาแม่ เหตุผลเพราะกำลังหลงเมียไม่อยากห่างเมียไปไหนและสามสี่วันมานี่มธุรสก็มีประจำเดือนและปวดท้องมาก นายหัวภาคินจึงเป็นห่วงมากไม่อยากทิ้งมธุรสไว้คนเดียว พอหลายวันเข้านายหัวภาคินไม่ได้กลับบ้านแม่ของนายหัวก็สงสัยเลยเรียกนายดินลูกน้องคนสนิทของนายหัวภาคินมาสอบถามเอาความจริงว่าทำไมนายหัวไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้ว "นายดิน เจ้าลูกชายของฉันทำไมมันไม่กลับบ้านกลับช่อง ที่สวนยางมันมีอะไรดีนักหนามันถึงได้ไปขลุกอยู่ที่นั่น เธอรายงานฉันมาให้หมดนะ" "เอ่อ เอ่อคือว่าผม..." นายดินลำบากใจที่จะเล่าเรื่องเรื่องเจ้านายให้แม่ของเจ้านายฟัง "เธอเล่าฉันมานะนายดิน ไม่อย่างนั้นฉันจะตามไปดูให้ถึงสวนยางเลย เล่ามาเดี๋ยวนี้" คุณนายนารินแม่ของนายหัวอคินถามคาดคั้น "เอ่อ นายหัวพาเมียไปอยู่ที่สวนครับนายหญิง" "อะไรนะ เมียอะไร ลูกชายฉันมีเมียตอนไหนทำไมฉันไม่รู้ แล้วเมียของลูกชายฉันเป็นใครลูกเต้าของใครกัน" "มีเมียตอนไหนผมไม่แน่ใจครับ แต่ไอ้อ๊อดผู้ช่วยผู้จัดการสวนยางมันเล่าให้ผมฟังว่านายแนะนำว่าคุณน้ำผึ้งเป็นเมียนายครับ" "แล้วแม่น้ำผึ้งคนนี้เป็นใครมาจากไหน เป็นลูกเต้าของใคร" "คุณน้ำผึ้งเป็นลูกเลี้ยงของนายหัวไกรสีห์ครับนายหญิง" "ตายๆ แม่ผู้หญิงคนที่แม่มันมาเป็นเมียของพ่อสิงห์ แม่หม้ายจากกรุงเทพคนนั้นใช่มั้ย แล้วก็ลูกสาวของนางที่เขาลือกันทั้งงานแต่งว่าเป็นเมียของพ่อสิงห์อีกคนนะเหรอ โอ๊ยตายๆ ฉันจะเป็นลม" คุณนายนารินทำท่าจะเป็นลมจริงๆ ดึงเอายาดมขึ้นมาดม ก่อนที่จะสั่งให้คนรถเอารถออกเพื่อไปตามลูกชายที่สวนยาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม