Chapter 1 กล้ามที่แผงอก
ซ่า!
ร่างเล็กอวบอัดถึงกับชะงักฝีเท้าเมื่อถูกน้ำสาดเข้ามาเต็มแรงจนเปียกลู่ตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า นางยืนอึ้งอย่างไม่ทันตั้งตัวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายรูปร่างสูงใหญ่ตรงหน้าที่กำลังรู้สึกไม่ต่างกันกอ็ดก
โครม!
ถังไม้ในมือของชายหนุ่มหลุดร่วงกลิ้งหลุนๆ ลงไปกับพื้น ใบหน้าของเขาฉายชัดว่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ด้วยไม่คาดคิดว่าจะมีใครก้าวดุ่มๆ เดินเข้ามาในจังหวะที่เขากำลังอาบน้ำให้ม้าอยู่เช่นนี้ เมื่อตั้งสติได้เขาก็รีบหมุนตัวกลับไปหยิบเสื้อที่แขวนอยู่บนประตูคอกม้ามาคลุมร่างอวบอัดเปียกปอนเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ไม่เช่นนั้นเจ้าก้อนเอ็นกลางหว่างขาคงชูผงาด เพราะเสื้อที่เปียกลู่แนบไปกับเรือนกายทำให้เขาเห็นทรวงอกอิ่มชูสล้าง เอวเล็กมีหน้าท้องหน่อยๆ พอให้ความรู้สึกนุ่มนิ่ม สะโพกผายอวบอิ่มรับกับบั้นท้ายดินระเบิด
ให้ตายเถอะ! เรือนร่างของนางราวกับแจกันเลอค่าก็ไม่ปาน
ตึก! ตึก! ตึก!
หัวใจของหวงย่าหลิงเต้นรัวระเร็วเมื่อแผงอกของชายหนุ่มปรากฏชิดใบหน้ายามที่เขาโน้มตัวลงมาเพื่อคลุมเสื้อลงบนเรือนร่างของนาง
กลิ่นเหงื่อของบุรุษ...
เป็นกลิ่นเหงื่อจากแผงอกแกร่งตรงหน้า หรือกลิ่นเหงื่อจากเสื้อผ้าฝ้ายสีน้ำตาลแก่ที่เขาคลุมลงมาบนเรือนร่างของนางกันแน่นะ
เขาสูงจัง...
นางแหงนหน้ามองเขา ความสูงของนางอยู่เพียงแค่ราวนมของเขาเท่านั้น และใช่...นมของเขาเป็นสีชมพูแม้ว่าสีผิวของเขาจะเป็นสีแทน ผิวของเขามันมะเมื่อมอย่างคนทำงานหนัก กลิ่นสาบเหงื่อผสานไปกับกลิ่นฟางแห้งทำให้อะไรบางอย่างในร่างกายของสาวน้อยตื่นตัวจนทำให้หัวใจเต้นรัวแรง
กะ...เกิดอะไรขึ้นกับข้า!
“ข้าขอโทษขอรับเถ้าแก่เนี้ย ท่านบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือไม่”
เสียงทุ้มนุ่มปลุกให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ความคิด นางเผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากก่อนจะเม้มเรียวปากอวบอิ่มเข้าหากัน
“มะ...ไม่เจ็บ มะ...ไม่มีตรงไหนเป็นอะไรเลย”
“ถึงอย่างนั้นข้าก็ต้องขอโทษเถ้าแก่เนี้ยที่ประมาทจนทำให้ท่านต้องเปียกไปทั้งตัวเช่นนี้”
ชายหนุ่มรีบคุกเข่าลงกับพื้น เขาเป็นเพียงคนงานเลี้ยงม้า ในขณะที่หญิงผู้นี้เป็นถึงภรรยาของเถ้าแก่เจ้าของโรงเลี้ยงม้าอันมีชื่อเสียงแห่งนี้
“ข้าไม่โกรธเจ้าหรอก ลุกขึ้นเถอะ”
“ขอบคุณขอรับเถ้าแก่เนี้ย”
เมื่อเขาหยัดกายลุกขึ้นยืน คนตัวเล็กก็ถึงกับต้องแหงนหน้าคุยกับเขา ด้วยความสูง ความกำยำหนันแน่น ทำให้นางอดใจเต้นแรงขึ้นมาอีกระลอกไม่ได้
“ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรหรือ”
“ข้าชื่อเซียนหยวนขอรับ”
“เป็นเจ้านี่เอง...”
คนตัวเล็กยืนนิ่งไปหลายอึดใจ เผลอเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ครุ่นคิดและลังเล
นางได้ยินสามีพูดถึงเขาอยู่หลายครา เซียนหยวนผู้นี้เป็นคนมีพรสวรรค์ เขาสามารถคัดเลือกม้า ฝึกม้า และช่วยผสมพันธุ์ม้าได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งยังมีวาจาเป็นเลิศ สามารถขายม้าได้ในราคาแพงจนทำให้โรงเลี้ยงม้าได้กำไรมากขึ้นกว่าเท่าตัว
ดังนั้นเพียงหนึ่งฤดูกาลที่เซียนหยวนเข้ามาทำงานในโรงเลี้ยงม้า เขาก็ได้รับความไว้วางใจจากเถ้าแก่จางจนได้เป็นหัวหน้า คอยดูแลควบคุมและมีอำนาจในการตัดสินใจรองจากผู้เป็นนาย
“เป็นข้า...หมายถึงอะไรหรือขอรับเถ้าแก่เนี้ย”
เสียงทุ้มปลุกหญิงสาวให้หลุดจากภวังค์ความคิด นางจึงรีบตอบกลับไปทันที
“ท่านพี่ให้เจ้าช่วยสอนข้าดูแลม้า ดูแลคอกม้า และ... สะ...สอนข้าขี่ม้า”
พูดออกไปแล้วนางก็อยากจะถอนคำพูดเหล่านั้นคืนเสียเหลือเกิน ทำไมต้องเป็นชายผู้นี้ ชายที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ผิวสีเข้มกระด้าง ร่างกายกำยำแข็งแรง เสน่ห์ของเขาเหลือร้ายจนทำให้สาวเปลี่ยวอารมณ์เหงาอย่างนางถึงกับหัวใจว้าวุ่น
“ด้วยความยินดีขอรับเถ้าแก่เนี้ย”
“ถะ...ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปเปลี่ยนชุดก่อน”
“ขอรับเถ้าแก่เนี้ย”
ย่าหลิงพูดจบก็ก้าวอาดๆ เดินออกจากโรงเลี้ยงม้าไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้หันกลับไปมองคนตัวโตด้านหลังอีกเลย จึงไม่เห็นสายตาที่วิบวาวเต็มไปด้วยเล่ห์กลของเขา
“ดูเหมือนอะไรๆ จะง่ายขึ้นกว่าที่คิดสินะ...”
เซียนหยวนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะก้มลงเก็บถังน้ำ ก้าวอาดๆ ไปตักน้ำจนเต็มถัง แล้วเทราดลงบนตัวม้าก่อนจะจัดการใช้ไขผึ้งถูทำความสะอาดจนทั่ว
วันรุ่งขึ้นม้าตัวนี้จะถูกส่งไปยังจวนขุนนางชั้นสูง ราคาของมันมากมายถึงสิบห้าตำลึงทองเลยทีเดียว...
หวงย่าหลิงไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตวัยสาวของนางจะสิ้นสุดลงที่เรือนสกุลจางแห่งนี้ วัยสาวที่แสนแห้งแล้งเหี่ยวเฉา มีชีวิตไปวันๆ อย่างไร้จุดมุ่งหมายในชีวิต
ภรรยาในนาม...
คือสิ่งที่นางกำลังเป็น และคงต้องเป็นต่อไปชั่วชีวิตเพราะบิดาได้ยกนางให้แก่ ‘เถ้าแก่จาง’ หรือ ‘จางอี้เซียว’ ชายวัยกลางคนที่ร่ำรวยเข้าขั้นคหบดี เขาเปิดโรงเลี้ยงม้าขนาดใหญ่ มีม้าสายพันธุ์ดีมากมายจากทั่วทุกแคว้น ม้าพ่อพันธุ์และม้าแม่พันธุ์ล้วนเป็นม้าที่ชนะการประกวด
อีกทั้งในกองทัพยังนิยมซื้อม้าจากโรงเลี้ยงม้าของเถ้าแก่จางเพราะฝีเท้าดี วิ่งได้เร็ว อดทนต่อระยะทางไกลกว่าม้าจากโรงเลี้ยงม้าที่อื่นๆ
ในอดีตพี่ชายของเถ้าแก่จางได้เพาะพันธุ์ม้าเพศผู้ออกมามีสีขาวปลอดทั้งตัว ขนยาวสวย ดวงตาสีฟ้าราวกับท้องทะเล อีกทั้งยังมีฝีเท้าที่แข็งแกร่งราวกับสายลม จึงได้ถวายแด่องค์ฮ่องเต้เพื่อเป็นม้าคู่บัลลังก์
ความดีความชอบในวันนั้นยิ่งทำให้โรงเลี้ยงม้าแห่งนี้มีชื่อเสียงขจรขจายไปไกล
จางอี้เซียวใช้ชีวิตอย่างเพียบพร้อมไปด้วยทรัพย์สินและข้าทาสบริวาร เขาสร้างเรือนนอนขนาดใหญ่และเลี้ยงชายหนุ่มหน้าตาดีเอาไว้นับสิบคนเพื่อบำเรอความใคร่
ใช่แล้ว...
เขาเป็นชายที่รักชอบหลงหยางแบ่งท้อตัดแขนเสื้อ[1]
รสนิยมเรื่องเพศไม่มีสิ่งใดถูกผิด แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเมืองฉางยังไม่ยอมรับและไม่ยอมเปิดใจเรื่องนี้ เถ้าแก่จางจึงพยายามปิดบังรสนิยมของตนเรื่อยมา
แน่นอนว่ายิ่งเขาพยายามปิดเป็นความลับมากเท่าไหร่ เรื่องลับก็ยิ่งไม่ลับ เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่องในที่สุดชาวบ้านจึงรู้กันทั่ว นินทากันให้ขรม
ร้อนใจจนเขาต้องรีบแต่งงานมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนเพื่อปิดบังข่าวฉาวนี้
[1] ชายรักชาย