"ผมบอกแล้วไงว่าไม่ชอบนอนกับใคร ผมนอนร้ายมาก อีกอย่างเตียงนั่นก็เหมาะสำหรับผมคนเดียวด้วย" เขายังรักษาความอ่อนโยนเอาไว้อย่างรักษาน้ำใจ 'คู่นอน' และพยายามแกะนิ้วตุ๊กแก เอ๊ย! มือที่เหนียวหนึบบนแขนออก
"คุณโฮปใจร้าย ฮือๆๆ พวกเราหมดประโยชน์แล้วนี่คะถึงได้ขับไล่ไสส่ง คุณเห็นผู้หญิงอย่างเราเป็นอะไรคะ คิดจะเอาก็เอากันง่ายๆ พอเสร็จสรรพก็ไล่เหมือนหมูเหมือนหมา"
"โถๆๆ ไม่ใช่อย่างนั้น...อย่าร้องสิครับ" เห็นน้ำตากับเสียงสั่นเครือของผู้หญิงก็อดไม่ได้จริงๆ ที่ 'สุภาพบุรุษ' อย่างเขาจะหัวใจอ่อนยวบ สาวเจ้าลอบยิ้มออเซาะซบอกอย่างออดอ้อน อีกคนก็เริ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ปานจะขาดใจตามไปด้วยหากต้องพรากจากเขา
"เอางี้...ถ้าไม่ยอมไปง่ายๆ ผมไปส่งดีกว่านะครับคนดี"
"เอ่อ..." ยังไงก็ไม่ยอมให้อยู่ด้วยทั้งคืนสินะ
"ไม่ค่ะ มะนาวอยากอยู่กับคุณ มะนาวไม่ยอมด้วย" สาวสวยทำปากจู๋กะพริบตากะปริบๆ ก่อนจะแบะปากทำท่าจะเรียกน้ำตาอีกครั้ง แทบอ๊วก!!!
"ไม่ไหวแล้วว่ะ..." เขาบ่นอุบ
"อะไรนะคะ...ยอมให้พวกเรานอนที่นี่แล้วใช่ไหมคุณโฮป"
"เปล่า...คือผมอยากถามว่าจะกลับกันได้หรือยังมันดึกมากแล้ว" คราวนี้มีอาการฉุนๆ เล็กน้อยปนกับน้ำเสียงนั้น สองสาวเริ่มรู้ตัวและคลายอ้อมแขนที่รัดเขาเสียแน่น
ราเชนทร์เป็นที่กล่าวขานเป็นอย่างมากหากใครทำให้เขาไม่พอใจ แม้จะเป็นคนอารมณ์ดีขี้เล่นบ้างไรบ้างแต่เมื่อถึงคราวหมดเวลาเล่นเขาก็โหดระห่ำไม่ใช่น้อยเหมือนกัน
"ถ้าอย่างนั้น...คุณต้องไปส่งที่คอนโดนะคะ ก็เมื่อกี้คุณบอกว่าจะไปส่ง"
"ผมหมายถึงผมจะลงไปส่งข้างล่าง แล้วให้ลูกน้องพาไป...โอเคไหมคนสวย"
"ไม่ค่ะ!!! มะนาวไม่ยอม มะนาวเป็นเมียคุณแล้วคุณต้องให้เกียรติมะนาวบ้างนะคะ ทิ้งๆ ขว้างๆ แบบนี้ได้ไง"
หืม...นี่เขามีเมียแล้วเหรอเนี่ย...ตอนไหน คนไหนกันนึกไม่ออก นับไม่ถูก ราเชนทร์เริ่มรู้สึกรำคาญหงุดหงิดขึ้นมาครามครัน ถ้าหากเป็นหญิงสาวที่ควรให้เกียรติเขาก็ให้เกียรติอยู่นะ ไม่ใช่จะเห็นแก่ตัวเอาเปรียบเพศที่อ่อนแอกว่าไปทั่ว
แต่สำหรับสองนางนี้รู้ก็รู้กันอยู่ว่าเป็นยังไง เขาใช้เงินซื้อตัวมา เพราะสะอาดและผ่านการพาสเจอร์ไรซ์จากคนของเขามาแล้วถึงยอมให้รวมลงสนามรักด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องตกเป็นทาสพวกเธอทันทีที่เสร็จศึกเสียหน่อย ข้อตกลงก็มีอยู่...หากถือวิสาสะคิดตีตัวเรียกร้องสิทธิกันแบบนี้ ชักไม่สนุกเสียแล้ว ผู้หญิงนี่ปัญหาและมารยาเยอะจริงๆ แปดร้อยเล่มเกวียนที่โบราณว่าไว้เห็นจะบรรทุกไม่พอ "แน่ใจนะว่าอยากให้ผมส่ง..."
"แน่สิคะ..."
"เอ่อ...พิ้งว่า พิ้ง..." หญิงสาวอีกนางดูเหมือนจะพอรับรู้ถึงรัศมีอำมหิตที่ค่อยๆ แผ่ออกมาจึงละมือและถอยร่างเปลือยออกห่างนิดๆ อีกนัยหนึ่งเพื่อเอาใจเขาว่าเธอไม่ดื้อ ไม่ซนเชื่อฟังทุกอย่าง ไม่เหมือนที่เพื่อนอีกคนกำลังทำ "ได้ครับ...เบบี๋..."
"กรี๊ด!!! ว้าย!!!" ตุบ!!!! เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจปนหวาดกลัวหวีดแหลมเหมือนจะบาดแก้วหูให้ขาดวิ่น ราเชนทร์เบือนหน้าหนีด้วยความหนวกหู ไม่ได้มองร่างแบบบางที่ตัวเองจับโยนทิ้งลงไปด้านล่างด้วยซ้ำ
คงไม่เป็นอะไรมากมายหรอก...ความสูงจากห้องนี้ลงไปด้านล่างแต่สี่ห้าเมตรเอง อีกอย่างก็มีพุ่มไม้รองรับอีกที อย่างมากก็คงโดนไม้เกี่ยวขีดข่วน เคล็ดขัดยอก แขนขาหัก หัวแตก กระดูกเดาะ!!
"ไง...จะให้ส่งลงไปอีกคนไหมฮันนี่..."
"ไม่...ไม่ๆ ค่ะ พิ้งกลับไปเองดีกว่า อูย...เสียวแทน" สาวสวยรีบปฏิเสธพร้อมวิ่งเข้าห้องจัดแจงเก็บเสื้อผ้ากระเป๋าและเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำ เพียงไม่ถึงสามนาทีก็จ้ำอ้าวออกจากห้องไปลิ่วๆ
"อ้าว! นั่น น้องพิ้งครับกางเกงในอยู่นอกกางเกงนะครับ"ราเชนทร์แซวขำๆ เมื่อเห็นหญิงสาวลนลานจนสวมแพนดตี้เอาไว้นอกกางเกงขายาว แต่เตือนไม่ทันเสียแล้วเธอรีบกลับบ้านเกินไป ความหวังดีของเขาจึงกลายเป็นหมันไปเลย "คุณโฮป!!!" เสียงแหลมด้านล่างเรียกความสนใจให้เขาหันกลับไปมอง สภาพของหญิงสาวอีกคนที่ถูกจับทุ่มลงบนพุ่มไม้ใหญ่ดูไม่จืดเลยจริงๆ แม้มีแต่แสงไฟสลัวๆ แต่ก็พอมองเห็นว่าทั้งตัวเธอเต็มไปด้วยใบไม้ใบหญ้า แถมคาบไว้ในปากอีกเป็นฟ่อน! เธอทำท่าจะร้องไห้กับสารรูปที่น่าอนาถนี้
"นาย!! นายครับ..." ชายชุดดำคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นออกมานอกลานสนามหญ้า แหงนหน้ามองราเชนทร์แล้วถามเสียงหลง
"อะไร...ทำหน้ายังกับเห็นผี" อนงค์นางร่างเปลือยรีบกอดตัวเองและนั่งหลบทันทีเมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามา
"ผะ...ผี จริงๆ ครับ ไม่ได้หลอกแต่คงมาขอส่วนบุญ"
"มาขอส่วนบุญ...อะไรของแกไอ้บ้า ดึกๆ ดื่นๆ มาพูดเรื่องผีเผออะไรกัน" ราเชนทร์เหลือบมองด้านล่างตรงพุ่มไม้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับนางบำเรอตกตึกของเขา
"ผมได้ยินเสียงเปรตครับ...มาขอส่วนบุญตอนผมกำลังสวดมนต์พอดิบพอดีเลย เสียงแหลมเชียว น่ากลัวมากๆ นาย ผมขอลากลับบ้านก่อนนะครับ คืนนี้อยู่ไม่ได้แล้ว"
ออ...เป็นแบบนี้นี่เอง
"ฮ่าๆ เออ! ไอ้คนธรรมธรรมโม ฉันอนุญาต แกไม่ต้องเข้าเวรแล้วคืนนี้ ว่าแต่แกรู้ไหมถ้าแกไม่ทำอะไรสักอย่าง มันต้องตามแกไปบ้านแน่ๆ แกยิ่งชอบทำบุญด้วย รับรอง...อืม..." ว่าแล้วก็ทำท่าเชือดคอให้ดู การเปลือยกายของเขาไม่ได้แปลกหูแปลกตาสำหรับเหล่าลูกน้องหรอก หนักกว่าเดินโทงๆ รอบบ้านก็ยังเจอดีกันมาแล้วการ์ดในชุดดำจึงไม่ตกใจที่เห็นสภาพนั้นของราเชนทร์ตอนตีสาม!
"ทำไงครับนาย...ผมกลัว ผมอยากกลับบ้านไปกอดเมีย..."
การ์ดขี้กลัวตอบเสียงสั่น มองซ้ายมองขวา เพื่อนๆ ก็ไปประจำที่ของตัวเองกันหมด มีแต่เขาแหละที่อยู่แถวๆ นี้และกำลังสวดมนต์แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้กับวิญญาณเร่ร่อนทั้งหลาย หวังว่าจะได้ทำงานราบรื่นอย่างที่ปฏิบัติและได้ผลมาตลอด
"แกรีบไปหาผ้านะ...มาสักชุด วางไว้ตรงนั้นแหละ แล้วอธิษฐานให้เจ้ากรรมนายเวรมารับซะ เขาจะได้ไม่หลอกแก รู้ไหม"
"คระ...ครับ ผมจะรีบทำตามเดี๋ยวนี้เลย"
"เออดี"
ว่าแล้วการ์ดอายุรุ่นพี่ก็เดินเข้าในบริเวณตึกอีกครั้ง แต่แล้วก็หยุดเดินกะทันหัน และตัดสินใจกลับมาถามอะไรบางอย่างเพื่อความแน่ใจ
"นาย...ต้องเอาอาหารคาวหวานด้วยไหมครับ"
"ไม่ต้องไอ้บ้า! แค่ผ้าก็พอ"
"ครับๆ" แล้วก็เดินกลับไป
"ผีอะไรวะ...อยากได้แต่ผ้าหรือผีไม่มีผ้าใส่ แล้วคุณโฮปรู้ได้ยังไงเนี่ย เออ...ช่างเหอะรีบทำตามที่คุณเขาบอกดีกว่า เดินตามหลังคนรวยผีไม่หลอก" เดินไปพลางก็คิดไปพลางว่าแล้วก็เหมือนมันขาดๆ อะไรสักอย่าง จึงกลับมาถามผู้เป็นนายอีกครั้ง
"นาย!!"
"อะไรอีกวะ!! นี่กูเลี้ยงมึงให้เป็นบอดี้การ์ดหรือเป็นสมภารประจำบ้านเนี่ย" ราเชนทร์ทำท่าจะเข้าในห้องเพื่อหยิบบุหรี่มาดูดเพิ่มอีกมวน แต่แล้วก็ต้องหันมาสนทนากับลูกน้องเจ้าปัญหาอีกจนได้
"อย่าเพิ่งโกรธครับ...คือผมอยากรู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้เนี่ย ต้องกรวดน้ำแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ด้วยไหมครับ ผมจะได้เตรียมชุดกรวดน้ำมาด้วยเลย"
"ไม่ต้อง!! ขืนแกช้าอีกสามวินะ...." ชายหนุ่มยกมือชี้และทำหน้าเข้ม อีกฝ่ายผงะ ก่อนจะรีบวิ่งไปจัดเตรียมของเซ่น โดยไม่หันหลังกลับมาอีกเลย
"รู้งี้จับโยนบ่อจระเข้ก็หมดเรื่อง!!" ราเชนทร์ปล่อยประโยคสุดท้ายให้สาวน้อยในพุ่มไม้ร้อนๆ หนาวๆ เล่น ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ปิดประตูล็อกกลอนไม่คิดดูดบุหรี่ต่ออีกแล้ว แต่ละวัน...แต่ละคืน กว่าจะผ่านพ้นไปได้ ช่างน่าปวดหัวเสียจริงๆ