PSYCHO ROMANCE+
2
ฉันจับจ้องใบหน้าหล่อที่ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะผลักฉันให้ออกจากอ้อมกอด หมุนตัวเดินจากไปพร้อมกับควันบุหรี่ที่พ่นออกมาจากริมฝีปาก ฉันเม้มปากตัวเองมองแผ่นหลังกว้างที่เดินหายไป
“นายต่างหากเด็กบ้า ที่จะทนฉันได้สักกี่น้ำ!” เหอะ
ในเมื่อจัดการธุระของตัวเองเสร็จแล้ว ฉันเลยขับรถมุ่งตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อเดินช้อปปิ้งตามประสาคนสวย ฉันอยากได้ของทุกอย่างเลยนะ แต่ทว่าก็ต้องระงับตัวเองไว้ แค่นี้ที่คอนโดก็ไม่มีที่จะเก็บของฉันแล้วไง อีกอย่างเย็นนี้ฉันก็ต้องไปที่บ้านเด็กนั่นด้วย ถึงยังไงตอนนี้ปืนคือเด็กในปกครองของฉัน แหมทำไมดูเหมือนจะภูมิใจอะไรขนาดนี้นะ
“บัว”
“เอ๊ะ? อะ อาคิน” ฉันหมุนตัวไปตามเสียงเรียกก็ต้องตกใจกับร่างสูงที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ ใบหน้าหล่อยกยิ้มอย่างร้ายกาจ ฉันทำอะไรไม่ถูกถอยหลังจะหนีเขาแต่ทว่ากลับถูกร่างสูงของลูกน้องอาคินประคองเอวให้เดินไปหาเขาโดยที่ฝ่ามือแกร่งโอบเอวฉันไว้แนบชิดกับร่างสูงที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำหอม ฉันเงยหน้าสบตากับอาคินที่ยกยิ้ม
“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
“บัวไม่มี ปล่อย!”
“มีสิ เรื่องไอ้นับแสนไง?”
“!”
“พอจะมีเวลาคุยกับอาได้หรือยังหืม หลานรัก” น้ำเสียงเข้มและรอยยิ้มที่มุมปากทำให้ฉันไม่สามารถปฏิเสธเขาได้เลยสักนิด อาคินประคองเอวฉันไปห้องอาหารญี่ปุ่นที่เป็นห้องส่วนตัว เมื่อเข้ามาถึงฉันก็มองอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ตรงหน้า โหยน่ากินมาก! หรือว่าจะสั่งอาหารญี่ปุ่นไปกินที่บ้านปืนดีนะ
“กินสิ อารู้ว่าบัวชอบอาหารทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า”
“บัวไม่หิว”
“กินเถอะนะ อาไม่ใส่ยานอนหลับให้เรากินหรอก เชื่อใจกันหน่อยสิ”
“ก็เพราะว่าเคยเชื่อใจไง บัวถึงไม่กิน!” ฉันผลักถ้วยที่อาคินยื่นมาให้ ก่อนจะมองสบตากับเขาที่ยกยิ้มอย่างเหนือกว่า ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แบบนี้ฉันถึงระวังตัวให้ถึงที่สุดเรื่องของกินหรือแม้แต่การไปไหนมาไหนกับเขา ฉันกอดอกและสบตากับเขาที่ยกชาร้อนขึ้นดื่มด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มจนฉันกลืนน้ำลายลงคอ บ้าเอ่ย! ฉันเป็นพวกที่เห็นของกินไม่ได้นะ มักจะกินไปหมดทุกอย่างจริงๆ แต่ทว่าจะมาทำนิสัยเดิมๆ กับคนแบบนี้ไม่ได้ ประวัติก็เคยมีมาแล้วนะบัว และตอนนี้ก็ไม่มีใครมาช่วยเธอได้เหมือนแต่ก่อนนะ!
“อามีเรื่องจะคุยกับบัว? เรื่องพี่นับแสน”
“อ่า ใช่แล้ว... นับแสน ลูกชายดีไซน์เนอร์ชื่อดังของห้องเสื้อ NUBSAEN ที่ดังไปทั่วโลก ลูกชายคนโตของตระกูลริศรามรวุฒิ”
“!”
“อายุ 25 ปี จบการศึกษาจากมหาลัยชื่อดังของแอลเอ ตอนนี้เปิดห้องเสื้อที่แอลเอและกำลังจะมาเปิดห้องเสื้อที่ประเทศบ้านเกิด โสด นิสัยดี หล่อ สุภาพบุรุษ... โปรไฟล์เยี่ยมจริงๆ”
“อะ อาคิน อารู้ได้ยังไง?”
“ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ผู้ชายที่เข้ามาเกาะแกะบัวของอา อาไม่ปล่อยให้คลาดสายตาไปสักคน”
“อย่ายุ่งกับพี่นับแสน”
“ห้ามอาได้ด้วยเหรอ? ถ้าห้ามได้ ลองห้ามดูสิ บัวรู้ไม่ใช่เหรอว่าต้องห้ามอาด้วยวิธีไหน” สีหน้าของคนเจ้าเล่ห์ทำเอาฉันถึงกับกำหมัดตัวเองอย่างแนบแน่น สีหน้าบิดเบี้ยวจนเขาพอใจ อาคินลุกขึ้นมานั่งข้างฉัน โอบกอดเอวฉันให้เข้าไปใกล้กับเขา ใบหน้าหล่อใช้จมูกเขี่ยไปมาที่แก้มของฉันจนรู้สึกขยะแขยงเต็มทน
“วิธีที่อาต้องการบัวรู้ดี ให้อาได้ไหมล่ะ แล้วอาจะไม่ยุ่งกับมัน”
“อย่าบังคับให้บัวต้องใช้วิธีสกปรกแบบอาเลย!”
พลั่ก
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วบัวขอตัว และบัวมั่นใจด้วยว่าพี่นับแสนไม่ตกเป็นเหยื่อของอาง่ายๆ”
“บัว!”
“คราวไพเรท อาทำอะไรเขาได้หรือเปล่าล่ะ? ก็ไม่ พี่นับแสนไม่ใช่คนที่อาจะทำร้ายได้ง่ายๆ นะ อย่าคิดว่าตัวเองมีอำนาจคนเดียวสิ อาคิน” ฉันยิ้มให้กับร่างสูงที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ฉันเดินสวนเข้าไปแต่ทว่าถูกร่างสูงกอดเอวไว้พร้อมกับใบหน้าหล่อที่ซบหน้าลงกับซอกคอฉัน
“อือ ปล่อยนะ!”
“แล้วเราจะได้เห็นดีกันบัว... บัวบังคับอาเองนะ” คำพูดที่ทำให้ฉันตกใจแต่ก็พยายามบิดตัวให้หลุดจากอ้อมแขนแกร่ง จนกระทั่งมีเสียงมือถือของเขาที่ช่วยชีวิตฉันไว้
“ครับพี่บดินทร์ ได้ครับ อ่อตอนนี้น่ะเหรอ พอดีผมเจอบัวก็เลยพามากินอาหารญี่ปุ่น ให้กลับบ้านเหรอครับ? อันนี้ผมไม่รู้นะครับว่าบัวจะฟังที่ผมพูดหรือเปล่า” ฉันหมุนตัวไปมองอาคินที่ยกยิ้ม เขากำลังพูดปลายสายกับพ่อของฉัน ใช่ พ่อของฉันเอง พ่อที่ไว้ใจผู้ชายคนนี้ อาคินเดินตรงมาหาฉันก่อนจะโอบเอวฉันไว้แน่น เขารู้ดีว่าฉันไม่มีทางตะโกนบอกพ่อแน่ๆ ว่าเขากำลังทำอะไรฉันอยู่ตอนนี้
“ครับ บัวดื้อมากเลยครับ เดินหนีผมไปแล้วด้วย” อาคินแสยะยิ้มก่อนจะก้มใบหน้าลงมาจนฉันผลักอกแกร่งจนกระเด็นออกไป และตัวฉันก็ออกมาจากในห้องบ้าๆ นั่น ฉันหมุนตัวไปสั่งอาหารญี่ปุ่นชุดใหญ่และหลบมุมไปนั่งรออาหาร เมื่อเห็นว่าอาคินออกไปแล้วพร้อมกับลูกน้องก็โล่งใจออกมา ฉันหยิบมือถือมาโทรปลายสายที่อดเป็นห่วงไม่ได้
(“ครับผม”)
“พี่นับแสนจะมาหาบัวเมื่อไหร่คะ?”
(“อืม ตอนนี้พี่กำลังเตรียมตัวอยู่ ไม่เกินอาทิตย์หน้าแน่นอนครับ ทำไมคิดถึงพี่เหรอ?”)
“คิดถึงพี่นับแสนมากเลยค่ะ และก็เป็นห่วงมากเลยด้วย” ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่นับแสนฟัง แน่นอนว่าปลายสายเงียบไปจนฉันไม่สบายใจ แต่ทว่าเขาก็ทำให้ฉันชื่นใจขึ้นมาด้วยคำพูดต่อไปนี้
(“พี่ไม่สนหรอกครับ คนแบบนั้นทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก บัวต่างหากที่ต้องระวังตัวเข้าใจไหมครับ?”)
“บัวรู้แล้ว ถ้างั้นบัวไม่กวนพี่นับแสนแล้วล่ะ แล้วเจอกันนะคะ” พี่นับแสนวางสายไป แต่เป็นฉันต่างหากที่รู้สึกไม่สบายใจเลยกับสิ่งที่อาคินกำลังทำ รู้ไหมว่าเขาเคยทำให้ไพเรทเกือบโดนทำร้ายมาแล้ว แต่ไพเรทก็คือไพเรท หมอนั่นไม่ยอมให้ใครมาทำฟรีๆ ก็เลยสั่งสอนอาคินไปด้วยหมัดที่หนัก แต่ถึงแบบนั้นอาคินก็ไม่สนใจ ใส่ไฟไพเรทจนพ่อฉันเกือบจะไม่ให้เขาเข้าบ้าน แต่มีเหรอว่าฉันจะยอมให้เป็นแบบนั้น ไม่มีทาง... ถึงจะบอกเรื่องนี้กับพ่อและย่าไม่ได้ แต่ว่าฉันสามารถทำให้คนที่ถูกอาคินกล่าวหาบริสุทธิ์ได้ก็แล้วกัน