บทนำ

775 คำ
“หากไม่มีหัวใจเปลี่ยนภายในหนึ่งเดือน อาการของลูกสาวคุณพ่ออาจจะเข้าสู่ช่วงวิกฤต หมอไม่อยากพูดคำนี้ แต่อยากให้คุณพ่อทำใจเผื่อเอาไว้ เพราะอวัยวะส่วนนี้ น้อยคนจะบริจาค แถมยังเป็นส่วนน้อย ที่หัวใจจะเข้ากับเจ้าของใหม่ได้ ซึ่งเรื่องทุนทรัพย์เป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้การหาหัวใจเปลี่ยนยากยิ่งขึ้น…” โทนเสียงสุขุม อธิบายให้ญาติของคนไข้ ได้เข้าใจ ว่าการรักษาที่ดี ต้องมีความพร้อมในเรื่องทุนทรัพย์ ยิ่งเป็นโรคร้ายเกี่ยวข้องกับหัวใจ ยิ่งต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะครอบครัวนี้ ไม่ได้มีความพร้อม เป็นเพียงคนชนชั้นล่าง ที่หาเงินเลี้ยงปากท้องไปวันๆ มิหนำซ้ำ ยังต้องกู้หนี้ยืมสินนอกระบบ มาใช้จ่ายเป็นค่ารักษาลูกสาวคนโต ที่ป่วยเป็นโรคร้ายมานานกว่าห้าปี “พ่อครับ พี่หมวยจะตื่นขึ้นมาอีกไหมครับ?” เด็กชายอายุเพียงแปดขวบ เอ่ยถามผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แววตาเปี่ยมล้นไปด้วยความเศร้าหมอง เมื่อต้องเห็นพี่สาวเพียงคนเดียว นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงสีขาวมาร่วมอาทิตย์ แถมยังมีสายเจาะระโยงระยางเต็มตัวไปหมด “พ่อจะทำทุกวิถีทาง ให้พี่หมวยตื่นขึ้นมา พ่อสัญญา” ผู้เป็นพ่อให้คำมั่นสัญญาแก่ลูกชายตัวน้อย พร้อมกับยกฝ่ามือหยาบกร้าน ขึ้นลูบหัว พลางมองด้วยแววตาสั่นเครือ “คุณย่ามารับแล้ว ลูกกลับไปพร้อมคุณย่าก่อนนะ…” โทนเสียงไร้น้ำหนักบอกกล่าวกับลูกชาย ให้กลับไปพร้อมคุณย่า เพื่อที่ตนจะได้ไปหาวิธีการรักษาลูกสาว ซึ่งผู้เป็นแม่ก็มองลูกชายของตัวเอง ด้วยแววตาเศร้าหมอง เพราะรู้ดี ว่าเป็นเรื่องยาก ที่ลูกชายคนนี้จะหาเงินจำนวนมากมารักษาหลานสาว ทว่าความเป็นพ่อ ทำให้ ‘ลี’ ไม่ถอดใจเรื่องนี้ “พ่อต้องรักษาสัญญาให้ได้นะครับ” ลูกชายพูดทิ้งท้ายอย่างฝากความหวัง ก่อนจะปล่อยมือผู้เป็นพ่อ แล้วเดินจากไปพร้อมกับคุณย่า นั่นยิ่งทำให้ความตั้งใจของลี ทวีคูณเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ จะย่างกรายออกจากโรงพยาบาล แล้วรีบดิ่งไปหาใครบางคน ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน “คุณมินอยากบริจาคร่างกายเหรอคะ?” บทสนทนาดังกล่าว แว่วเข้ามาในหูชายร่างใหญ่ ที่ยืนคิดไม่ตกอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์คันเก่า ก่อนที่โทนเสียงอ่อนนุ่มจะตอบกลับ ซึ่งเจ้าของเสียงนั้น เป็นหญิงสาวหน้าตาใจดี “ใช่ค่ะ มินมีความตั้งใจที่อยากจะบริจาคร่างกาย เผื่อวันหนึ่ง มินไม่สามารถดูแลร่างกายนี้ได้แล้ว มินก็อยากจะให้ร่ายกายของมินเป็นประโยชน์แก่คนอื่น” คำพูดที่แสดงถึงทัศนคติที่ดีต่อเพื่อนมนุษย์ ทำให้ชายฉกรรจ์เกิดความรู้สึกสนอกสนใจ จนต้องเอียงใบหน้าไปมองหญิงสาวคนนั้น ที่นั่งสนทนาอยู่กับแพทย์สาวสวมใส่ชุดกาวน์สีขาวสะอาดสะอ้าน “รับทราบค่ะ เดี๋ยวพัตจะดำเนินการเรื่องนี้ให้นะคะ” “ขอบคุณนะคะหมอพัต” หญิงสาวที่เปรียบเสมือนนางฟ้าบนดิน กล่าวคำขอบคุณด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไร้ความกังวน ก่อนที่ทั้งสองจะเดินกลับเข้าไปในโรงพยาบาล เพื่อดำเนินการอย่างที่ตั้งใจไว้ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 เวลา 21.15 น. “เฮียทศรอมินก่อนนะคะ มินกำลังจะไปหา~” [ครับผม เฮียรอหนูได้ แต่รีบมานะ คิดถึงจะแย่] “ปากหวานจังเลยนะคะ ว่าที่สามีของใครเนี่ย~” น้ำเสียงอ่อนหวานตอบกลับอย่างอารมณ์ดี สีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข จ้องมองไปยังถนนเบื้องหน้า สลับมองจอโทรศัพท์ที่ขึ้นรูปคู่รัก ซึ่งคบมานานกว่าสิบปี “ว่าแต่เอ๋~ วันนี้มีเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานอีกหรือเปล่า” [ก็ขอทุกปี อยู่ที่ว่าหนูจะตอบตกลงเมื่อไหร่นั่นแหละ] “ฮ่า~ งั้นปีนี้ต้องตอบตกลงแล้วสินะ” [ถือว่าพูดแล้วนะ ห้ามเปลี่ยนใจด้วย] “คนของมินแสนดีขนาดนี้ จะเปลี่ยนใจได้ยังไงละคะ” [อือ~ เฮียรักหนูนะ] “หนูก็รัก…” ปรี้นนน! โครมมม! [มิน! ได้ยินเฮียไหม มิน!?] “เฮีย…” [มะ มินอยู่ที่ไหน บอกเฮียมา!] แฟนหนุ่มร้อนรน เมื่อได้ยินเสียงดังสนั่นจากปลายสาย ก่อนจะมีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบา เป็นการตอบกลับ . . . “มินรักเฮียทศนะคะ คนดีของมิน…” นั่นเป็นประโยคสุดท้าย ก่อนที่ลมหายใจของหญิงสาวจะหมดลง แล้วทิ้งศีรษะลงบนพวงมาลัยรถหรูเปื้อนเลือด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม