ตอนที่ 5 สัญญาณเตือน

1507 คำ
หลังจากผ่านมาหกเดือนชีวิตของฟ้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่ทอยก้าวเข้ามา เขามักจะมาหาเธอบ่อยครั้งและส่งข้อความมาเรื่อยๆ อยู่ในคอนโดก็ตีกันเป็นปกติ แต่เมื่อเจอกันข้างนอกก็ทำตัวเหมือนไม่รู้จักกัน ไม่ทักทายหรือพูดคุยกัน อาการของแม่ก็ยังคงไม่ดีขึ้นแต่เธอก็ยังเลือกที่จะยื้อต่อไป แม้ความหวังจะน้อยแต่ฟ้าก็ยังหวังที่จะได้แม่กลับคืนมาอีกครั้ง ถึงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม “ฟ้า วันนี้ไปเที่ยวด้วยกันไหม” เสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นระหว่างที่ฟ้ากำลังจะเดินออกจากห้องเรียน แพรวา เพื่อนร่วมคณะที่นิสัยดีมาก เธอได้รู้จักกับแพรวาเพราะงานกลุ่มที่อาจารย์สั่งเมื่อคราวที่แล้ว เพราะไม่ค่อยมีเพื่อน แพรวาที่ไม่มีคู่จึงได้มาจับคู่กับเธอ “ที่ไหนเหรอ” “ผับที่เปิดใหม่ฝั่งโน้นน่ะ” “ไม่ดีกว่า” ฟ้าไม่ค่อยอยากไปเที่ยวสักเท่าไรจึงปฏิเสธ ตั้งแต่มีเรื่องค่าใช้จ่ายฟ้าพยายามไม่เที่ยวกลางคืนและอยากดูแลตัวเองในช่วงติดสัญญากับทอยด้วยแต่เมื่อเห็นสีหน้าออดอ้อนของแพรวาก็ต้องคิดใหม่อีกครั้ง “ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ ถ้าเธอไม่ไป ฉันก็ไม่มีเพื่อนไปเลย” “...” “เถอะนะฟ้า” “ก็ได้” สุดท้ายเธอก็แพ้ให้กับลูกอ้อนของแพรวาและตอบตกลงมาเที่ยวกับแพรวาในที่สุด ฟ้าสวมเพียงเสื้อสายเดี่ยวสีดำกับกางเกงยีนตามปกติ ไม่หวือหวาหรือจัดเต็มเหมือนคนอื่น แต่ก็ดูเซ็กซี่ไม่เบา พอเข้ากับสถานที่ที่มา “ฟ้าไม่ดื่มเหรอ” แพรวาเอ่ยถามพร้อมยื่นแก้วเหล้าให้ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนคนอื่นๆ ที่มานั่งร่วมโต๊ะด้วย “ไม่ล่ะ” “งั้นก็ตามใจ” แพรวาไม่เซ้าซี้ต่อ ฟ้าไม่คิดว่าจะมีเพื่อนที่รู้จักมาเยอะขนาดนี้ ร่วมถึงนีน่าด้วยเช่นกัน แต่เห็นแก่แพรวาเธอเลยเลือกที่จะอยู่ต่อแทนที่จะกลับคอนโด “ว่าไงจ๊ะฟ้า” “...” “ได้ข่าวว่าแม่ยังอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย ค่าใช้จ่ายต่อเดือนในโรงพยาบาลเอกชนแบบนั้นน่าจะเป็นแสนเหมือนกันนะ เธอหาเงินมาจากไหนเหรอ” “เรื่องของฉัน” ฟ้าตอบอย่างไม่ใส่ใจ คนอย่างนีน่าไม่เคยคิดจะทำดีกับใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับเธอ ที่ถามแบบนั้นก็คงอยากจะหักหน้าเธอ แต่น่าเสียดายเพราะเธอไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอก “พูดอะไรของเธอนีน่า แม่เพื่อนป่วยแทนที่จะถามเพราะห่วงใย แต่ดันมาถามคำถามบ้าๆ อะไรก็ไม่รู้” “เอ้า ก็เพื่อนเธอไม่ใช่ลูกคนรวยสักหน่อย พ่อก็ตายไปแล้ว แม่ก็นอนโรงพยาบาลมาเป็นครึ่งปี จะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายได้ นอกจากขายตัว” “หุบปากเลยนะ ถ้าไม่อยากโดนฉันตบ” แพรวาออกตัวปกป้องฟ้าอย่างเต็มที่ พลางพุ่งตัวเข้าไปใกล้จนเกือบจะถึงนีน่าแต่ฟ้ารีบห้ามเอาไว้ก่อนเพราะกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ “อย่าเลยแพรวา ปล่อยให้หมามันเห่าไปเถอะ” “นี่แกว่าฉันเหรอ!” นีน่าตวาดเสียงด้วยความไม่พอใจ แต่ฟ้าก็ไม่ได้สนใจปล่อยให้อีกฝ่ายโมโหจนเป็นหมาบ้าไป “พอๆ จะทะเลาะกันทำไมเนี่ย” เพื่อนคนอื่นออกปากห้ามเมื่อนีน่าเริ่มส่งเสียงดังจนคนอื่นๆ ภายในผับเริ่มหันมามอง จนเจ้าตัวยอมสงบลง แต่ก็ยังคงส่งสายตาอาฆาตมองมาที่ฟ้าตลอดเวลา “แพรวา อยากกลับหรือยัง” “อืม กลับกันเถอะ รำคาญหมา!” หญิงสาวกระแทกเสียงคำสุดท้ายก่อนจะรีบพาฟ้าออกมานอกผับ ตอนนี้เกือบจะห้าทุ่มแล้ว ก็นับว่ายังไม่ดึกมากเท่าไหร่ “เดี๋ยวฉันกลับเอง” “กลับเองได้เหรอ” แพรวาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ได้สิ” ฟ้าพยักหน้าพลางส่งยิ้ม ก่อนที่แพรวาจะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไป ถนนฟุตบาทโล่งแต่มีแสงไฟจากยานพาหนะที่จราจรผ่านไปมาตลอดเวลา ฟ้าเดินไปตามทางอย่างเหม่อลอย ตลอดเวลาหกเดือนที่ผ่านมา เธอไม่ต้องทุกข์เรื่องเงินเลยสักนิด แต่กลับทุกข์ใจไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งนีน่าที่เอาแต่จ้องจะจับผิดเสมอและตัวเธอที่คิดถึงแม่มาก ครืด~ ครืด~ เสียงโทรศัพท์มือถือสั่นอยู่ในกระเป๋าดึงฟ้าที่กำลังเหม่อลอยให้ได้สติ พลางรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของโรงพยาบาลก็รีบรับสายอย่างมีความหวัง “สวัสดีค่ะ แม่ของฟ้าฟื้นแล้วเหรอคะ” ฟ้าเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ทำให้คนปลายสายกระอึกกระอักที่จะบอกข่าวกับญาติของคนไข้ไม่น้อย “คือว่า... คนไข้อาการทรุดหนักลง คุณหมอเลยให้ดิฉันติดต่อญาติมาที่โรงพยาบาลค่ะ” “ค่ะ” ฟ้าเอ่ยตอบเสียงสั่น พลางกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลเอาไว้ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ หุบลง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสั่นเครือ แต่ก็ไม่ลืมที่จะโบกแท็กซี่และรีบตรงไปที่โรงพยาบาลทันที ทันทีที่มาถึงโรงพยาบาลร่างเพรียวบางก็รีบพุ่งตัวลงจากรถและไปยังห้องไอซียู จนพบกับพยาบาลที่เป็นคนติดต่อเธอมายืนคู่อยู่กับคุณหมออีกคนหนึ่ง ด้านในห้องไอซียูมีร่างของแม่กำลังนอนแน่นิ่งและมีสายระโยงระยางเต็มตัว “คุณหมอคะ” น้ำเสียงไร้เรี่ยวแรงเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้สุดฤทธิ์แต่ก็ไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้ทั้งหมด “หมอไม่สามารถรับปากว่าจะยื้อคนไข้เอาไว้ได้อีกนานเท่าไหร่ อาการของคนไข้โคม่ามานานกว่าหกเดือนแล้ว ญาติทำใจไว้บ้างก็ดีนะครับ แต่ถึงยังไงหมอก็จะทำการรักษาอย่างสุดความสามารถ” “ค่ะคุณหมอ” ฟ้าพูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกจุกในอกทำให้เธอค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหน้าห้องไอซียู ดวงตาพร่าเบลอเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่อาจควบคุม ครืด~ ครืด~ ครืด~ เสียงโทรศัพท์สั่นสะเทือนขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอแทบจะไม่มีแรงหยิบมันขึ้นมารับสาย แต่นานเกือบครึ่งชั่วโมง ปลายสายก็ยังคงโทรมาไม่หยุดจนเธอเริ่มหยุดร้องไห้จึงหยิบมันขึ้นมา “ฮัลโหล” “เธออยู่ที่ไหน ฉันโทรหาเป็นร้อยๆ สายทำไมถึงไม่รับ” ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห เมื่อมาถึงคอนโดแต่กลับไม่พบหญิงสาวอยู่ที่ห้อง พอโทรหาก็ไม่รับสายอีก “ฮึก~ ฟ้าอยู่โรงพยาบาล” เสียงสะอื้นไห้ของเธอ ทำให้คนปลายสายใจกระตุกวาบ ก่อนจะตัดสายไปทันที ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ฟ้าที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาร้องไห้อยู่หน้าห้องไอซียูก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักที่วิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าเธอ “เธอเป็นยังไงบ้าง” ทอยที่รีบตามมาที่โรงพยาบาลเอ่ยถามขึ้นด้วยความห่วงใยพลางหอบหายใจด้วยความเหนื่อย ตอนแรกเขากะว่าจะมานอนกับฟ้า แต่พอเห็นเธอไม่อยู่ห้องและไม่ยอมรับสายก็โมโหจนแทบจะทำลายข้าวของในห้อง ทันทีที่ฟ้ารับสาย เขาคิดที่จะต่อว่าเธอ แต่เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้ เขาก็ใจอ่อนยวบลงทันที “หมอบอกว่าให้ทำใจไว้ก่อน” ฟ้าเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงไร้เรี่ยวแรง จิตใจเหม่อลอยจนคิดเรื่องอื่นไม่ออก นอกจากเรื่องหมอบอกกับเธอก่อนหน้านี้ “...” ทอยก็พูดอะไรไม่ออก เขาเป็นแค่คนนอกจะพูดอะไรกับฟ้าได้ จะให้ปลอบก็ปลอบไม่เป็นด้วย “คุณกลับไปเถอะ ฟ้าจะอยู่ที่นี่รอดูอาการแม่ก่อน” “อืม” แม้จะอยากให้ฟ้ากลับไปด้วยแค่ไหน แต่ก็เข้าใจดีว่าหญิงสาวคงต้องการอยู่ที่นี่ต่อเพื่อดูใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่เธอกลับไปกับเขา เธอก็คงจะทำใจกับเรื่องนี้ไม่ได้แน่ๆ ทอยยอมกลับไปแต่โดยดี ปล่อยให้ฟ้าอยู่ที่โรงพยาบาลต่อโดยไม่ทักท้วงอะไร ฟ้าที่เห็นว่าเขากลับไปแล้วก็เริ่มร้องไห้อีกครั้งอย่างไม่สนใจสายตาใคร เธอรู้ว่าการที่หมอบอกแบบนั้นหมายความว่าเธอไม่มีความหวังที่จะได้แม่กลับคืนมาอีกแล้ว “คุณหมอคะๆ” เสียงของพยาบาลวิ่งออกมาจากห้องไอซียู พร้อมกับวิ่งตรงไปหาหมอที่ประจำอยู่ที่ห้องพัก พยาบาลและคุณหมอต่างก็วิ่งกันวุ่นรีบมาที่ห้องไอซียู ‘แม่ จะทิ้งฟ้าไปจริงๆ เหรอ’ ฟ้าได้แต่คิดในใจพลางจ้องมองผู้คนที่วิ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉินและเสียงสุดท้ายที่เธอได้ยินก่อนที่ร่างกายจะค่อยๆ หมดเรี่ยวแรงล้มลงกับพื้น ติ๊ด! ติ๊ดดดดดดดด!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม