EP.4 : ลูกมาเฟีย

2905 คำ
“เฮ้อ เหนื่อยชะมัด ทำไมไม่เอาวิชาพลศึกษาออกจากระบบสักทีนะ” ชมพูแพรบ่นใหญ่ “นั่นสิเหนื่อยจะตาย การวิ่งรอบสนามเนี่ย ไม่ถูกโรคกับการออกกำลังกายจริงๆ” ฉันก็บ่นเช่นกัน “อะไรกันออกจะสนุก ได้ออกกำลังกาย” แทนคุณพูด “ใช่ มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แถมยังมีสาวๆ ให้มองเยอะอีก" พละต้องเรียนรวม ว่าแต่ทำไมสเตฟานพูดแบบนั้นนะ หรือกำลังสนใจใครอยู่ ถ้าเป็นเจ้าแทนคุณพูด ฉันจะไม่ติดอะไรเลย “พูดถึงสาวๆ ใส่เสื้อวอมแล้วตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เห็นทรวดทรงหมดเลยนะ น่าอายจัง” ฮารุกะเจ้าคนหัวโบราณ “แหมน่าอายอะไรกันเจ้าคนหัวโบราณ ดูอย่าง คุณอชิ ห้อง 4 สิ นั่นน่ะ คัพE เลยนะเว้ย ตัดภาพมามองคนแถวๆ นี้ แค่คัพB จะถึงหรือเปล่านะ ฮ่าๆๆ” แทนคุณพูดพลางหันไปมองชมพูแพร ปั๊ก เสียงมือกระทบกับไหล่ของแทนคุณ “ไอ่แทน ไอ้ปากปีจอ ของฉันนมันแค่ซ่อนรูปเว้ย ของฉันมันสไตร์โลลิน่ะ แกเข้าใจมั้ยโลลิน่ะ” ชมพูแพรโมโห ฟาดไม่หยุด “โอ๊ยๆๆ เจ็บๆๆ พอแล้วยัยแพร ไม่พูดแล้ว” “ฮ่าๆๆ ยัยแพรก็น่ารักในแบบของยัยแพร ว่าแต่ อชิ ก็ทรวดทรงดีจริงๆ แหละ น่าไปถ่ายนิตยสารแนวเซ็กซี่เนาะ” ฉันพูด “พูดถึงคนทรวดทรงดี กลุ่มเราก็มีคนหนึ่งนี่นะ ใหญ่ไม่แพ้ยัยอชิเลย ไม่สิน่าจะใหญ่กว่า น่าจะอยู่ที่คัพF เลยใช่มั้ยแก เซลลี่” “อ้อ ฉันหรอ อืม ก็นะ สงสัยเพราะพันธุกรรมแหละ บางทีฉันไปหาซื้อชุดชั้นในที่ห้างก็ยังไม่ค่อยมีไซด์ให้เลือกสักเท่าไหร่เลย ลำบากเหมือนกัน” ฉันตอบไปแบบไม่คิดอะไร “อะไรกันเธอมองว่าสิ่งที่พระเจ้าให้มาแบบนั้นเป็นเรื่องลำบากหรอ บาปนะแบบนั้น” ชมพูแพรทำหน้านิ่ว อ้อ แต่ว่านะพวกนาย เสาร์-อาทิตย์ นี้มาหมกตัวอยู่บ้านฉันไม่ได้แล้วนะ พอดีว่าที่บ้านรับงานใหญ่เข้ามาน่ะ ไม่ใช่งานซ่อม แต่เป็นงานโมดิฟลายส์ใหม่หมด เป็นงานรับหน้าหนาวที่จะจัดบูทสิ้นปีนี้แหละ บ้านฉันได้รับมอบมา 10 คันแหละ พวกพี่ๆ ฉันดีใจมากที่นานๆ ที จะมีงานใหญ่ขนาดนี้เข้ามา แถมยังเป็นงานโชว์อลังการอีกไม่น่าเชื่อว่าอู่ฉันจะถูกเลือก ฉันตื่นเต้นมากเลยนะ พวกพี่ฉันก็ตื่นเต้นมาก ฉันก็เลยคิดว่า จะปิดบ้านทำงานใหญ่น่ะ “อะไรกัน เหงาแย่เลยแบบนี้” แทนคุณทำหน้าเซง “นั่นสิ แต่จะทำไงได้งานสำคัญกว่า” ชมพูแพรยอมรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “ใช่ๆ พวกเรามาส่งกำลังใจให้บ้านเซเลน่าเถอะ” สเตฟานยิ้มอ่อนโยน “ว่าแต่ทำไมบ้านเธอถึงถูกเลือกกันนะ ถึงฉันจะไม่ค่อยสนใจกิจการที่บ้าน แต่งานนี้ก็ของเครือตะกูลโซมะนะ ได้ข่าวว่าจะมีบริษัทที่เป็นขาประจำได้รับงานนี้ทุกปีเลยนี่ ได้ข่าวว่าปีก่อนส่งไปตั้ง 20 คันแน่ะ ที่อื่นส่งมากสุดแค่ 10 คันเอง” ฮารุกะสงสัย “ใช่ๆ เป็นบริษัท T อะไรสักอย่างเนี่ย เห็นว่าเป็นพวกนักธุรกิจสีเทา พวกตลาดมืด พวกอะไหล่รถเถื่อน แถมยังทำธุรกิจมากมายในย่านเริงรมย์อีกต่างหากนะ เห็นว่ามีเรื่องฟอกเงินอีก มาปล่อยงานให้แบบนี้น่าสงสัยจัง พวกเธอต้องระวังตัวนะ” ไม่ผิดหวังกับคลังสมองของสเตฟานจริงๆ แหะ หมอนี่เก่งแล้วก็รอบรู้มาก “อะไรกันพวกนี้ก็พูดเกินกันเกินไป ไม่มีหลักฐานสักหน่อยว่าเขาทำแบบนั้นจริง” แทนคุณเริ่มพูด “นี่เซลลี่ เธออยากให้ช่วยสืบมั้ย บริษัทของพ่อฉันไม่เพียงแต่รับส่งบอดี้การ์ดนะ ยังทำงานสืบสวนด้วยแหละ” บ้านสตีฟสินะ “อาาา ไม่หล่ะ สเตฟาน ฉันไม่อยากรู้หรอก แค่เขามอบโอกาสให้ขนาดนี้ บ้านฉันก็ดีใจมากแล้วแหละ จะได้ลืมตาอ้าปากกันสักที นี่พวกนายรู้มั้ย ค่าสัญญาสูงถึง 7 หลักเชียวนะ ถึงจะปลดหนี้ไม่หมด แต่ก็พอช่วยให้หายใจคล่องขึ้น ฮ่าๆๆ” “อ่าา เธอว่ายังไงฉันก็ว่าอย่างนั้น” สเตฟานรับฟังอย่างว่าง่าย ที่ บริษัทTK (Talk แทนคุณ) “นายน้อยครับ งานที่นายน้อยให้ผมส่งมอบงานโชว์แต่งรถ ให้อู่เล็กๆ นั่น 10 คันผมทำให้แล้วนะครับ ปีนี้เราจะลงแค่ 10 คันนะครับ เพราะแบ่งให้เขาไปแล้ว 10 คัน” เสียงชายชราในชุดสูทเอ่ยขึ้น “อืม ขอบใจ” ภายในห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เด็กหนุ่มรูปงาม ดวงตาเฉียบคมสีบลูแซฟฟลายส์ เส้นผมดำ ดวงตาของเขาประหนึ่งจะดึงดูดทุกสายตา เอามารวมกันไว้ในสายตาคู่นั้น เขาเป็นทายาทหนึ่งเดียวของ บริษัท TK กรุป ผู้ครอบคลุมทุกธุรกิจสีเทาในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ทั้งธุรกิจบ่อนกาสิโน ธุรกิจอาบ อบ นวด ผับบาร์ร้านอาหาร อะไรก็ตามที่เป็นสีเทา หรือกึ่งสีเทา จะมี บริษัทนี้มีชื่ออยู่เสมอ ธุรกิจสีขาวที่เอาบังหน้าก็แค่ ส่วนประกอบในการฟอกเงินทั้งนั้น ดีหน่อยที่ยังไม่ไปจับพวกยาเสพติด เพราะตรงนั้นก็มีเจ้าใหญ่ถือครองอยู่ พวกเขาถือคติไม่ยุ่งธุรกิจกัน แล้วธุรกิจของบ้านเด็กหนุ่ม ก็ดำเนินมาแล้ว 3 ช่วงอายุคน มาถึงเขาก็รุ่นที่ 4 แล้ว “ช่วยส่งคนไปสืบหน่อยว่าอู่นั้นขาดเหลืออะไรอีก ฉันจะส่งพวกเครื่องมือ หรืออะไหล่ไปให้” “ครับนายน้อย” ชายชรารับปากแล้วเดินออกไป บ้านเขามีกฎอยู่ว่าห้ามถามหรือเอ่ยวาจาเกินความจำเป็นกับผู้เป็นเจ้านาย ทุกคนในบ้านเพียงรับคำสั่งแล้วทำตามอย่างดีก็พอ วันๆ ฉันที่อยู่กับพวกผู้หญิงที่แต่งหน้าจัด และรักสวยรักงามตลอดเวลา ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเรื่องมาก ไม่ใช่ว่าพวกเธอไม่ดีนะ แต่ฉันคงเบื่อพวกประเภทนี้แล้วแหละ ฉันเจอเธอเหมือนฉันได้เจอสิ่งแปลกใหม่ เธอที่เปล่งประกาย ตอนเจอเธอครั้งแรกฉันก็คิดว่าเธอคงไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงพวกนั้น แต่พอได้ทำความรู้จัก เธอช่างแตกต่างและเป็นตัวของตัวเอง กล้าพูดกล้าทำ และที่สำคัญ เธอยังยอมรับในตัวฉันที่เป็นคนเลวแบบนี้ ฉันคิดว่าถ้าเป็นเธอ คงยอมรับลูกมาเฟียอย่างฉันได้แน่นอน (จริงๆพูดเว่อเกินไปหน่อย อย่างบ้านแทนคุณไม่ถึงกับเรียกว่ามาเฟียหรอก) สักวันหนึ่งฉันจะบอกเธอ ฉันนั่งคิดอยู่แบบนั้น จนเสียงเคาะประตูดังขึ้น “นายน้อยครับ มีเพื่อนมาหาครับ” ชายชราเอ่ยปาก ที่ฝั่งตรงข้ามของประตูแต่ไม่กล้าเปิดเข้าไป “หา เพื่อนหรอ ใครน่ะ ฉันไม่มีเพื่อนที่รู้จักบ้านของฉันนะ” “ไฮ พวกเราเองไง ไอ้แทน” สเตฟานเอ่ยท่าทางยิ่มแย้ม หลังจากถือวิสาสะ เปิดประตูเข้ามาเอง “หวัดดี” ฮารุกะทักทายแบบนิ่งๆ “นะ นี่พวกนายมากันได้ยังไงเนี่ย” “ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าพ่อฉันเป็นบริษัทนักสืบ ฉันกังวลเรื่องนี้น่ะ แล้วก็เป็นห่วงบ้านของเซเลน่าด้วย สงสัยมากๆ เลยล่ะว่าทำไม บริษัทมาเฟียอย่างนี้ ถึงมาช่วยอู่เล็กๆ ของยัยนั่นนะ ยิ่งคิดยิ่งสงสัย แล้วก็ตามสืบจนมาเจอนายนี่ไง” “เห้อ นายเนี่ยนะ นายไม่เท่าไหร่ แต่ฉันแปลกใจที่ฮารุก็เออ ออ กับหมอนี่ด้วยนะสิ” “อืม ฉันก็เป็นห่วงเซเลน่าน่ะ เลยตามมา เป็นนายฉันก็โล่งใจ” “โห แล้วนี่นายเป็นทายาทมาเฟียงั้นหรอ ฉันไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ไอ้แทนถ้าฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจ นายจะจับฉันนั่งยางมั้ยเนี่ย” สเตฟานทำสีหน้าจริงจัง “โอ๊ย ไอ้เจ้านี่ คำก็มาเฟีย สองคำก็มาเฟีย บ้านฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย แค่ทำธุรกิจสีเทาเอง ไม่ได้เป็นมาเฟียสักหน่อย อย่าไปเชื่อข่าวลือมากนักเลย” “อ้าวงั้นหรอ ฮ่าๆ” “ไหนๆ ก็มาแล้ว มาดื่มกันหน่อยมั้ยละพวกเรา” “อะไรกันพวกเรายังเป็นนักเรียน ม.ปลาย อยู่เลยนะ นั่นมันผิดกฎหมายนะ” ปากบอกแบบนั้นแต่ สเตฟานก็ตื่นเต้น “ทำได้สิถ้าอยู่ในอาณาเขต บ้านฉัน” “เอาสิ ฉันอยากดื่มกับพวกนายนะ” ฮารุกะตอบนิ่งๆ “เป็นแค่นักเรียน ม.ปลาย ริอ่านจะดื่มเหล้ากันรึ เอ้านี่ จิบแค่ชาดำก็พอ” เสียงแสนหวานที่แฝงไปด้วยความดุดัน ผมที่ถูกรวบตึงในชุดสูทแสนสง่า สายตาที่มองมายังพวกเด็กหนุ่มอย่างดุดัน แม่ของแทนคุณนั่นเอง “ดีนะที่แม่เดินไปถามพ่อบ้านก่อนว่าพวกลูกสั่งอะไรกันมากิน จริงๆ เลยเจ้าลูกคนนี้ แม่แค่อยากมาทักทายพวกเพื่อนๆ ของลูกน่ะ แม่ดีใจที่ลูกมีเพื่อนสักที” เธอพูดพลางรินน้ำชาให้เด็กหนุ่มทั้งสาม “วันๆ ลูกเอาแต่หมกตัวอยู่กับพวกผู้หญิง แม่ล่ะกังวลใจมาก ช่วงนี้ที่ลูกเปลี่ยนไปเพราะมีเพื่อนที่ดีสินะ เพราะฉะนั้นอย่าทำตัวชวนเพื่อนให้เสียคนล่ะแทน” จากสีหน้าอ่อนหวาน พอถึงคราวออกคำสั่ง ละก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “มะ แม่ ก็พูดเกินไป ผมไม่ได้เป็นขนาดนั้นสักหน่อย” “ไม่ต้องเกรงใจนะเด็กๆ เดี๋ยวแม่สั่งทำอาหารมาให้เชิญตามสบายเลยจ้า ^-^” ใบหน้ากลับมาเป็นปกติตอนหันมาคุยกับเพื่อนของลูก “ว่าแต่ แม่ได้ยินมาว่า ลูกมีเพื่อนในกลุ่มมากกว่านี้นะ ทำไมไม่พามาล่ะ แม่อยากเจอจัง คราวหลังพามานะ” “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ออกไปได้หรือยังครับ แทนจะคุยกับเพื่อน” “จ้าๆ อยากได้อะไรก็เรียกนะ” เธอเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี “ว่าแต่นายจะบอกพวกเราเมื่อไหร่ เรื่องบ้านของนายน่ะ” ฮารุกะถามนิ่งๆ “อืม ฉันก็ไม่ได้อยากปิดอะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่า ฉันกลัวพวกนายรับไม่ได้กันน่ะ ข่าวลือของบ้านฉันดังออกไปในทางที่ไม่ดีเยอะมาก ฉันกลัวพวกนายเลิกคบ โดยเฉพาะยัยนั่น ฉันไม่อยากดึงมาพัวพันน่ะ” โป๊ก เสียงเขกหัวดังขึ้น “นี่นายเห็นพวกเราเป็นเพื่อนแค่ไหนกันว่ะ เจ้าแทนคุณ คำว่าเพื่อนสำหรับนายมีค่าแค่นี้เองหรอ คิดว่าพวกฉันจะเลิกคบกับนายเพราะบ้านนายทำธุรกิจสีเทาหรอ ยิ่งยัยเซเลน่ายิ่งไปใหญ่ คิดว่ายัยนั่นเป็นคนอ่อนไหวขนาดนั้นหรอ” สตีฟโมโห “ใช่ แทนคุณ เหมือนนายกำลังดูถูกพวกเรานะ พวกเราไม่ได้คบกับแทนคุณแสนดีสักหน่อย พวกเราก็คบกับแทนคนแสนเลว ผู้หักอกสาวๆ ครึ่งโรงเรียนมาแล้วนี่ไง กับแค่เรื่องธุรกิจทางบ้าน ไม่ทำให้เราเลิกคบนายหรอก” ฮารุกะพูดเสริม “โอ๊ย แล้วนายจะมาเขกหัวฉันนทำไมเนี่ยสเตฟาน” “ก็มันน่าโมโหนี่ คำว่าเพื่อนของพวกเรามันมีค่าแค่นี้เองหรอ” “ขอโทษ ขอโทษ ผิดไปแล้วครับ” “รู้ตัวก็ดีแล้ว แล้วก็ไปบอกพวกเซลลี่ซะ ถึงจะตกใจ แต่เธอรับนายได้แน่นอน” “อืม ขอบใจนะ” เด็กหนุ่มรับปากแต่ภายในใจยังเป็นกังวลไม่หาย เธอจะรับฉันได้จริงๆ มั้ยนะ เขาได้แต่คิดในใจ ติ้งต่อง ติ้งต่อง เสียงออดดังขึ้นภายในอู่เล็กๆ ของบ้านฮาร์ฟ ใครกันเนี่ย ฉันคิดในใจ “วันนี้ร้านปิดค่ะ” ฉันเปิดประตูออกไปแล้วพูดโดยไม่ได้มองหน้า “เอ้า แทนคุณ ฉันบอกนายแล้วไม่ใช่หรอว่าไม่รับแขก เดี๋ยวก็มาชวนพวกพี่ๆ ฉันเล่นเกมจนไม่เป็นอันทำงานอีก” “เปล่าๆ ฉันแค่จะแวะมาส่งเสบียง แล้วก็แวะมาคุยแป๊บเดียวน่ะ” เด็กหนุ่มชูถาดไม้ที่ข้างในเต็มไปด้วยซูชิขึ้น “ว้าวเสบียงแหละทุกคน” ไมเคิ้ลพูดด้วยน้ำเสียงสดใส พลางถือวิสาสะ หยิบถาดซูชิไปเองโดยไม่สนโลก “โหนี่มันซูชิร้านดังเลยนะเนี่ย ฉันเคยไปเล่นดนตรีหน้าร้านนี้คนแน่นมากเลย น้องแทนไปซื้อมาได้ยังไงเนี่ย” มัวร์พูดเสริม “โหซูชิ ลาภปากชะมัด ขอบใจมากเจ้าแทนคุณน้องรัก” นี่เลออนน้องนายยืนอยู่นี่ต่างหาก “ขอบคุณมากนะครับน้องแทน เข้ามาก่อนสิครับ” แจ็คสันพี่คนโตเอ่ยชวน “เอ่อไม่เป็นไรครับ ผมไม่รบกวนขนาดนั้น ผมแค่แวะมาครับ แล้วก็มีเรื่องจะคุยกับเซลลี่ เราไปนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟฝั่งนู้นมั้ย” แทนคุณเอ่ยชวนฉัน “ได้สิ แต่ฉันขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ ตัวเหม็นเหงื่อแล้วก็เปื้อนหมดแล้ว” “ไม่เป็นไร เธอไปแบบนี้แหละ แค่นี้ก็ดูดีแล้ว” “โอเค โอเค รอแป๊บ ขึ้นไปหยิบกระเป๋าบนบ้านก่อนนะ” “อะไรกันน้องแทนจะสารภาพรักกับเซลลี่ของเราหรอ อิอิ” มัวร์เอ่ยแซว “หนุ่มสาวก็แบบนี้แหละน้าา ฮ่าๆ” แจ็คสันเหมือนจะเลยวัยนั้นมาแล้ว ก็เอ่ยเสริม “แต่น้องเรา ไม่ค่อยมีเซนต์เรื่องนี้ด้วยสิ น่าเป็นห่วงแหะ” ไมค์เคิ้ลกังวล “ถ้านายทำเซลลี่ร้องไห้ฉันจะฆ่านายซะ” เลออนทำหน้าดุ “อะไรกัน ป่าวนะครับพวกพี่ๆ ผมแค่จะมาคุยเรื่องอื่น ไม่ได้มาสารภาพสักหน่อย >//ที่ร้านกาแฟ “เซลลี่ ฉันมีเรื่องจะบอกน่ะ” “อื้อ ฉันพร้อมฟังอยู่นี่ไง” ฉันพูดพลางดื่มกาแฟ อร้ายย กาแฟที่นี่อร่อยฟินเหมือนเดิมเลย “ถ้าฉันบอกว่าบ้านฉันเป็นตะกูลมาเฟียเธอจะคิดว่าไง” “หา!!!!! มะ มาเฟีย ฮ่าๆๆ นายจะบอกว่าบ้านนายคือบริษัท TK อะไรนั่นที่โยนงานหลักล้านเข้ามาให้บ้านฉัน แบบน่าสงสัยที่สเตฟานพูดถึงนะหรอ ฮ่าๆๆๆ” ฉันพูดพลางไม่เชื่อว่านั่นคือความจริง “อืม” เขาตอบมาแบบนิ่งๆ และไม่กล้าสบตา “จะ จริงหรือนี่ โอ้โห บ้านนายเป็นแบบนั้นจริงๆ หรอ โอ้โห ไม่อยากจะเชื่อ โอ้โห นี่ฉันเป็นเพื่อนกับลูกมาเฟียงั้นหรอ” ฉันพูดคำว่าโอ้โห ออกไปจนนับครั้งไม่ถ้วน “น่าทึ่งจังเลยแหะ นี่ถ้าฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจจะโดนจับนั่งยางมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ” “บ้ารึเปล่า คิกๆ เธอนี่พูดเหมือนเจ้าสเตฟานเลย” เด็กหนุ่มรู้สึกถึงความเดจาวูนั่น “ว่าแต่เธอไม่กลัวหรอ” “กลัวหรอ กลัวทำไมล่ะ ไม่กลัวหรอก ฉันจะกลัวเพื่อนที่ช่วยเหลือฉันและมอบโอกาสให้บ้านฉันตั้งมากมาขนาดนั้นทำไมกันล่ะ แค่นอยด์นิดๆ เหมือนฉันจะรู้เป็นคนสุดท้ายหรือเปล่านะ เรื่องของนาย” “อืม หลังจากพวกเจ้าสเตฟานรู้ก็คงโทรไปบอกยัยแพรแล้ว แต่กับเธอไม่ว่ายังไงฉันก็อยากมาบอกด้วยตัวเองน่ะ” “นี่ นายเก็บใว้มาคนเดียวตั้งหลายเดือนน่ะ คงกังวลมากสินะ ขอโทษนะแทน ที่ไม่เคยได้ถามนายออกไปเลย เก็บใว้คนเดียวเหนื่อยมากสินะ พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ เพื่อนหมายถึงว่าเราไม่ได้แชร์แค่ความสุขร่วมกันนะ เราแชร์ความทุกข์ร่วมกันบ้างก็ได้นะ คราวหลังอย่าเก็บใว้คนเดียวแล้วมาพึ่งพวกฉันเถอะ” ฉันยิ้มให้แทนคุณเหมือนก่อน แต่ทำไมหมอนี่หน้าแดงบ่อยจังแฮะ “อืมขอบใจนะ แต่ว่าถ้าเธอรู้แล้วเอ่อ ฉันก็อยากชวนเธอไปเที่ยวบ้านน่ะ แน่นอนว่ายัยแพรด้วย พอดีแม่ฉันอยากเจอเพื่อนฉันน่ะ” “โอ้โห บ้านมาเฟีย จินตนาการไม่ออกเลยแฮะ ได้สิ ” “ไม่ใช่มาเฟียสักหน่อย ฮ่าๆ” แค่ได้ยินเธอพูดแบบนั้น ความกังวลในใจผมก็หายไปหมด จากที่พอรู้อยู่ว่าคนแบบเธอ ไม่มีทางรังเกียจหรือกลัวผม มันยิ่งทำให้มั่นใจขึ้นไปอีกว่าผมชอบเธอจนหมดหัวใจแล้ว เซเลน่า “งั้นฉันกลับก่อนนะ ทำงานก็สู้ๆ นะ” “ได้ไว้เจอกันที่โรงเรียน ขอบคุณสำหรับซูชินะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม