มาลีลากพระพายมาที่โรงอาหารคณะวิทยาการสารสนเทศได้สำเร็จ และขอร้องให้พระพายอยู่ให้กำลังใจเธอก่อน เพราะนี่เป็นการสารภาพรักครั้งแรก หากผิดหวังอย่างน้อยมาลีก็จะมีคนคอยปลอบใจ
มาลีดึงแขนพระพายไปจนถึงโต๊ะที่กลุ่มของพายุนั่งทานข้าวอยู่ ทั้งสี่หนุ่มมองสาวน้อยสองคนที่มายืนด้วยความสงสัย
“ว่าไงครับ มีธุระกับพี่พายุเหรอครับสาวๆ พี่พายุกำลังอกหักอยู่พอดี” ฮังเลถามขึ้น พายุเงยหน้าจากจานข้าวมองเพื่อนรักตาขวาง เขาไม่มีอารมณ์จะมาสนุกในตอนนี้
พระพายมองหน้าของพายุแล้วยิ่งหงุดหงิด
‘อกหักหรือหักอกคนอื่นมากันแน่’ พระพายนึกประชดประชันในใจ ไม่อยากแสดงสีหน้าโกรธเกลียดออกมาตอนนี้ กลัวมาลีเสียเรื่อง เลยหันหน้าไปทางอื่นก่อน
“หนูมีธุระกับพี่กั้งค่ะ” มาลีบอกตามตรง พยายามไม่แสดงอาการเคอะเขินออกมา
“มีอะไรครับน้อง” กั้งถามอย่างสงสัย
“หนูชื่อมาลีนะคะ อยู่คณะบริหารปีสาม หนูชอบพี่กั้งค่ะ ชอบมาสองปีแล้ว หนูแค่อยากมาบอกความในใจก่อนที่จะเรียนจบ ขอบคุณที่รับฟังนะคะ” มาลีบอกแล้ววิ่งปรู๊ดออกไปทันที
เดิมความตั้งใจแรกนั้น มาลีจะมาสารภาพรักและขอเบอร์โทรเขา แต่เธอทนเก็บอาการเขินไม่ไหวลืมขอเบอร์โทรของกั้งแล้วรีบวิ่งออกไป
กั้งมองอย่างงงๆ แล้วก็ยิ้มออกมา
พระพายยืนงง ที่เพื่อนทิ้งเธอไว้แล้ววิ่งหนีไปอย่างนั้น พอนึกได้ก็กำลังจะเดินตามมาลีไป
“เดี๋ยวครับน้อง” กั้งเรียกเธอไว้
“คะ” พระพายหันกลับไปถาม
“คือ...เอ่อ... พี่ขอเบอร์โทรเพื่อนน้องหน่อยได้หรือเปล่า” กั้งบอกอย่างเขินอาย ฮังเลกับแหนมยิ้มแซวเพื่อน ส่วนพายุยังคงก้มหน้าเศร้าอยู่กับจานข้าวตรงหน้า เขี่ยไปมากินไม่หมดสักที
“อ๋อ ค่ะ” พระพายค้นกระเป๋าหยิบกระดาษโพสอิทสีเหลืองขึ้นมาเขียนเบอร์โทรของมาลีให้กับรุ่นพี่หนุ่ม
พายุมองโพสอิทสีเหลืองแล้วพาลนึกถึงนิสา เขามองหน้าพระพายแล้วนึกขึ้นได้ว่าเมื่อสักครู่เพื่อนของเธอแนะนำว่าเรียนคณะบริหาร คณะเดียวกับนิสา แต่ไม่รู้ว่าจะใช่สาขาเดียวกันหรือเปล่า
“คณะบริหารชอบพกกระดาษโพสอิทเหมือนกันจัง แต่ไม่รู้ว่าจะชอบคบซ้อนเหมือนกันหรือเปล่า” พายุขึ้นขึ้นลอยๆ เสียงเรียบ
พระพายหน้ามุ่ยไม่พอใจ แต่เก็บอาการต่อหน้ากั้งไม่อยากให้มาลีเสียคะแนนนิยม แต่ก็อดแขวะพายุเบาๆ ไม่ได้
“พี่มีอดีตกับเด็กบริหารเหรอคะ” พระพายพูดแล้วยิ้มให้เขา
“.....” พายุวางช้อนลง มองหน้าพระพายนิ่ง แล้วลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นเพราะรู้สึกเหมือนโดนแทงใจดำ เขายังไม่แข็งแรงพอในตอนนี้
พระพายยื่นเบอร์โทรของมาลีให้กั้งแล้วเดินตามมาลีออกไปทันที
***************************
มาลีนั่งกระสับกระส่ายอยู่ที่ม้าหินอ่อนข้างตึกคณะ พระพายเดินมาพร้อมถุงขนมปังและนม ยื่นให้มาลีหนึ่งชุด เพราะทั้งคู่ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยง เพราะมัวแต่พามาลีไปสารภาพรักกับรุ่นพี่ต่างคณะ
“วิ่งออกมาไม่รอฉันเลยนะแก” พระพายบ่นให้เพื่อนสนิท
“ก็มันเขินอะแก เนี่ยฉันลืมขอเบอร์โทรพี่เขาเลย ดันวิ่งออกมาแบบนั้น โอ้ย ใครจะกล้าไปขอเบอร์โทรอีกรอบเนี่ย” มาลีบ่นอย่างเสียดาย แกะกินขนมปังไปถอนหายใจไป
พระพายยิ้ม ไม่ยอมเฉลยว่ากั้งของเบอร์มาลีไว้แล้ว และตัดสินใจว่าจะไม่บอกมาลี กลัวว่าจะเป็นการให้ความหวังเธอ กลัวเธอรอเก้อถ้ากั้งไม่โทรกลับมา
พระพายนั่งกินขนมปังกับนมเงียบๆ อมยิ้มอย่างพอใจ แล้วเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจเมื่อนึกถึงคำพูดของพายุที่ว่าคณะบริหารชอบคบซ้อน
‘หึ คอยดูเถอะ แม่จะเอาให้เจ็บเลย’ พระพายนึกในใจ
พายุและเพื่อนๆ กำลังจะเดินไปเรียนที่ตึกคณะสังคมศาสตร์ ไม่ได้ขับรถไปเพราะหาที่จอดยาก ปกติพวกเขาต้องเดินผ่านคณะวิทยาศาสตร์เพื่อตรงไปยังคณะสังคมศาสตร์ แต่ครั้งนี้กั้งขอให้เปลี่ยนเส้นทางเดินอ้อมมาทางคณะบริหารแทน
กั้งตื่นเต้นที่มีคนมาสารภาพรักครั้งแรกในชีวิต ใจเต้นแรงและอยู่ไม่สุขจนเพื่อนๆ ต้องบอกให้ตั้งสติ
“เก่งแต่เรื่องเรียน พอเจอสาวมาสารภาพรักถึงกับสั่นจนไปไม่เป็น สติครับเพื่อน สติ” แหนมบอกกั้งก่อนจะเดินมายังคณะบริหารตามที่เขาขอ
ทั้งสี่หนุ่มเดินผ่านคณะบริหาร เห็นสองสาวนั่งกินขนมปังกับนมอยู่ม้าหินอ่อน พวกเธอไม่สังเกตเห็นพวกเขาเดินมา
พายุมองพระพายอย่างหงุดหงิด กับคำพูดที่เธอแทงใจดำของเขา สักพักก็มีผู้ชายเดินไปหาพวกเธอที่โต๊ะ กั้งส่งสัญญาณให้เพื่อนๆ หยุดดูสถานการณ์ก่อน ทุกคนเลยต้องตามใจกั้ง แล้วเดินอ้อมไปแอบดูใกล้ๆ อยู่แถวมุมตึกใกล้ๆ
“น้องพายครับ เย็นนี้ว่างมั้ยครับ พอดีพี่อยากชวนไปทานร้านอาหารเปิดใหม่แถวหลังมอ พี่เลี้ยงเอง” ชายหนุ่มพูดขึ้น พระพายและมาลียกมือไหว้เขาตามมารยาท
“ไม่ว่างค่ะพี่อิ๊กคิว ขอบคุณนะคะที่ชวนพาย” พระพายบอกยิ้มให้ตามมารยาท เขาตามจีบเธอมาตั้งแต่ปีหนึ่ง และชอบทำเจ้าชู้ใส่ตลอด แต่สลัดไม่หลุดสักที เพราะติดคำว่าพี่รหัส
“โห ใจร้ายจัง” อิ๊กคิวพูดขึ้นมา
“ถ้าเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงทั้งสายรหัสดิพี่ นี่จะเลี้ยงแต่ไอ้พาย มันไม่ไปหรอก” มาลีพุดขึ้น อิ๊กคิวทำหน้านิ่ง มาลีชอบขัดเขาเสมอ
“พายครับ พี่อยากไปกับพายแค่สองคน พายก็รู้ว่าพี่คิดยังไงกับพาย” อิ๊กคิวเรียกบอก นั่งลงข้างๆ ดึงมือพระพายที่เพิ่งกินขนมปังเสร็จมากุมมือไว้ พระพายตกใจชักมือออกแต่เขาจับมือเธอไว้แน่น ทุกอย่างอยู่ในสายตาสี่หนุ่ม กั้งจะเข้าไปช่วยแต่ฮังเลดึงเอาไว้ ให้รอดูสถานการณ์ก่อน
มาลียัดขนมปังใส่ปังเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วดูดนมอึกใหญ่ตามเข้าไป แล้วลุกขึ้นยืนจ้องหน้าอิ๊กคิวไม่ลดละ
“ปล่อยมือพายนะคะพี่อิ๊กคิว” มาลีพูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว พระพายพยายามดึงมือออกแต่อิ๊กคิวก็ไม่ยอมปล่อย
มาลีเดินไปตีที่มือเขาแล้วแกะมือออกจากการเกาะกุม อิ๊กคิวจำเป็นต้องปล่อย แล้วลุกขึ้นยืนจ้องหน้ากับมาลีอย่างไม่ลดละ
“เป็นรุ่นน้องรู้จักเคารพรุ่นพี่บ้างนะเว้ย”
“รุ่นพี่ชีกอแบบนี้มันน่าเคารพตรงไหนว่ะพี่ อย่าใช้คำว่าพี่รหัสมาบีบให้คนอื่นต้องเกรงใจได้ป่ะ อยากให้คนอื่นเคารพก็หัดทำตัวให้น่าเคารพซะบ้าง” มาลีเถียงอย่างไม่ลดละ เธอไม่ชอบให้ใครมารังแกเพื่อนของเธอ
มาลีเก็บขยะใส่ถุงแล้วถือกระเป๋า ดึงแขนพระพายที่นั่งเงียบให้เดินขึ้นไปยังตึกเรียน เพราะตอนนี้คนเริ่มมองเยอะแล้ว
“เดี๋ยว” อิ๊กคิวเรียกพวกเธอไว้ แล้วเอามือแตะไหล่มาลี
มาลีจับแขนเขาบิดแล้วจับไพล่หลังไว้
“ไม่สนิทอย่ามาแตะตัว” มาลีบอก แล้วปล่อยมืออิ๊กคิว ก่อนจะจูงมือพระพายเดินขึ้นตึกไป
กั้งมองภาพเหตุการณ์ด้วยความอึ้ง พูดไม่ออกว่ารู้สึกยังไงกับภาพที่เห็น อีกใจก็ตกใจ อีกใจก็รู้สึกว่ามาลีไม่เหมือนใครดี
“เอาล่ะ ไอ้กั้ง เด็กแกโหดว่ะ” ฮังเลพูดขึ้น
พายุมองคณะบริหารแล้วพาลนึกถึงนิสาขึ้นมาก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา เขาเลยเดินนำหน้าเพื่อนไปที่คณะสังคมศาสตร์ แหนม ฮังเล และกั้งเลยต้องรีบเดินตามออกไป ทั้งสามคนเดาว่าผู้หญิงคนล่าสุดที่หักอกเพื่อนเขานั้น คงเป็นสาวคณะบริหารอย่างไม่ต้องสงสัย
‘แกควรเปลี่ยนฉายา เป็นคาสโนว่าอาภัพรัก’ แหนมเคยบอกไว้ตอนที่รู้ใหม่ๆ ว่าพายุเลิกกับแฟนคนล่าสุด แต่ครั้งนี้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
***************************
หลังเลิกเรียนในภาคบ่าย พระพายกับมาลีก็นัดกันไปเดินซื้อของที่ตลาดนัดถนนคนเดินที่จัดขึ้นที่หลังโรงอาหารกลางในมหาวิทยาลัย ก็เจออิ๊กคิวเดินมากับเพื่อนในกลุ่ม ตรงมาหาทั้งสองสาว
พวกเธอยกมือไหว้รุ่นพี่ตามมารยาท แล้วอิ๊กคิวมีท่าทีมาก้อร่อก้อติกพระพายจนมาลีหงุดหงิดแทนเพื่อน เพราะพระพายนั้นเกรงใจในฐานะพี่รหัสเลยไม่กล้าจะต่อว่าเขาแรงๆ ซึ่งอิ๊กคิวก็ใช้จุดอ่อนเรื่องความขี้เกรงใจของเธอมาเข้าหาเธอแบบนี้อยู่เรื่อยๆ
“น้องมาลีไปเดินทางนู้นกับพี่ๆ มั้ย” เพื่อนของอิ๊กคิวพยายามจะพามาลีไปอีกทาง เพื่อเปิดทางให้อิ๊กคิว
“ไม่ค่ะ หนูอยากเดินกับพระพาย ขอตัวนะคะ พอดีรีบ” มาลีบอกรุ่นพี่ด้วยความสุภาพ แล้วดึงแขนพระพายออกไปจากตรงนั้น
อิ๊กคิวดึงแขนพระพายไว้ คนละข้างกับมาลี ตอนนี้เลยเหมือนพระพายโดนยื้อแย่งจากทั้งสองคน
“พี่อิ๊กคิว พายเจ็บ ปล่อยเถอะค่ะ” พระพายพูดขึ้นมา
“เห้ย อิ๊กคิว ปล่อยน้อง” เพื่อนๆ ของอิ๊กคิวพยายามห้าม พวกเขารู้ว่าอิ๊กคิวชอบพระพายมาก แต่การแสดงออกนั้นมันจะทำให้พระพายตกใจกลัวมากกว่าจะรับรัก
“พี่เหลือเวลาอีกเทอมเดียวนะพาย พี่ต้องเคลียร์กับพายให้รู้เรื่อง พี่ชอบพาย พี่อยากคบกับพาย” อิ๊กคิวบอก ยังไม่ยอมปล่อยมือพระพาย
“พายคิดกับพี่อิ๊กคิวแค่พี่ชายค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” พระพายบอก อิ๊กคิวทำหน้าตาผิดหวัง ทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“ลองคบกันดูสักเดือนก่อนก็ได้ ถ้าไม่ใช่ พี่จะไม่ตามตื้อเลย” อิ๊กคิวขอโอกาส
“พี่ไม่เข้าใจเหรอ เพื่อนหนูไม่ได้ชอบพี่ ปล่อยมือพายได้แล้ว” มาลีบอกแล้วมาแกะมืออิ๊กคิวออกจากพระพายแต่แกะไม่ออก
“อย่าเปรี้ยวให้มากนะมาลี” อิ๊กคิวบอก
“เห้ย น้องก็พูดถูก ปล่อยแขนพายได้แล้ว” เพื่อนในกลุ่มของอิ๊กคิว เตือนสติเขา
“ใช่ครับ คุณควรปล่อยน้องของผมได้แล้ว” พายุพูดขึ้น แล้วเดินไปดึงแขนของพระพายข้างที่อิ๊กคิวจับไว้ ขึ้นมาจับไว้แทน
พระพายอึ้งอยู่เลยยังพูดอะไรไม่ออก ส่วนมาลีพอเห็นกั้งที่เดินมากับพายุก็ลดท่าทีลง ไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอแก่นแค่ไหนที่ยืนต่อล้อต่อเถียงกับรุ่นพี่
“น้อง?” อิ๊กคิวหันไปถามพระพายที่ยืนนิ่งอยู่
“งั้นขอตัวพาพายออกไปเลยนะครับ พอดีผมรีบ จองร้านอาหารไว้แล้ว” พายุบอกแล้วจูงมือพระพายให้เดินตามหลังไป กั้งกับมาลีก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ ทิ้งพี่รหัสของพระพายให้ยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น
พอถึงลานจอดรถพระพายก็สะบัดแขนออก ด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ
“คนอุตส่าห์ช่วย คำว่าขอบคุณไม่มีสักคำ” พายุบอกเสียงเรียบ ถ้ากั้งไม่ขอร้องให้ยื่นมือเข้าช่วย เขาคงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสาวคณะบริหารคนนี้แน่
“ช่วยด้วยการบอกว่าฉันเป็นน้องแล้วจูงแขนมาเนี่ยเหรอ” พระพายบอก
“อายุน้อยกว่าไม่ใช่หรือไง ถ้าไม่ให้บอกว่าน้อง จะให้บอกว่าแฟนหรือไง แล้วแทนตัวเองให้มันเพราะๆ รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่บ้าง” พายุพูดขึ้นมา
“ค่ะ ขอบคุณพี่ที่ช่วยพายนะคะ” พระพายบอกขอบคุณเสียงเรียบ
กั้งกับมาลียืนมองทั้งคู่ต่อปากต่อคำกัน ก่อนที่พระพายจะดึงมาลีให้เดินไปขึ้นรถของตนที่จอดอยู่อีกแถว พอมาลีขึ้นรถก็นึกขึ้นได้อย่างเสียดาย
“โอ้ย ลืมขอเบอร์พี่กั้งอีกแล้ว อุตส่าห์บังเอิญได้เจอ” มาลีบ่นออกมาเสียงดัง จนพระพายอารมณ์ดีขึ้นมาด้วยความขบขันในท่าทีของเพื่อนสนิท แต่ก็ไม่ยอมเฉลยเรื่องที่กั้งเป็นฝ่ายขอเบอร์โทรเธอเอาไว้แล้ว
***************************