พายุไปรับนิสาออกไปทานข้าวอยู่หลายครั้ง โดยเลือกร้านอาหารที่สงบและมีความเป็นส่วนตัวเสมอ แต่หากมีใครถามพายุก็จะบอกว่ามากับรุ่นน้อง ซึ่งนิสาเองก็ยอมรับในจุดนั้นและไม่ขัดอะไร
พายุเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าที่นิสาคิด เขาไม่เคยฉวยโอกาสเธอเลยสักครั้ง และดูแลเธอดีมากทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงลองคบกันดูเท่านั้น
ก่อนถึงวันวาเลนไทน์ พายุตามขึ้นมาส่งนิสาที่หน้าห้องพักของนิสาตามปกติเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาขอเข้าไปในห้องเพื่อคุยธุระสำคัญ พายุตัดสินใจขอนิสาเป็นแฟน โดยมีข้อตกลงว่าอย่าบอกใครเรื่องที่คบกัน แต่ไม่ได้บอกเหตุผลจริงๆ กับนิสาว่าเพราะอะไร ได้แต่บอกให้เธอเชื่อใจเขา และรอหลังเรียนจบและเข้าทำงาน ตอนนั้นเขาสัญญาว่าเขาจะเปิดเผยเรื่องนิสากับทุกคนแน่นอน
“สารับข้อตกลงระหว่างเราได้มั้ย” พายุถาม จับมือของนิสามากุมเอาไว้
“ได้ค่ะ สาตกลงค่ะ” นิสารับปากด้วยความยินดี แล้วยิ้มให้เขาอย่างมีความสุข
“ศุกร์นี้วันวาเลนไทน์ พี่พาสาไปทานข้าวไม่ได้นะ แต่พี่ขอชดเชยเป็นวันเสาร์แทนได้มั้ย” พายุบอกนิสา
“สาไม่คิดมากเรื่องนั้นหรอกค่ะ สารู้ว่าพี่พายุมีเหตุผล งันวันเสาร์สั่งอาหารมาทานที่ห้องสาดีกว่านะคะ เราจะได้คุยกันนานๆ” นิสาออกความเห็น พายุก็เห็นด้วย ลึกๆ รู้ว่ามันคือการเชิญชวนทางอ้อมจากแฟนสาวหมาดๆ
***************************
วันวาเลนไทน์มาถึง พายุและเพื่อนๆ ยังคงได้รับความนิยมจากบรรดาสาวๆ ในมหาวิทยาลัย ดูได้จากสติ๊กเกอร์ที่ติดทั่วตัวจนไม่มีที่ให้ติด ฮังเลและแหนมเลิกเรียนแล้วมีแผนออกไปกับแฟนสาวตามนัด สร้างความอิจฉาให้กับคนโสดอย่างกั้ง ที่ยังไม่มีใครมาสนใจเขาเลย
“เบื่อพวกมีแฟน แต่ไม่เป็นไร ฉันยังมีไอ้พายุโสดเป็นเพื่อนอีกคน” กั้งพูดขึ้นมา
พายุได้ยิ้มก็อดขำออกมาเบาๆ ไม่ได้
“เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าแก...มีแฟนใหม่แล้ว” ฮังเลถามพายุ
“อืม” พายุยอมรับ เขาไว้ใจบอกเรื่องนี้กับเพื่อนในกลุ่มเท่านั้น
“โอ๊ย! ชีวิตอันรันทดของไอ้กั้ง” กั้งบ่นออกมาทันทีที่รู้ว่าพายุมีแฟน
“คนมาติดสติ๊กเกอร์ให้เยอะแยะ ไม่จีบเอาสักคนล่ะว่ะ” แหนมบอก
“ทุกคนที่มาติดเพราะว่า ฉันอยู่กลุ่มพวกแกหรอก จะมีใครมาสนใจฉันจริงจังว่ะ” กั้งพูดอย่างน้อยใจ
“แกชอบคิดแบบนี้แหละ ไม่ยอมเปิดใจ ไม่กล้าจีบสาว แล้วชาตินี้จะมีแฟนมั้ย” แหนมบ่นให้กั้ง
“กั้งมันรอคนมาจีบมันไง มันอยากหล่อเลือกได้เหมือนฉัน” พายุพูดขึ้นเล่นเอากั้งเบ๊ะปากใส่อย่างหมั่นไส้
“หรือไอ้กั้งมันชอบผู้ชายว่ะ” ฮังเลพูดขึ้นมา
“ชอบบ้านแกสิ เตะปากแตกเลย” กั้งบอกแล้วตบหัวแหนมเบาๆ
“ไอ้ฮังเลพูด แกมาตบฉันทำไมเนี่ย” แหนมพูด เอามือคลำหัวตรงที่โดนตบป้อยๆ
“มันอยู่ไกล เลยตบแกแทน” กั้งพูด
“โสดแล้วพาลนี่หว่า” แหนมพูดขึ้น เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนในกลุ่มได้เป็นอย่างดี
***************************
ทางด้านของกลุ่มสาวๆ คณะบริหารธุรกิจ ก็ไม่น้อยหน้า นิสาและพระพายได้รับสติ๊กเกอร์และดอกไม้จากหนุ่มๆ พอสมควร และนิสาปฏิเสธคนที่มาขอคบเธอในวันนี้ออกไปด้วยเหตุผลที่บอกว่ามีแฟนแล้ว พระพายก็เช่นกัน เธอมีหนุ่มๆ มาสารภาพรักถึงสองคน แต่ก็ปฏิเสธไปเพราะพระพายยังไม่อยากมีแฟนตอนนี้
ส่วนมาลีนั้นถึงไม่ได้มีคนมาสารภาพรักและมาลีก็ไม่สนใจ แต่เธอก็ไม่ได้ต้องการอยู่แล้ว เพราะมาลีถือคติว่า ‘ถ้าชอบ จะจีบเอง’
นิสาไปกินข้าวหลังเลิกเรียนกับเพื่อนในกลุ่ม จนพระพายต้องถามด้วยความสงสัย
“ไหนบอกว่ามีแฟนแล้ว ทำไมว่างมากินข้าวกับพวกฉันในวันวาเลนไทน์ได้” พระพายถามขึ้น
“ก็วันนี้แฟนไม่ว่างนี่นา” นิสาบอก
“แกก็ดีเนาะ ไม่งอแง ไม่เรียกร้อง ชักอยากเห็นผู้ชายผู้โชคดีคนนั้นแล้วสิ” มาลีพูดขึ้น
“ถึงเวลาเดี๋ยวฉันบอกพวกแกเอง” นิสาบอกแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข
***************************
วันเสาร์ พายุมาหานิสาที่ห้องในช่วงสายๆ และซื้ออาหารเข้ามา รวมทั้งขนมและเครื่องดื่มอีกด้วย
“ทานข้าวเสร็จเดี๋ยวดูหนังกัน พี่เอาหนังมาจากบ้านด้วย สาน่าจะชอบ” พายุบอก นิสายิ้มอย่างพอใจ
ทั้งสองแกะอาหารจัดใส่จานแล้วทานกันอย่างเอร็ดอร่อย พูดคุยในถึงเรื่องสัพเพเหระกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ นิสาเก็บจานไปล้าง ส่วนพายุยกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของนิสาขึ้นมาแล้วเตรียมเล่นแผ่นหนังที่เอามารอนิสามาดูด้วยกัน
นิสาเดินมานั่งลงข้างๆ พายุ พายุเปิดหนังแนวโรแมนติคคอมเมดี้ให้นิสาดู พอถึงฉากไคล์แม็กซ์ พายุก็หยิบสร้อยคอออกมาจากกระเป๋า ชูไว้ตรงหน้านิสา
นิสามองสร้อยตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น ไม่คิดว่าพายุจะมีมุมโรแมนติคแบบนี้ด้วย
“พี่เลือกเองเลยนะ สาชอบมั้ย” พายุถาม นิสาพยักหน้า พายุสวมสร้อยให้เธอ นิสาหอมแก้มขอบคุณเขา
“สาไม่มีอะไรให้พี่พายุเลย” นิสาบอก
“ไม่เป็นไร” พายุบอก โอบไหล่นิสาให้มาซบที่ไหล่ของเขาแล้วดูหนังต่อด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นเต้น
พอหนังตรงหน้าดำเนินถึงฉากจูบซึ้งๆ นิสาก็หันไปสบตากับพายุที่มองมาที่เธอด้วยความตื่นเต้น แล้วต่างฝ่ายต่างโน้มหน้าเข้าหากันเหมือนมีแรงดึงดูด
ทั้งสองจูบกันเนิ่นนาน พายุใช้ริมฝีปากบดปากเธอเบาๆ แล้วกอดเธอไว้ในอ้อมแขน ใช้มือลูบไล้ไปมา แทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากแล้วตวัดลิ้นพันกันไปมาจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบ ไปพร้อมๆ กับการใช้มือปลดตะขอเสื้อชั้นในออกได้อย่างง่ายดาย แล้วสอดมือเข้าไปเค้นเต้างามนั้นอย่างเบามือ
พายุผละออกจากนิสามองตาเธอนิ่ง แววตาของทั้งคู่มีความต้องการไม่ต่างกัน พายุช้อนอุ้มเธอไปวางที่เตียงนอนกลางห้องแล้วต่างคนต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกจนหมด
พายุมองร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าด้วยความปรารถนาแล้วพุ่งเข้าจู่โจจมอย่างรวดเร็ว นิสาครางเบาๆ ในลำคออย่างมีความสุขกับสัมผัสที่ได้รับ พายุพรมจูบไปทั่วร่างกายของเธอ ก่อนจะใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในช่องคับแคบที่ตอนนี้มีน้ำใสๆ เยิ้มออกมา พายุชักนิ้วเข้าออก นิสากลั้นเสียงคราง ได้แต่ครางในลำคอเบาๆ ยกแขนวางข้างหัวแล้วใช้มือจิกหมอนแน่น บิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่าน ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อเจอแท่งกำยำที่ใหญ่กว่านิ้วสอดเข้ามาแทนที่
พายุขยับสะโพกย่างเบามือ แล้วก้มจูบปากเธอไปพร้อมๆ กับการขยับสะโพกเข้าออก นิสาจูบตอบและครางในลำคออย่างพอใจ
พายุลุกขึ้นแล้วจับนิสาให้นอนตะแคง ยกขาข้างหนึ่งให้ลอยสูงขึ้นแล้วแทรกตัวคร่อมขาด้านล่างไว้ สอดแท่งร้อนนั้นเข้าไปอีกรอบแล้วซอยถี่ๆ จนนิสาหลุดครางเสียงดังออกมาก่อนจึงดึงหมอนมาปิดปากตัวเองไว้แล้วครางใส่หมอนอย่างบ้าคลั่งทุกครั้งที่เขากระแทกสะโพกลงมา แล้วปลดปล่อยออกมาอย่างสุขสม
พายุลุกขึ้นไปหยิบถุงยางที่อยู่ในกระเป๋าเงินมาสวมใส่ แล้วจับนิสานอนหงาย แยกขาออก ยกขาขึ้นข้างหนึ่งให้ยันที่หน้าอกเขา แล้วซอยท่านั้นอยู่สักพักจนนิสามีอารมณ์ร่วมอีกรอบ ก่อนจะเร่งความเร็วแล้วปลดปล่อยความสุขออกมาพร้อมๆ กัน
พายุถอดถุงยางโยนทิ้งแล้วดึงนิสามากอดและหอมอย่างทะนุถนอม
“สัญญานะว่าจะรอพี่ ไม่เกินสองปี พี่สัญญา” พายุบอก นิสารับคำแล้วหอมแก้มเขา นอนกอดกันอย่างมีความสุขท่ามกลางเสียงเพลงปิดท้ายของหนังที่เปิดทิ้งไว้
ผู้ชายในฝัน ชายหนุ่มที่สาวๆ ในมหาวิทยาลัยหลายคนหมายปอง ตอนนี้เขาอยู่กับเธอ เขาเป็นของเธอ ถึงบอกใครไม่ได้ แต่นิสาก็สุขใจที่ได้คบกับเขา เธอไม่สนว่าเขามีเหตุผลอะไรที่ห้ามเปิดเผยสถานะ นิสาขอแค่เขาอย่านอกใจเธอก็พอ
***************************
นิสาคบกับพายุย่างเข้าเดือนที่สองแล้ว และอยู่ในสถานะแฟนได้ครบหนึ่งเดือนแล้ว การสอบปลายภาคกำลังมาถึง นิสาต้องกลับบ้านในช่วงปิดเทอมเพื่อกลับไปช่วยแม่ดูแลยายที่ป่วยติดเตียง พายุเข้าใจและไม่ได้รั้งเธอไว้ คิดว่าห่างกันบ้าง จะได้คิดถึงกัน
พระพายนัดติวกันกับนิสาและมาลี ที่บ้านของพระพาย นิสาทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะแล้วไปเข้าห้องน้ำ ส่วนมาลีก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์กับพ่อของเธอที่โทรหาลูกสาวด้วยความคิดถึง
สักพักก็มีสายเรียกเข้าจากพายุ แต่พระพายไม่ได้รับสายยให้นิสา แอบคุ้นชื่อนี้อยู่ในใจ แล้วนึกออกว่าคือหนุ่มคาสโนว่าชื่อดังในมหาวิทยาลัยที่นิสาเคยบอกว่าปลื้มนักหนา
พอไม่มีคนรับสายพายุเลยตัดสินใจส่งไลน์หานิสา และข้อความทุกอย่างปรากฏแก่สายตาของพระพาย เธอมั่นใจว่านิสาคบกับคาสโนว่าคนนี้แน่นอน
เมื่อนิสาออกมาจากห้องน้ำ และพบว่าพายุส่งข้อความมาหา แล้วมองหน้าพระพาย ที่กำลังจ้องมาทางเธอ
“สาคบกับพี่พายุเหรอ” พระพายถามตรงๆ เธอเป็นห่วงนิสา กลัวเพื่อนโดนทิ้งเหมือนข่าวลือที่มีคนเล่าต่อๆ กันมาว่าพายุเจ้าชู้และไว้ใจไม่ได้
นิสาตกใจไปนิดหนึ่ง ไม่รู้จะโกหกพระพายยังไง เลยตัดสินใจยอมรับตรงๆ
“พาย อย่าบอกใครนะ เราขอร้อง แม้กระทั่งมาลีด้วย” นิสาขอร้องพระพาย
“ไม่ใช่ว่าเราไม่ไว้ใจมาลีนะ แต่เราอยากให้คนรู้น้อยที่สุด” นิสาบอก
“อืม เราไม่บอกใครหรอก แต่ข่าวพี่แกไม่ดีนัก สาก็รู้” พระพายเตือนเพื่อนรัก
“แต่ตัวจริงพี่พายุเป็นคนดีมากเลยนะพาย ไม่ได้เป็นอย่างในข่าวที่ลือกันมาเลยนะ พี่พายุเป็นสุภาพบุรุษมาก และไม่เจ้าชู้เลย” นิสาพยายามอธิบายความจริงให้พระพายฟัง
พระพายได้แต่ส่งยิ้มและพยักหน้าให้นิสาสบายใจ แต่ในใจนั้นคิดว่าพายุคงกำลังเล่นละครหลอกให้นิสาตายใจ คบกันใหม่ๆ อาจจะยังไม่ออกลาย ส่วนนิสาก็คงถูกความรักบังตาจนมองไม่เห็นข้อเสียของคนรักที่มีฉายาคาสโนว่าติดตัวมา
‘ไม่มีมูล หมามันไม่ขี้หรอก’ พระพายคิดในใจถึงที่มาของฉายาของพายุ แล้วอดห่วงเพื่อนไม่ได้
“มีอะไรก็เล่าให้เราฟังได้นะสา อย่าเก็บไว้คนเดียว” พระพายบอกนิสาแสดงความห่วงใย
มาลีเดินเข้ามาทั้งสองจึงเปลี่ยนเรื่องคุย ไปคุยเรื่องการสอบแทน เพื่อไม่ให้มาลีสงสัยว่ากำลังคุยเรื่องอะไรอยู่
***************************