น้ำอบขนกระเป๋าเข้าห้องพัก ห้องของเธอยังอยู่สภาพเดิมๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร บ้านนี้มี 3 ห้องนอน มีห้องน้ำในต้วทุกห้อง ปู่กับย่านอนห้องเดียวกัน อีกห้องเป็นห้องรับแขก และห้องของน้ำอบ มีครัวแยกไปทางหลังบ้าน ห้องน้ำหลังบ้านอีกห้อง อยู่กันสามคนก็ถือว่ากว้างมากๆ ปู่เกับย่า เคยบอกน้ำอบว่า จะยกบ้านหลังนี้ให้เธอ เพราะสงสารที่ไม่เคยได้อะไรกับเขาเลย ย่ากับปู่รู้มาว่า บ้านที่กรุงเทพฯ พ่อกับแม่ยกให้พี่น้ำหอม ส่วนบ้านที่ให้คนเช่า อีกแห่งให้น้ำปรุง เหลือแต่เธอที่ยังไม่ได้อะไร
พ่อกับแม่พูดประมาณว่า พี่สาวคนโตของเธอ เป็นความภาคภูมิใจ รับราชการ มีหน้ามีตา พ่อกับแม่ภูมิใจมาก น้ำปรุงก็เป็นความภาคภูมิใจ เพราะเป็นลูกชาย สืบสกุล ส่วนน้ำอบ พ่อกับแม่ให้เหตุผลว่า เดี๋ยวน้ำอบก็แต่งงานไปอยู่กับสามี เดี๋ยวสามีก็รับผิดชอบเอง ช่วยกันสร้างเดี๋ยวก็มี แต่ท่านทั้งสองอาจลืมไปว่า พี่น้ำหอมก็เป็นผู้หญิง แต่งงานออกไป สามีก็เป็นข้าราชการ มั่นคงทั้งคู่ มั่นคงกว่าน้ำอบมาก ช่างเถอะ เธอไม่อยากคิดมาก ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ไม่คิดดีกว่า
ใช่ว่าเธออยากจะได้บ้านหลังนี้ เธอไม่รับอยู่แล้ว เธออายุยังน้อย ความรู้ก็มี วุฒิปริญญาตรีบัญชีของเธอ กับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้ทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ เงินเดือน ก็ไม่น้อยเลย พ่อกับแม่ก็ยังไม่พูดถึง ท่านทั้งสอง นิ่งๆ กับเรื่องของเธอ ไม่ยินดี ยินร้ายอะไร
ไม่เป็นไรหรอก เธอก็อยู่ของเธอได้ น้ำอบมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง หญิงสาวไม่หวือหวา ไม่ใช้แบร์ดเนม ไม่แต่งตัว ไม่ฟุ้งเฟ้อ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำให้ใช้จ่ายไม่เปลืองมากนัก น้ำอบได้ความขยันมาจากปู่กับย่า ทำงานหาเงินเองตั้งแต่เด็ก เลยไม่ค่อยลำบากเรื่องเงินมากนัก
น้ำอบคิดว่า ถ้าอาการของย่าดีขึ้น เธอจะออกหาสมัครงาน ถึงจะมีงานบัญชีที่เธอรับทำอยู่บ้าง แต่ถ้ามาอยู่ที่นี่แล้วลูกค้าอาจน้อยลง ต้องหางานเพิ่ม เธอพอที่จะรู้จักเพื่อนๆ อยู่บ้าง ไม่น่าจะยากหรอก สำหรับการหางาน แต่ช่วงนี้ขออยู่ดูแลย่าให้แข็งแรงก่อนละกัน
หญิงสาวจัดการกับห้องนอน ทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถู ล้างห้องน้ำ ปัดกวาดเช็ดถูครัว ทั้งหมด เธอชอบทำงานบ้าน ชอบย้ายบ้าน จัดบ้าน อ่านหนังสือ เย็บปักถักร้อยของเธอไป กว่าจะเสร็จก็เหนื่อยเหมือนกัน ฝุ่นเยอะ ต้องเปลี่ยนผ้าม่านหน้าต่าง ผ้าปูที่นอนใหม่ทั้งหมด น้ำอบเป็นคนสะอาด และมีระเบียบ เลยทำนานหน่อย
“ปู่ไปไหนแล้วคะย่า” น้ำอบถามหาปู่เปลว เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้ว และออกมาที่ห้องน้่งเล่น
“ลงสวนแล้วลูก เห็นบอกว่า มีกล้วยสุกหลายเครือ คงไปตัดกลัวยแหละ น้ำอบเหนื่อยไหมลูก" ย่าปรางเป็นห่วงหลานสาว
"หายไปนาน สงสัยทำความสะอาดข้างแน่ๆ ใช่ไหมลูก”
“ใช่ค่ะย่า น้ำอบทำความสะอาดในห้องใหม่หมดเลย ฝุ่นเยอะมากค่ะ ต้องทำเดี๋ยวภูมิแพ้ขึ้น ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ นี่ย่ามีกับข้าวเย็นหรือยังคะ “
“น่าจะมีแกงเลียงกับน้ำพริกเหลืออยู่นะลูก เมื่อวานปู่ออกไปซื้อมาจากร้านในตลาดสด ตั้งแต่ย่าหกล้ม ก็ไม่ได้ทำกับข้าวเลย ซื้อข้างนอกตลอด ก็อร่อยของเขาอยู่นะ แต่ย่าก็ยังไม่ค่อยชิน ไม่เหมือนเราทำกินเอง หิวเหรอลูก หิวก็ไปหากินก่อนเลยนะ ค่ำๆ โน้นแหละ ย่าถึงจะกิน เพิ่งกินกลางวันไปก่อนหน้าน้ำอบจะมาแป๊ปเดียวเองลูก”
“งั้นย่าพักผ่อนดูทีวีไปก่อนนะคะ เดี๋ยวน้ำอบไปดูก่อนว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง ปู่จะได้ไม่ต้องออกไปซื้อ มืดค่ำอันตรายค่ะ”
น้ำอบเดินเข้าครัวไป เธอชอบครัวบ้านย่า กว้างขวางดี ปู่กับย่าทันสมัย ท่านทำบ้านไว้รอลูกหลาน เวลามารวมตัวกัน ซึ่งจริงๆ แล้วแทบจะไม่มาครบกันเลย ครอบครัวเธอก็เกือบจะกลายเป็นคนกรุงเทพฯ ไปแล้ว ป้าที่อยู่ปัตตานี ก็นานๆมาครั้ง ลุงอีกคนที่อยู่ต่างประเทศยิ่งแทบไม่กลับบ้านเลย โชคดีสมัยนี้มีโทรศัพท์ สามารถโทรคุยเห็นหน้าเห็นตากัน ทำให้คนแก่คลายความคิดถึงลูกหลานบ้าง
ยิ่งสมัยนี้วีดีโอคลอคุยกันมองเห็นหน้ากันได้แบบนี้ ลูกหลานก็เหมือนยิ่งห่างเหินกัน ไม่คิดถึงกันมาก เพราะถือว่า เวลาคุยกันก็ได้เห็นหน้ากันเหมือนจริงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาบ่อยๆ ก็ได้ มันก็มีทั้งผลดีและผลเสีย
แต่น้ำอบไม่ได้คิดแบบนั้น ไม่เหมือนมาเห็นตัวกันเป็นๆ เธอคิดถึงเธอก็อยากไปหา ไปพูดคุยกันตัวเป็นๆ เลย ต่างคนก็ต่างความคิด เรื่องแบบนี้ว่าใครไม่ได้
หญิงสาวสำรวจวัตถุดิบในตู้เย็น มีวัตถุดิบพอที่จะทำอาหารสำหรับมื้อเย็นให้ปู่กับย่ากิน เธอจัดการทำแป๊ปเดียวก็เสร็จเสร็จร้อย หญิงสาวมีพรสวรรค์ในการทำอาหาร และขนม เป็นความชอบส่วนตัว กับข้าว และขนมไทย เธอทำได้หลายอย่าง จริงๆ น้ำอบอยากไปเรียนทำขนมฝรั่งบ้าง เพราะเธอชอบ ตั้งใจว่าจะไปเรียน แต่มาติดที่ต้องมาดูแลย่าเสียก่อน ดีที่เธอยังไม่ได้ลงเรียน และยังไม่ได้จ่ายเงิน ซึ่งจริงๆ เธอไปดูที่เรียนไว้แล้ว ไม่งั้นเสียดายแย่เลย หญิงสาวใช้เงินเป็น ละเอียดรอบคอบ
“ย่าคะ น้ำอบทำข้าวต้มขาว ยำไข่ดาว ผัดผักบุ้งไฟแดง ทอดปลาตัวเล็ก มีไข่เค็ม ด้วยค่ะ มื้อเย็นกินเบาๆ นะคะย่า พรุ่งนี้ย่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ น้ำอบทำให้กินค่ะ”
“ดีจริงๆ เลยนะน้ำอบเอ้ย ย่านี่คิดถึงหนูตลอดเลยลูก มีน้ำอบอยู่ด้วย สบายไปร้อยอย่าง “ ย่าปรางเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่มีความสุข หัวใจของคนแก่ค่อยชุ่มชื่นขึ้นมาบ้าง จะว่าไป อยู่กันสองคนอายุมากด้วยกันทั้งคู่นางก็รู้สึกเหงา ไม่มีลูกหลานมาอยู่ด้วย นางดีใจที่ลูกชายนางบอกว่าจะส่งลูกสาวคนกลางให้มาอยู่ดูแลปู่กับย่า เพราะเขาต้องไปอยู่กับลูกสาวคนโต ที่กำลังจะคลอดลูก
“ย่าไม่ต้องห่วงเลยนะคะ น้ำอบลาออกจากงานแล้ว มีเวลาอยู่กับย่าอีกนานเลยค่ะ ที่นี่ก็เหมือนบ้านน้ำอบ มาทีไรก็เหมือนกลับบ้านเลยค่ะย่า น้ำอบมีความสุขมากกว่าอยู่กรุงเทพฯ เสียอีก นี่ถ้าย่าหายดีแล้ว มีงานใกล้ๆ น้ำอบจะขออยู่ต่อได้ไหมคะย่า อบจะหางานทำแถวนี้ ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ แล้วค่ะ “
“แต่น้ำอบจะดูอีกที ถ้ามีงานที่ต่างจังหวัด ก็คิดว่าจะไปทำค่ะ จะไม่เข้ากรุงเทพฯ แล้ว เบื่อเมืองเต็มทีค่ะย่า อยู่มาตั้งแต่เด็ก น้ำอบอยากอยู่บ้านสวนแบบไม่มีควันรถ ไม่มีมลพิษ”
“ดีจังเลยลูก น้ำอบอยู่เสียที่นี่กับย่าเลยไหมล่ะ ปู่กับย่าก็อยู่กันแค่สองคน ลูกหลานคนอื่นเขาก็คงไม่กลับมาอยู่แล้วล่ะ ทุกคนเขาก็มีบ้าน มีงานของเขา ไม่มีใครอยากมาอยู่บ้านนอกหรอก”
“จริงลูก ปู่กับย่ารู้ว่าน้ำอบไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรกับเขาเลย มาอยู่ที่นี่กับปู่กับย่านะดีแล้ว จะได้ไม่ต้องไปแย่งทรัพย์สมบัติใครเขา พูดแล้วปู่ก็ยังโมโหพ่อกับแม่เราอยู่เลยนะนี่ ลูกเหมือนกัน ทำไมลำเอียงได้ขนาดนี้ เราก็นะน้ำอบ ไม่มีเสียงเลย ปล่อยให้เขาเอาเปรียบอยู่ได้ ”เสียงปู่เปลวดังมาจากหน้าบ้าน ทันได้ยินย่ากับหลานคุยกันพอดี
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ปู่ น้ำอบไม่ได้คิดอะไร น้อยใจนิดหน่อยแค่นั้นค่ะ น้ำอบเข้าใจทุกคน ไม่ได้คิดมากอะไร พ่อกับแม่เขาก็มีเหตุผล ไม่เป็นไรเลยค่ะ” หญิงสาวแก้ต่างแทนพ่อกับแม่เหมือนเดิม ยังไงท่านทั้งสองก็เป็นผู้ให้กำเนิด
“เอาล่ะ ๆแล้วแต่น้ำอบนะลูก แต่ให้รู้ไว้นะว่าที่นี่คือบ้านของหนู จะอยู่นานเท่าไหร่ ก็ได้ ไม่มีใครรักหนู ก็ยังมีปู่กับย่านี่แหละ ” ปู่เปลวปลอบหลานสาว
“นี่ปู่ได้กล้วน้ำว้ามา 3 เครือ สุกพร้อมกันเลย ไว้ค่อยคิดว่าจะทำอะไรได้บ้าง น้ำอบทำกับข้าวแล้วเหรอลูก ดีจริง ปู่กับย่าไม่ต้องกินกับข้าวตลาดแล้ว ดีจริงๆ เดี๋ยวปู่ไปอาบน้ำก่อน ล่ะกันนะ “
“ได้ค่ะปู่ งั้นเดี๋ยวน้ำอบตั้งสำรับรอเลยนะคะ ย่าจะได้กินยาหลังอาหาร “
หญิงสาวกุลีกุจอจัดการตั้งสำรับอาหารสำหรับมื้อเย็น น้ำอบสบายใจ และมีความสุขมากทุกครั้งที่ได้ปรนนิบัติปู่กับย่า
หญิงชรามองหลานสาวทำโน้นทำนี่ ไม่ได้หยุดเลย หลานสาวนางชอบทำงานบ้าน เป็นคนมีระเบียบ สะอาด สมกับที่เรียนบัญชี เสียอย่างเดียวที่พ่อกับแม่ไม่ค่อยรักนี่แหละ นางดีใจที่หลานสาวคนโปรดมาอยู่ด้วย แต่ก็มีความห่วงอยู่มาก เอาเถอะอะไรมันจะเกิดก็ให้มันรีบเกิด ให้มันมาเร็วๆ มันจะได้ผ่านไปเร็วเหมือนเวลาที่มันมา หญิงชรานั่งมองหลานสาวและถอนหายใจ
เป็นอย่างที่ย่าปรางคิดไว้จริงๆ ดวงชะตาของหลานสาวนาง กรรมตั้งแต่หนหลัง เริ่มที่จะรุนแรงขึ้น แต่ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ หลานสาวของนางก็จะอยู่สุขสบาย จะไม่มีความทุกข์ยากลำบากอีกเลย นางได้แต่เภาวนาให้มันเบาๆ ลง สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือให้น้ำอบ หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ เร่งสะสมบุญ เจ้ากรรมนายเวร ของหลานสาวนางเยอะเหลือเกิน นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ย่าหมั่นให้น้ำอบ เข้าวัดทำบุญตลอดตั้งแต่เด็กๆ
ย่าปรางเป็นคนที่อยู่ในศีลในธรรม ปฏิบัติจนเรียกได้ว่าอยู่ในขั้นที่สามารถสื่อกับสิ่งต่างๆ ได้ รู้เห็น อดีตของแต่ละคน แต่น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้ แม้แต่น้ำอบ จะมีก็แต่เพียงปู่เปลวเท่านั้นที่รู้กัน ปกติย่าไม่เพ่งพิจารณาให้ใคร มีไม่กี่คนที่ย่าปรางให้คำปรึกษา แต่กับน้ำอบ หลานสาวคนโปรด ย่าปรางจะคอยสื่อและแนะนำตลอด ดีที่น้ำอบเชื่อฟัง หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิมาตั้งแต่เด็ก ถือว่าช่วยได้มากๆ
แต่หลังจากวัดเกิดของน้ำอบนี่แหละ หนักหนานัก บางส่วนย่าปรางขอรับเอง จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ และทำให้น้ำอบได้ลงมาอยู่ที่นครศรีธรรมราชนี่ อย่างน้อยย่าปรางก็ได้อยู่ใกล้น้ำอบ ยังคอยช่วยเหลือได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ย่าคงต้องขอให้หลวงพ่อช่วยอีกแรง
ปู่เปลวคอยบอกย่าปรางตลอด ว่าอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด บางทีมันอาจไม่ร้ายแรง เหมือนกับที่เรารู้เราเห็นก็เป็นได้ ปู่ก็ได้แต่ปลอบใจย่า ปู่ก็รู้ดีว่าสิ่งที่ย่าเจอหนักเอาเรื่อง ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ
“มาค่ะปู่ ย่า กินข้าวกันเถอะค่ะ มื้อนี้เป็นข้าวต้มขาวนะคะ เบาท้องดี เดี๋ยวพรุ่งนี้น้ำอบจะไปตลาด ซื้อวัตถุดิบมาไว้ทำกับข้าว วันมะรืนตรงกับวันพระน้ำอบจะไปวัดนะคะย่า พรุ่งนี้คิดว่าคงใส่บาตรไม่ทัน ในตู้เย็นไม่มีของเลยค่ะ น้ำอบเหลือไข่ไว้ จะทำไข่ตุ๋นให้ปู่กับย่าพรุ่งนี้”
“ ดีเหมือนกันนะลูก ตั้งแต่ย่าเจ็บ ปู่ก็ไม่ได้ใส่บาตรเลย วัดก็ไม่ได้ไป ดีแล้วๆ ดีมากๆ เลย ” ปู่หันไปมองหน้าย่าซึ่งก็รู้กันเพียงสองคน ดีใจที่น้ำอบไม่ลืมที่จะทำบุญ บุญกุศลที่หลานสาวเขามาดูแล ปู่กับย่า ใส่บาตรทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ คิดดีทำดี ปู่เปลวหวังว่า ชีวิตหลานสาวจะ ไม่มีภัยร้ายแรงอะไร