ออกัสคอยหลบหน้าเต็มที่ตลอด ทั้งที่ปกติคนอย่างเขาก็ไม่สามารถเข้าไปเฉียดชายหนุ่มได้อยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะที่ไหน เต็มที่มักถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนมากมายเสมอ
จนผ่านไปหลายวัน เมื่อแน่ใจว่าเต็มที่ไม่ได้สนใจอะไรในตัวเขา หรือแม้แต่จะจำกันได้ ออกัสจึงเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ กับชีวิตที่ยังปรับตัวไม่ค่อยได้ของเขา
เคยนั่งรถส่วนตัวมาเรียน ไม่ได้รวยล้นฟ้าแต่ก็มีใช้ไม่ขาด มาวันนี้ต้องแชร์ห้องนอนกับน้อง นั่งรถเมย์มาเรียน แถมเงินแต่ละวันก็มีจำกัด หากไม่คำนวณให้ดี ก็อาจต้องได้เดินเท้ากลับบ้าน
กลางดึกคืนหนึ่ง ขณะที่สองพี่น้องนอนเบียดกันอยู่บนเตียงเล็กในห้องนอนแคบๆ ออกัสซึ่งช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับ แค่เพียงได้ยินเสียงกุกกักก็รู้สึกตัวตื่น
แสงไฟจากนอกห้องส่องลอดผ่านช่องใต้ประตูเข้ามายังห้องนอน ทำให้ออกัสแปลกใจ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว พ่อแม่ยังไม่นอนกันอีกหรือ
“แม่ก็มากินด้วยกันสิ”เสียงพ่อกระซิบบอก ด้วยผนังห้องที่บาง บวกกับความเงียบในเวลาเที่ยงคืน ออกัสจึงได้ยินเสียงพ่อพูด
“พ่อกินเถอะ พ่อต้องทำงาน แม่อยู่บ้าน ไม่ต้องกินข้าวเย็นก็ได้”แม่บอกปฏิเสธ ได้ยินแค่นั้นหัวใจของออกัสก็วูบไหวเจ็บปวด นึกถึงข้าวเย็นที่แม่เตรียมไว้ให้ แล้วเขากับน้องยังมีหน้าบ่นว่ามันน้อย โดยไม่รู้เลยว่า แม่ยังไม่ได้กินสักคำ
“พวกลูกกินกันอิ่มไหม”พ่อถาม
“อิ่มจ๊ะ” แม่บอก
“ดีแล้ว” พ่อว่า จากนั้นเสียงสนทนาก็เงียบไป มีเพียงเสียงเปิดเตาตั้งหม้อ และเสียงฉีกซองบะหมี่ พอพ่อจะฉีกห่อที่สอง แม่ก็บ่นบอกให้เหลือไว้กินวันต่อๆ ไป
“ถ้าพูดแบบนี้อีก พ่อจะไม่กินข้าวแล้วนะ”เสียงพ่อขู่ แม่จึงยอมเงียบไป สองผัวเมียก็ทานมื้อเย็นกันอย่างเงียบเชียบแล้วรีบเข้านอน
ออกัสกลั้นเสียงสะอื้นไว้ สงสารพ่อแม่จับใจ
“นี่ รู้จักเด็กแว่นนั่นไหม ได้ยินว่าที่บ้านล้มละลายล่ะ”
“จริงดิ ทำไมล่ะ ค้ายาขายของผิดกฎหมาย หรืออะไรหรอ”
“ไม่รู้สิ ไม่แน่ใจเหมือนกัน เห็นว่าพ่อแม่ไปค้ำประกัน แล้วคนยืมหนีหนี้มั้งเลยซวย”
“ต๊าย ใครเขาโง่ไปค้ำให้คนอื่นกัน เอากระดูกมาแขวนคอตัวเองชัดๆ”
เสียงซุบซิบอย่างไม่เกรงใจเมื่อออกัสเดินผ่านกลุ่มนักศึกษาสาวกลุ่มหนึ่ง พวกเธอเป็นกูเกิลประจำคณะ ความสามารถที่น่าทึ่งนี้ ผมไม่รู้พวกเธอเอาข้อมูลส่วนตัวของใครต่อใครมาจากไหน แต่ผมไม่ชอบการกระทำที่ไม่มีมารยาทนั้นเลย
ออกัสรีบสาวเท้าเดินผ่าน
หากเป็นเขาคนเมื่อวาน อาจจะอับอายและเอาแต่คิดมากทั้งวันเมื่อได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับตัวเองแบบนี้ แต่เขาในวันนี้ไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องทำร้ายจิตใจตัวเองอย่างนั้นหรอก
เงิน ๆ ๆ เราจะต้องทำงาน ชายหนุ่มคิดหาวิธี แต่จะต้องไม่ใช่การขายตัวแบบเดิม
ปั่ก!!!!
เพราะเอาแต่เดินเหม่อ ออกัสจึงไม่ทันระวังแล้วเผลอชนเข้ากับแผงอกแน่นๆ ของใครบางคน จนตัวเองล้มก้นจ้ำเบ้า
“อะ ขอโทษครับ” เขารีบกล่าวขอโทษโดยไม่ทันได้มองหน้าคนที่เดินไปชน ก่อนจะถูกมือหนาฉุดให้ลุกขึ้นและรวบเอวเล็กไปโอบ สร้างความตกตะลึงให้ออกัสเป็นอย่างมาก
“หวา~~~” เมื่อเห็นว่าเป็นของคนที่ฉุดเขาขึ้นมาเท่านั้น นายเต็มที่ ออกัสถึงกับแหกปากร้องเสียงหลง ผลักร่างสูงให้ออกห่าง ก่อนจะวิ่งอายหน้าแดงหนีไป
“หึ”เต็มที่มองตามแล้วขำ
ยังอ่อนไหวง่ายเหมือนเดิมเลยนะ