เรามาถึงที่คอนโดกันแล้วพี่สายลมในตอนนี้ดูมีเรี่ยวแรงคล้ายจะกลับมาเป็นพี่สายลมคนเดิม คนที่สดใส สุขภาพร่างกายแข็งแรง และยิ้มง่าย พี่เขาดูต้อนรับขับสู้พี่เคนเป็นอย่างดี
“มากันแล้วเหรอ”
“ค่ะ ไปหาหมอมามั้ยคะ”
“ไปมาแล้วครับ ไม่ได้เป็นอะไรมากแค่เครียดเฉย ๆ น่ะ” อาการเครียดของพี่สายลมดูรุนแรงมากจนฉันตกใจกลัวเลยล่ะ แต่พอได้ฟังคำยืนยันอย่างนี้จากปากของเขาเองฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่ไม่ได้รุนแรงอะไรมากมาย
“แล้วได้ไปทำงานมามั้ยคะ”
“ไม่ได้ไปครับ พี่รอน้องฝันกับไอ้เคนมากินข้าวพร้อมกัน”
“งั้นเดี๋ยวพี่ลมคุยกับพี่เคนไปก่อนนะคะ ฝันจะไปเตรียมจานให้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณจ๊ะน้องฝัน” พี่เคนพูดตอบรับฉันก่อนจะหันไปหาพี่สายลม ไม่รู้ว่าฉันมองอะไรผิดไปหรือเปล่าแต่สีหน้าหลังจากที่คนทั้งคู่ยิ้มให้ฉันแล้ว กลับมีความเคร่งเครียด และพากันออกไปคุยด้านนอกราวกับมีเรื่องลับลมคมในที่บอกฉันไม่ได้
ฉันอดสงสัยไม่ได้เลยจริง ๆ พี่สายลมที่เมื่อเช้าเหมือนคนไม่มีแม้แต่แรงจะยืน ทำไมตอนนี้ถึงมีแรงมากมายขนาดที่เดินได้อย่างคล่องตัว ยิ้มได้อย่างคล่องปาก แต่เอาเถอะคงเป็นเรื่องงานของคนทั้งคู่นั่นแหละ
ฉันรู้มาว่าพี่เคนทำบริษัทด้านการบันเทิงเรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่เลยก็ว่าได้ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจรายละเอียดอื่นเพราะว่าทุกวันนี้มีสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือพี่สายลมของฉันเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ในความรู้สึกของฉันเขายังคงรักฉันเหมือนเดิมเพียงแต่ว่าทำตัวแปลกไปราวกับมีเรื่องปิดบังฉันอยู่
ไม่ใช่ว่าไปทำใครเขาท้องหรอกนะ!
ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะว่าเขาไม่มีนิสัยอย่างนั้น ฉันเชื่อใจ และไว้ใจเขามาก จะมาคิดแบบนี้ไม่ได้
ฉันเตรียมจานเแล้วจัดโต๊ะจนเรียบร้อย เลยเดินไปที่โซนสระว่ายน้ำที่ทั้งสองคนเดินหายมาด้วยกัน
“มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูก็เป็นผู้ชาย ใกล้ชิดมาก ๆ กูอาจจะมีใจให้น้องเขาจริง ๆ ก็ได้นะเว้ย” พวกเขากำลังคุยกันเรื่องอะไรอยู่น่ะ
“ถ้าไม่ใช่มึงกูก็ไม่ไว้ใจใครแล้ว” ทำไมล่ะ?
“เพราะกูยังไม่มีใครใช่มั้ยวะ มึงถึงเลือกกู ก็เพื่อนเราตอนนี้ต่างก็ออกเดต บางคนก็เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น มึงเลยไม่ไว้ใจคนอื่นใช่มั้ย” ได้ยินไม่ชัดเลยแฮะ
“มึงไม่กลัวกูยันแตกบ้างเหรอวะ” พี่เคนพูดออกมาด้วยท่าทางจริงจังส่วนพี่สายลมก็จับบ่าของพี่เคนก่อนจะจ้องหน้าพี่เคนนิ่ง ๆ
“กูเชื่อมึง แต่ถ้ามึงไม่ได้รู้สึกชอบ หรืออะไรน้องเขา มึงก็แค่ช่วยดูแลอยู่ห่าง ๆ ก็ได้” ฉันได้ยินไม่ค่อยถนัดเพราะเสียงที่พวกเขาคุยกันมันเบาลง แต่ฉันมั่นใจว่าน่าจะคุยกันเรื่องฝากใครบางคนให้พี่เคนดูแล
หรือว่าจะเป็นคนที่พี่สายลมไปทำเขาท้องเอาไว้!
“แล้วความรู้สึกน้องเขาล่ะ มึงไม่นึกถึงความรู้สึกน้องเขาเลยเหรอ” พี่เคนดูโมโหแปลก ๆ โอ๊ยทำไมคุยกันเบาอย่างนี้นะ!
“กูเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้น้องเขาแล้ว ถึงแม้ว่ากูจะ...”
“โอ๊ย!” ฉันเผลอเตะขอบโต๊ะจนพี่สายลมกับพี่เคนหันมามองทางฉันเป็นตาเดียว คนทั้งคู่จะหันกลับไปมองหน้ากันแล้ววิ่งมาทางฉันทั้งสองคนด้วยความตกใจ
“น้องฝันเป็นอะไรมั้ยครับ” พี่สายลมรีบประคองฉันด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“น้องฝันเจ็บมั้ยครับ” พี่เคนเองก็มีสีหน้าตกใจไม่ต่างกัน ฉันมองไปทางพี่สายลม กับพี่เคน ก่อนที่ความน้อยใจในบทสนทนาที่ได้ยินไม่ชัดจะทำให้ฉันเบะปาก และร้องไห้ออกมา
“ฮึก... อึก... ฮื้อ~”
“ระ ร้องทำไมครับ” ทั้งพี่เคน ทั้งพี่สายลมต่างก็ทำตัวไม่ถูกที่อยู่ ๆ ฉันก็ร้องไห้ออกมาอย่างนั้น ก็ทุกวันนี้การกระทำของพี่สายลมแปลกไปแถมเวลาที่อยู่กับฉันก็ป่วยอยู่บ่อย ๆ จนฉันอดคิดไม่ได้ว่าเขาไปทำอะไรข้างนอกที่ไม่กลับบ้านหลายวัน พอกลับมาทีก็ดูอ่อนล้าโรยแรง เพราะเขาใช้เรี่ยวแรงกับคนข้างนอกนั่นหมดแล้วใช่ไหม ทุกวันนี้เขาเลยไม่แตะต้องฉันเลยแม้แต่น้อย
“พะ พี่ลมมีคนอื่นใช่มั้ยคะ”
“...!?” ฉันโพล่งออกมาตามความรู้สึก
“ฝันได้ยินหมดแล้วค่ะ พี่ลมฝากฝังผู้หญิงคนนั้นกับพี่เคนใช่มั้ยคะ พี่ทำเธอท้องเหรอคะ”
“หืม? ไปกันใหญ่แล้ว ไม่ใช่อย่างที่ฝันคิดนะครับ”
“ไม่ใช่แล้วทำไมเดี๋ยวนี้พี่ลมไม่เหมือนเดิมเลยคะ พี่ลมไม่แตะต้องฝัน พี่ลมหายจากบ้านไปหลายวันกลับมาก็ไม่มีแรง เพราะพี่ลมเอาเรี่ยวแรงไปใช้ข้างนอกหมดแล้วใช่มั้ยคะ อึก...” ฉันร้องไห้แทบตายแต่พี่สายลมกับพี่เคนกลับยิ้มออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย พี่สายลมรั้งศีรษะของฉันเข้าไปกอดแนบอก ส่วนพี่เคนก็ดูที่นิ้วก้อยเท้าฉันที่ตอนนี้มีเลือดซึมออกมา
“สงสัยเล็บจะฉีก” ฉันหน้าซีดทันทีที่ได้ยินพี่เคนพูดแบบนั้น
“เดี๋ยวพี่ทำแผลให้ครับ” ฉันเงยหน้ามองพี่สายลมที่ควรจะเป็นคนทำแผลให้ฉันเหมือนอย่างเคย แต่พี่สายลมกลับ...
“กล่องยาอยู่ตรงโน้น” พี่เคนเดินไปที่กล่องยา ฉันเลยมองไปที่พี่สายลมด้วยสายตาเค้นเอาคำตอบ
“พี่ไม่เคยทรยศน้องฝันครับ ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายที่สวมแหวนให้น้องฝันที่หวังให้เราอยู่ร่วมกันจนกว่าวันที่พี่จะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว”
“พะ พูดอะไรคะ ทำไมชอบพูดเรื่องตาย ฝันไม่ชอบเลยนะคะฝันกลัวค่ะ”
“กลัวพี่เหรอครับ”
“กลัววันที่ฝันจะไม่มีพี่ลมอยู่มากกว่าค่ะ ก็เรากำลังสร้างครอบครัวกันอยู่ไม่ใช่เหรอคะ?” พี่สายลมกอดฉันแน่นขึ้น ฉันรับรู้ได้ถึงมือที่สั่นระริกของเขา และเสียงหัวใจที่เต้นระรัวจนฉันได้ยิน
“ขอโทษนะครับ” พี่เคนมาถึงก็จับเท้าของฉันไปทำความสะอาดอย่างไม่รังเกียจ จนฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงกล้าทำแบบนี้กับคนรักของเพื่อนตัวเอง
“เรื่องที่พวกพี่คุยกันเมื่อกี้ ไอ้ลมมันหมายถึงน้องฝันน่ะครับ” พี่เคนทำแผลให้ฉันไปพูดไปโดยไม่สนใจพี่สายลมเลย
“เดี๋ยวมันต้องไปทำงานที่ไกล ๆ น่ะ มันเป็นห่วงน้องฝัน มันเลยฝากฝังเอาไว้เผื่อว่ามันอาจจะไม่ได้กลับ... เอ่อ หมายถึงเผื่อว่ามันจะไปนานน่ะครับ” แม้คำพูดของพี่เคนออกจะแปลกไปบ้างแต่ฉันก็เข้าใจความเป็นห่วงที่เวอร์วังของพี่สายลมเป็นอย่างดี พี่เคนคงจะเลี่ยงไม่ได้เลยตกลงที่จะดูแลฉันในตอนที่พี่สายลมไปทำงานสินะ
“จะไปทำงานที่ไกล ๆ เหรอคะ” พี่สายลมดูตอบลำบากแต่ก็ยังดีที่เขายอมตอบฉัน
“ครับ”
“ไปนานแค่ไหนคะ” เขาจ้องฉัน ดวงตาของเขาสั่นระริกราวกับกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
“ถ้าโชคดีงานไม่มีปัญหาอะไรก็คงจะได้กลับมาภายในสามเดือน แต่ถ้าโชคร้ายก็อาจจะนานกว่านั้นครับ”
“แล้วโทรติดต่อฝันไม่ได้เลยเหรอคะ”
“ก็อาจจะได้ครับ ถ้าโทรศัพท์มีสัญญาณน่ะนะ”
“ไปที่ไกลมากเลยเหรอคะ”
“ครับ ไกลมาก ๆ อาจจะไกลแสนไกลจนน้องฝันคาดไม่ถึงเลยล่ะครับ” เขาตอบฉันราวกับกำลังล้อเล่น แต่ฉันก็เข้าใจเขาเป็นอย่างดี ก็เรากำลังสร้างครอบครัวกันอยู่นี่เนอะเขาจะทำงานหนักในช่วงแรกก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงเราก็จะมีลูก มีหลาน และอยู่ด้วยกันไปจนแก่จนเฒ่าอยู่แล้ว