อีกด้านหนึ่งภายในห้องชมรมดนตรี (Playboy Club หรือ PB คลับ)
“มันน่าโมโหนัก มาว่าคนหล่อขั้นเทพอย่างฉันเป็นผู้หญิงได้ไงวะ!” เสียงนัททิวเดินกลับเข้ามาทางประตูหลังโรงเรียนอย่างหัวเสีย
“หึ..”
“เฮ้ย! ผีหลอกกลางวันแสก ๆ ว่ะ ไอ้คุณชายเซนจิหัวเราะ”
นัททิวทักด้วยสีหน้าสยองสุด ๆ หลังจากหันไปเห็นเซนจิยืนยิ้มออกไปนอกหน้าต่างอยู่คนเดียว ส่งผลให้ชายหนุ่มร่างสูงหุบยิ้มลงแทบจะในทันทีก่อนจะกลับมาตีสีหน้าเย็นชาเช่นเคย เขากำลังมองทอดสายตาไปยังหญิงสาวร่างบางที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งพลางหมุนตัวไปมาอย่างกับกำลังร่ายรำไปตามทางเดินซอยหลังโรงเรียน เธอโบกแท็กซี่และก้าวขึ้นรถจนลับสายตาไปเซนจิถึงหันกลับมานั่งลงเช่นเดิม
“อ้าว ๆ วันนี้ทำไมบอดี้การ์ดมึงเยอะจังวะ ไอ้คุณชาย” ชายหนุ่มรูปงามนามเรดาร์เดินเข้ามาด้วยอารมณ์สุนทรีย์สุดฤทธิ์ พลางนั่งลงแล้วกวาดตามองไปยันชายฉกรรจ์เกือบสิบคนในชุดสูทสีดำที่ยืนกันอยู่หน้าคลับ
“นั่นดิ กูก็แปลกใจอยู่ เมื่อกี้เห็นไปยืนล้อมไอ้นิวไว้ด้วย มีเรื่องอะไรหรือเปล่าวะ”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับจากเซนจิ
“นิวไหนวะไอ้นัท” เสียงชายหนุ่มดังมาจากโซฟาอีกตัวที่อยู่ไม่ไกลจากนัททิวนัก และเจ้าตัวก็โผล่หัวขึ้นจากเบาะนุ่มด้วยอาการงัวเงียอย่างแรง
“นิวเคลียร์น้องสาวกูไง” นัททิวหันไปตอบซีซาร์ด้วยสีหน้าเรียบ ๆ
“อ๋อ น้องสาวฝาแฝดไข่คนละใบของมึงอ่ะนะ ว้าว ไอ้เซนได้เจอแล้วเหรอวะ น่าอิจฉาอ่ะ”
“อิจฉาอะไรวะ” เซนจิที่เงียบมานานแถมพูดน้อยที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้น
“โธ่~ไอ้เซน มึงก็รู้นี่หว่าว่าพวกเราคบกับไอ้นัทมาตั้งสี่ห้าปีแล้ว แต่ยังไม่เคยได้เจอะเจอหน้าน้องสาวสุดรักสุดหวงของมันสักครั้ง แล้วจะไม่ให้อิจฉาได้ไงวะ จริงมะ”
“ช่าย ว่าแต่น่ารักเปล่าวะ อยากเห็น ๆ” เรดาร์รีบสมทบกับซีซาร์ทันทีแถมยังทำหน้าหื่นใส่อีกต่างหาก
ปึ่ก!
“อ๊ากกก” นัททิวโยนหนังสือใส่เรดาร์อย่างแรงจนคนโดนทำร้ายไม่ทันตั้งตัวเลยเข้าเป้าโดนหัวเต็ม ๆ
“หยุดเลยนะมึง ดีแล้วล่ะที่น้องกูไม่ต้องมาเจอไอ้พวกเพลย์บอยอย่างพวกมึง ไม่งั้นกูได้ปวดหัวอีกเป็นแน่”
“พูดเหมือนตัวเองไม่เป็นเลยนะคร้าบบบ~คุณพี่เขยยย~อ๊าก!” เสียงเรดาร์ร้องดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะรีบกระโดดหลบหนังสือที่นัททิวเตรียมปาใส่อีกเป็นตั้ง
ระหว่างที่หนุ่มหล่อทั้งสองกำลังทำสงครามกันอย่างดุเดือดภายในห้องชมรม มีเพียงรอยยิ้มน้อย ๆ จากชายหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาแสนเย็นชาที่กำลังนั่งจ้องของบางอย่างอยู่ในมือของเขา มันคือสร้อยคอเส้นหนึ่งที่มีจี้รูปนกฟินิกซ์ตัวเล็ก ๆ ห้อยอยู่ มันพันติดมากับกระดุมเสื้อนักเรียนของเขาหลังจากที่ชนกับสาวน้อยร่างบางคนนั้น และเขาก็ได้กำมันไว้ในมือตลอดเวลาโดยไม่ยอมส่งคืนเจ้าของแต่อย่างใด ความรู้สึกบางอย่างกำลังเข้ามาปั่นป่วนหัวใจที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งของเขาทีละนิดทั้งที่เขาพยายามปกปิดมันมาตลอด
.
.
.
ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“รอนานไหมเอมิ”
เสียงชายหนุ่มทักขึ้นจากด้านหลัง ฉันเลยเก็บหนังสือนิยายที่หยิบขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาระหว่างนั่งรอเขาก่อนเงยหน้าขึ้นเพื่อส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มที่บัดนี้นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามฉันเรียบร้อยแล้ว
“ไม่หรอก บาสมาก่อนเวลาด้วยซ้ำ”
“ก็ไม่เร็วเท่าเธอหรอกน้า” ฉันส่งยิ้มให้บาสที่ยื่นมือมาบีบจมูกฉันเบา ๆ แล้วหันไปหยิบเมนูมาสั่งอาหาร ฉันปรายตาขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าเจ้าของใบหน้าหล่อใส เขาก้มหน้าก้มตาอ่านเมนูอาหารอย่างมีความสุข
ให้ตายเหอะ เห็นหน้าตาซื่อ ๆ ของเขาแล้วชักเริ่มหวั่นแฮะ เฮ้อ~แต่ยังไงฉันก็ต้องเริ่มแผนสินะ
“บาส เอมิขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
“อืม ได้สิ” บาสตอบทั้งที่ยังก้มดูรายการอาหารอยู่
“ถ้าบาสเลิกกับเอมิไปบาสจะเสียใจไหม?”
พรึ่บ!
เสียงรายการเมนูหลุดจากมือบาสก่อนร่วงหล่นสู่พื้น ทำให้เจ้าตัวสะดุ้งนิดหน่อยพลางก้มลงไปเก็บขึ้นมาเปิดใหม่อีกครั้ง แล้วสบตาฉันเหมือนกำลังกังวล
“ทำไมถามแบบนี้ล่ะคะ?” บาสถามฉันอย่างสุภาพ เขาชอบพูด คะ ค่ะ กับฉันเสมอ
“อ๋อ ก็แค่ถามเล่น ๆ น่ะ ตกใจเหรอ” ฉันหยั่งเชิงดูอีกที
“ก็แหม ไม่ทันตั้งตัวเลยอ่ะ อยู่ดี ๆ ก็ถามนี่ แต่เอาเหอะ ถ้าเอมิอยากรู้บาสก็จะตอบให้”
“อือฮึ” ฉันจ้องหน้าเขาแบบไม่ค่อยจะสนใจสักเท่าไหร่
“ก็คงเสียใจอ่ะ บาสบอกแล้วไงว่าบาสจริงใจกับเอมิจริง ๆ ไม่เคยรู้สึกเล่น ๆ เลยสักครั้ง แถมยังไม่เคยนอกใจอีกต่างหาก จนเพื่อน ๆ มันแซวกันหมดแล้วเนี่ย”
อ่า... เป็นไปตามแผนแล้วสินะ เฮ้อ จะได้เลิกยุ่งวุ่นวายกับพวกเพื่อน ๆ อีตาไลท์สักที แต่ลึก ๆ แล้วก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะ ฉันส่งยิ้มให้บาสแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อดับความรู้สึกผิด
“จะว่าไปพักนี้ไอ้ไลท์มันถามถึงเอมิบ่อยมากเลยอ่ะ”
“ แค่ก ๆ แค่ก ๆ” สำลักในบันดล
อ๊ากกกกกกก อีตาบ้าไลท์มาถามถึงฉันทำไม!
“เป็นอะไรหรือเปล่า? มา ๆ เดี๋ยวบาสเช็ดปากให้นะ” บาสคว้ากระดาษทิชชู่บนโต๊ะมาเช็ดปากให้ ฉันรีบหยิบทิชชู่ที่กำลังแตะ ๆ ปากอยู่มาถือไว้พลางส่งยิ้มให้บาสอย่างขอบคุณ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ขอบใจนะ”
.
.
.
อีกด้านหนึ่งนอกร้านอาหารที่บาสกับนิวเคลียร์นั่งทานกันอยู่ ไม่มีใครรู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองคนทั้งคู่ด้วยความรู้สึกที่คาดเดาไม่ถูก ร่างสูงตามบาสมาเพราะรู้ว่าบาสจะต้องออกมาหาแฟนสาว ใบหน้าที่ดูเหมือนฝืนยิ้มของเธอปรากฏให้ชายหนุ่มเห็นอย่างเด่นชัด
“เธอไม่ได้รักไอ้บาสจริง ๆ สิ่งที่เธอแสดงออกมามันเหมือนกำลังหลอกลวงมากกว่า เธอต้องการอะไรกันแน่นะ… เธอกำลังปั่นหัวพวกเพื่อนฉันอยู่ใช่ไหม?”
ไลท์ทิ้งบุหรี่ลงพื้นอย่างครุ่นคิด สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่ใบหน้ายิ้มแย้มของหญิงสาวอย่างจับผิด เขาไม่ไว้ใจเธอ ไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้ มีอะไรบางอย่างในความรู้สึกของเขาที่เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ เขาไม่สามารถทนมองดูด้วยความนิ่งเฉยได้ อะไรบางอย่างที่ยังค้างคาอยู่ในใจของเขา เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอต้องการอะไรกันแน่!