“ไม่เป็นไรบ้าอะไร เลือดเต็มไปหมด” ดินิย่าร์เอ็ดตะโรน้องชายก่อนจะตะโกนเรียกป้าเกรทซ้ำอีกครั้ง แต่คนที่วิ่งหน้าตาตื่นโผล่มากลับเป็นมะปรางเสียนี่
“มีอะไรหรือคะนาย...”
มะปรางเอ่ยถามดินิย่าร์ ก่อนจะร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อหันไปเห็นเลือดสดๆ ไหลเต็มมือพาเวล
“คุณแพท นี่คุณแพทเป็นอะไรไปหรือคะ คุณแพท”
ด้วยความรักที่มีต่อเขาทำให้หญิงสาวลืมตัว เข้าไปจับมือหนาที่ชุ่มไปด้วยคราบโลหิตอย่างห่วงใย แต่พาเวลสะบัดมือหนีอย่างรังเกียจ
“อย่ามายุ่งกับฉัน!”
“แต่คุณแพทเลือดออกนะคะ ให้มะปรางดูให้เถอะค่ะ” หญิงสาวดึงดันด้วยความห่วงใย แต่พาเวลไม่ยอม เขาผลักร่างอรชรจนล้มและลุกขึ้นยืน
“ไปดูแลผัวเธอนู่น นั่นไงวิ่งมาแล้ว”
มะปรางร้องไห้ขณะมองตามร่างของพาเวลที่เดินลิ่วๆ จากไปด้วยความเสียใจเป็นที่สุด และสุดท้ายก็ไม่อาจหักห้ามความห่วงใยเอาไว้ได้ หญิงสาวลุกขึ้นและวิ่งตามไปในทันที ดินิย่าร์จะห้ามแต่ก็ห้ามไม่ทัน
“นายฮะ เกิดอะไรขึ้นหรือฮะ...”
เสียงดัดห้าวของเมลิน่าทำให้ดินิย่าร์ต้องหันไปมอง “มาก็ดีแล้วเจ้าเมซซี่ ไปตามเมียแกมาหน่อยสิ”
“อ้าว แล้วมะปรางไปไหนซะล่ะฮะ” คนถามเต็มไปด้วยความงงงวย และนั่นก็ทำให้ถูกนายใหญ่ของเซอร์คอฟกระชากเสียงกระด้างใส่
“วิ่งตามน้องชายของฉันไปแล้ว และแกก็มีหน้าที่ไปตามกลับมาเดี๋ยวนี้ด้วย!!”
“ตามคุณแพทไป ตามไปทำไมฮะ”
ดินิย่าร์กระแทกลมหายใจออกมาซ้ำอีกขณะจ้องหน้าคู่สนทนาเขม็ง “เจ้าแพทถูกแก้วบาดมือ เลือดไหล นั่นไงเลือดยังเปื้อนเก้าอี้อยู่เลย”
แล้วร่างของดินิย่าร์ก็ขยับออก ทำให้เมลิน่ามองเห็นเลือดสีแดงฉานเข้าเต็มๆ ตา หญิงสาวอ้าปากค้างเติ่ง ความมึนงงเข้ามาแทนที่ นี่ใครจะรู้บ้างนะว่าหล่อนน่ะแพ้เลือด เมลิน่าคิดได้แค่นั้นก็ล้มพับลงในทันที
“เฮ้ย... เป็นอะไรไปไอ้เมซซี่...” ดินิย่าร์รีบคว้าร่างที่บอบบางไม่ต่างจากสตรีเอาไว้ได้ทันก่อนที่ศีรษะจะลงไปกระแทกกับพื้น
“ไอ้เมซซี่ นี่อย่าบอกนะว่าแกเป็นลมเพราะเห็นเลือดน่ะ”
ชายหนุ่มใช้ฝ่ามือของตัวเองตบแก้มเนียนใสไม่ผิดจากแก้มของเด็กทารกของไอ้บอดีการ์ดหน้าหวานเบาๆ หลายครั้งติด แต่เจ้าของร่างก็ยังแน่นิ่งเหมือนเดิม และนั่นก็ทำให้ดินิย่าร์รู้ว่าคนที่ตัวเองประคองเอาไว้เป็นลมไปแล้วจริงๆ
“ป้าเกรท... มาหาผมหน่อย...” ดินิย่าร์ตัดสินใจตะโกนเรียกแม่บ้านของตัวเองอีกครั้งแต่ก็ยังไร้เงาของป้าเกรทอยู่ดี
“หายไปไหนนะป้า”
ชายหนุ่มบ่นอุบอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหรี่ตามองดวงหน้ารูปไข่ขาวสะอาดของเมลิน่า วูบหนึ่งความรู้สึกแปลกประหลาดก็แล่นปรู๊ดเข้ามาในอก แต่เจ้าของร่างก็เลือกที่จะสะบัดศีรษะของตัวเองแรงๆ เพื่อผลักไสไอ้ความรู้สึกน่าสะอิดสะเอียนนั้นออกไปในทันที
“ทำไมฉันจะต้องมาลำบากเพราะไอ้มนุษย์ผิดเพศอย่างแกด้วยวะไอ้เมซซี่”
แต่ถึงแม้จะบ่นจะไม่พอใจแค่ไหน แต่ดินิย่าร์ก็ไม่ใจดำพอที่จะปล่อยให้เมลิน่าในคราบของเมซซี่นอนสลบเหมือดอยู่ริมสระน้ำเพียงลำพังได้ เขาตัดสินใจช้อนร่างบอบบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
“ทำไมตัวมันเบานักวะ ยังกับผู้หญิงไม่มีผิด”
ดินิย่าร์หรี่ตามองคนในอ้อมแขนอีกครั้งด้วยความข้องใจ ก่อนจะตัดสินใจก้าวยาวๆ ตรงไปยังบ้านพักของเมลิน่า
และเพียงไม่นาน เขาก็สามารถวางร่างบอบบางของคนไร้สติลงบนเตียงนอนกลางห้องได้สำเร็จ
ดินิย่าร์ขยับถอยหลังออกมาสองก้าว ขณะที่สายตายังไม่ละไปจากร่างของเมลิน่าในคราบของบอดีการ์ดแม้แต่น้อย
คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง ความประหลาดใจหลายอย่างบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของหัวใจ ไอ้หมอนี่ตัวเบามาก แถมเนื้อตัวยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนกับผู้หญิงอีกด้วย
ด้วยความสงสัยทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะเดินกลับไปหยุดที่ขอบเตียงอีกครั้ง ดวงตาคมกริบสีเขียวมรกต คราวนี้กวาดมองไปทั่วร่างบางตรงหน้าอย่างพิจารณา และนั่นก็ทำให้เขาค้นพบว่าไอ้บอดีการ์ดเมซซี่มีรูปร่างอ้อนแอ้นไม่ผิดจากผู้หญิง แถมดวงหน้าตั้งแต่ปากคอคิ้วคางก็ถอดแบบมากจากผู้หญิงไม่มีผิดเพี้ยน จะมีก็แค่ทรงผมที่สั้นเต่อของมันเท่านั้นแหละที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้ชาย
หรือว่าหมอนี่จะเป็นผู้หญิง...?
เมื่อความคิดนี้ระเบิดขึ้นในสมอง ดินิย่าร์ก็ซึมซับได้ถึงความรู้สึกอิ่มเอมบางอย่างที่อยู่ภายในหัวใจ ความรู้สึกแปลกๆ ที่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันคืออะไร รู้เพียงแต่ว่าหากเจ้าเมซซี่มันเป็นผู้หญิง เขาก็คงจะไม่รังเกียจตัวเองแบบนี้
ชายหนุ่มถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ขณะขยับขึ้นไปนั่งบนเตียง มือใหญ่สีแทนเอื้อมไปตรงหน้า ก่อนจะชะงักค้างอยู่อย่างนั้น
มีอะไรบางอย่างที่เจ้าเมซซี่ทำให้หัวใจกระด้างของเขาเต้นแรง บ้าชะมัด เขาไม่มีทางรู้สึกอะไรกับไอ้เสือไบอย่างไอ้เมซซี่นี่หรอก เขาเป็นผู้ชาย เป็นผู้ชายทั้งแท่ง ชายหนุ่มพร่ำบอกตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะตัดสินใจชักมือหนาของตัวเองกลับ และกระโดดลงจากเตียง
ไอ้เมซซี่มันคือผู้ชาย ไม่มีทางที่มันจะเป็นผู้หญิงไปได้หรอก ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปพิสูจน์อะไรทั้งนั้น ความคิดนี้ทำให้ดินิย่าร์เลือกที่จะเดินออกไปจากห้องพักของเมลิน่าทันที โดยไม่คิดจะเหลียวหลังกลับมาแลอีกเลย
เสียงปิดประตูแรงๆ ทำให้คนที่นอนสลบเหมือดอยู่ค่อยๆ รู้สึกตัว เมลิน่าดีดตัวลงขึ้นนั่ง ยกสองมือขึ้นกุมศีรษะ ความทรงจำก่อนหน้าที่จะหมดสติไปค่อยๆ กลับคืนมา และนั่นก็ทำให้ใบหน้านวลซีดเผือดด้วยความตื่นตกใจ
หล่อนเป็นลมไปต่อหน้าต่อตาดินิย่าร์ และถ้าคาดการณ์ไม่ผิดก็ต้องเป็นเขาอีกนั่นแหละที่พาหล่อนกลับมาที่บ้านพัก แล้วเขาเห็น... เขาเห็นอะไรที่แสดงถึงความเป็นผู้หญิงของหล่อนหรือเปล่านะ เห็นอะไรหรือเปล่า
หญิงสาวคิดอย่างหวาดวิตก พร้อมๆ กับก้มหน้าลงสำรวจตัวเอง ก่อนจะทอดถอนใจออกมาเมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ แต่กระนั้น หล่อนก็ยังไว้วางใจมาเฟียร้ายอย่างดินิย่าร์ไม่ได้หรอก บางทีเขาอาจจะรู้แล้วแต่แกล้งเงียบเฉยเอาไว้ก็เป็นได้
“ไม่หรอกน่าลิน่า ถ้าหมอนี่รู้ความเธอปลอมตัวเข้ามา คงเป่าสมองเธอกระจุยไปแล้วละ ไม่ปล่อยให้เธอมีโอกาสลืมตาขึ้นมาแบบนี้หรอก” แม้จะให้กำลังใจตัวเองแบบนี้ แต่ภายในอกก็ยังอดหวั่นวิตกไม่ได้ บางทีคงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรมเสียแล้วละ หญิงสาวคิดอย่างปลงตก