หลายชั่วโมงต่อมา... หลังจากที่ผมสะสางเหตุการณ์อันแสนจะวุ่นวายที่บริษัทฯ เสร็จ ผมก็รีบกลับเพนท์เฮาส์มาหาคนสวยของผมทันที เมื่อเห็นป้าแม่บ้านออกมาต้อนรับ ผมจึงเอ่ยถามเรื่องที่อยากรู้มากที่สุด
“หมอว่าไงบ้าง”
“คุณหมอบอกว่าคุณน้ำผึ้งสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก ภูมิคุ้มกันดี ไม่มีโรคประจำตัวด้วยค่ะ”
“ดี...แล้วเธอกินอะไรหรือยัง”
“ป้าเพิ่งให้เด็ก ๆ ยกอาหารเย็นขึ้นไปให้ที่ห้องเมื่อสักครู่เองค่ะ”
เพล้ง!!
น้ำผึ้งยกถ้วยจานทีละใบโยนทิ้งลงพื้นอย่างแรง พื้นห้องนอนที่เคยสวยหรูเละเทะไปด้วยเศษจานและกลิ่นอาหารคละคลุ้งไปทั่วพื้นที่กว้าง
“น้ำผึ้ง!”
ผมที่เพิ่งเปิดประตูเดินเข้าไปภายในห้องนอนถึงกับขบกราบแน่น ก่อนจะเรียกเธอด้วยน้ำเสียงโมโหร้าย ทว่าคนที่อาละวาดจนข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นดูไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังยกจานใบสุดท้ายขว้างใส่ผมอย่างไม่ไว้หน้า โชคดีที่ผมหันหลบได้ทันซึ่งมันก็เฉียดฉิวใบหน้าของผมไปเพียงนิดเดียว
เพล้ง!
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” ผมเดินไปกระชากแขนเธออย่างแรง พลางจ้องมองใบหน้าหวานด้วยความไม่พอใจ อยากจะจับเธอลงโทษซะเดี๋ยวนั้น น้ำผึ้งมองสวนกลับมาราวกับไม่เกรงกลัวผมเลย
“ปล่อยฉัน...โอ๊ย!” เธอส่งเสียงร้องเมื่อโดนผมเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างแรง
“อย่าทำให้ป๋าต้องหมดความอดทนกับหนูนะ”
“ยังหลงเหลือความอดทนอยู่เหรอ อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนอย่างคุณจะมีความอดทนได้สักกี่น้ำ” เธอรีบลุกขึ้นมาตอบโต้ผม ทำทีเหมือนไม่รู้สึกเกรงกลัว ก่อนจะใช้หมอนใบใหญ่โยนใส่ที่กลางใบหน้าของผมอย่างท้าทาย
พรึ่บ!
ผมใช้มือปัดหมอนออกจากใบหน้าก่อนจะกระชากแขนของเธอมากอบกำไว้แน่น แล้วรวบเส้นผมยาวสลวยไว้ในกำมือเพียงข้างเดียว ก่อนจะดึงกระชากอย่างแรงจนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“อื้อ! เจ็บนะ ปะ...ปล่อย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมพรั่งพรูน้ำตาออกมาจนเปื้อนแก้มสวย
“ใครอยู่ข้างนอก” ผมเรียกหาลูกน้องทั้งที่มือข้างหนึ่งยังคงกอบกำเส้นผมของน้ำผึ้งไว้ไม่ยอมปล่อย
“ครับนาย”
“เรียกให้แม่บ้านมาจัดการของพวกนี้ กูไม่ชอบเห็นอะไรที่มันสกปรก” ผมกัดฟันพูดกับลูกน้อง
ทุกคนต่างก็รู้ว่าตอนนี้ผมกำลังโมโหสุดขีด ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้นอกจากก้มหน้าไว้อาลัยให้กับคนอวดดีที่กำลังจะถูกผมจัดการสั่งสอน
“เอากรรไกรมา!”
“อึก!” น้ำผึ้งพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไห้ หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงจนผมเองก็สัมผัสได้ มือเล็กทั้งสองข้างพยายามยับยั้งไม่ให้ผมออกแรงดึงเส้นผมของเธอไปมากกว่านี้ แต่มีหรือผมจะยอมปล่อย สิ่งที่เธอทำเมื่อสักครู่มากเกินไป ผมไม่ชอบ!
“อยากรู้ไหมล่ะว่าถ้าป๋าหมดความอดทน หนูจะเจอกับอะไร”
“ฮือ ๆ จะทำอะไร ไม่เอานะ ปล่อย...” น้ำผึ้งส่งเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นลูกน้องคนหนึ่งยื่นกรรไกรให้ผม “...ไม่เอา ฮือ ๆ”
“หนูทำลายของของป๋า ป๋าก็จะทำลายของของหนูเหมือนกัน”
พูดจบ ผมก็จัดการตัดเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่จนมันขาดหลุดลุ่ยไม่เหลือชิ้นดี น้ำผึ้งเองก็พยายามที่จะยับยั้งมือของผมให้หยุดการกระทำป่าเถื่อน แต่มีหรือที่ผมจะยอม ผมต้องการสั่งสอนให้เธอหลาบจำ จะได้ไม่กล้ามาอวดดีกับผมอีก
“พอแล้ว... ฮือ ๆ ปล่อย” น้ำผึ้งพยายามขอร้องให้ผมหยุดการกระทำ แต่ผมยังไม่พอใจกับบทลงโทษที่เธอได้รับ เธอควรเจอบทลงโทษที่หนักกว่านี้
“แค่นี้พอเหรอ หนูไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าถ้าป๋าหมดความอดทน ป๋าสามารถทำอะไรได้บ้าง”
“จะ...จะทำอะไรอีก กรี๊ดดดดด! ไม่เอาฮือ ๆ”
น้ำผึ้งกรีดร้องเสียงดังลั่น ผมจัดการตัดเส้นผมของเธอทิ้งไปอย่างไร้ความเมตตาปรานี คนรับใช้ที่จะมาทำความสะอาดห้องก็ต่างก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองเงียบ ๆ แม้จะรู้สึกสงสารน้ำผึ้งจับใจแต่ทุกคนต่างรักตัวกลัวตายทั้งนั้น ไม่มีใครกล้าเสนอหน้ามายุ่งหรอก
“ฮึก! ปล่อยฉัน กรี๊ดดดดด!”
กว่าผมจะพอใจและยอมหยุดการกระทำป่าเถื่อน เส้นผมที่เคยยาวสลวยสวยงามของน้ำผึ้งแหว่งไปเกือบครึ่งหัว ผมเหวี่ยงร่างของเธอจนล้มไปนอนราบบนเตียงอีกครั้ง เธอร้องไห้จนจุกหน้าอกและไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาตอบโต้ผมได้อีก นี่แหละบทลงโทษที่สาสมกับคนอวดดีอย่างเธอ
“จำไว้ อย่ามาอวดดีกับป๋าอีก” ว่าจบ ผมก็ขว้างกรรไกรในมือทิ้งแล้วเดินออกไปจากห้อง เหล่าคนรับใช้ของผมต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทุกคนต่างเวทนาคนที่นอนร้องไห้อยู่บนเตียง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
.
.
.
.
.
มาแล้วค๊าบบบบ
อิป๋าไม่อ่อนโยนกับน้องเลย ตัดผมน้องจนแหว่งไปครึ่งหัว
❤️ กดหัวใจให้กำลังควีนด้วยน๊า
💬 คอมเมนท์พูดคุยกันค๊าบบบ