สารวัตรมาวินตั้งสติสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินลงไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่น
“พาตัวประกันไปโรงพยาบาลหน่อย มีบาดแผลตามตัวน่าจะตกใจมากด้วย”
“ได้ครับสารวัตร คราวนี้ไอ้นับดาวมันลุยเองอีกแล้ว แสบจริงๆดีที่มันไม่เป็นอะไร”
“ปกตินับดาวซนขนาดนี้มั้ยครับ”
เขาเอ่ยถามจ่าเฉยที่อยู่มานานสุด เขาพยักหน้าทันทีและร่ายยาวความดื้อดึงของหญิงสาวสารพัดตั้งแต่อยู่ที่นี่มาเกือบยี่สิบปีรายนั้นซนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“มากครับ… ถ้าเจออะไรแบบนี้เธอจะเอาตัวเองไปเสี่ยงตลอด จากเตือนเป็นปลงครับห้ามอะไรไม่ได้เลย”
สารวัตรมาวินในตอนนี้เขาโกรธหญิงสาวมากจริงๆ เธอไม่ได้ตัวคนเดียวทีทั้งครอบครัวพ่อแม่และยังมีเขาอีก ทำไมถึงไม่คิดเลยว่าถ้าพลาดเกิดอะไรขึ้นพวกเขาจะเป็นยังไง การที่เธอดื้อรั้นเขาไม่เคยว่าแต่การเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนี้เขาไม่โอเคมากๆ
“ผมฝากตัวประกันด้วยนะ”
“ได้ครับเดี๋ยวผมดูแลเอง”
เขาเดินออกไปจากตรงนั้นตรงหาคนร้ายที่ตอนนี้โดนใส่กุญแจมืออยู่ในท่าคุกเข่า และดูเหมือนว่าจะมีอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกยังไงก็ต้องขอบคุณนับดาวที่ทำให้ทางตำรวจจับคนร้ายได้ง่าย แต่ยังไงเขาก็ยังยืนยันว่าสิ่งที่เธอทำมันไม่ควร
“สารวัตร… คุณคะ”
เสียงเล็กสะกิดเขาจากทางด้านหลังเสียงเบา นิ้วเล็กจิ้มแผ่นหลังของเขาด้วยน้ำเสียงง้องอน เขาทำเป็นไม่ได้ยินหันไปคุยกับคนอื่นแทน ครั้งนี้เธอทำเกินตัวและเขาจะต้องลงโทษเด็กดื้อคราวหลังจะได้ห่วงตัวเองมากกว่านี้
“โกรธหนูเหรอคะ”
“เอาตัวไปโรงพักเดี๋ยวผมจะโทรรายงานผู้กำกับก่อนแล้วเจอกันที่นั่นเลย”
“ได้ครับสารวัตร”
เขาโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปทันทีพร้อมกับคนร้ายที่สภาพตาลอยเหมือนคนไร้สติ คนแบบนี้น่ากลัวมากอันตรายต่อผู้บริสุทธิ์
“คุณไม่คุยกับหนูละ… อ่ะ”
เธออ้าปากค้างเพราะชายหนุ่มเดินผ่านไปเลยไม่สนใจแม้แต่น้อย หญิงสาวมองตามไปอย่่างมึนงงสารวัตรมาวินขึ้นรถตำรวจแล้วขับออกไปเลยไม่สนใจจะคุยกับเธอแม้แต่มองหน้ายังไม่สนใจเลย เธอมีสีหน้าที่สลดลงอย่างเห็นได้ชัดก้มหน้ามองต่ำก่อนจะน้ำตาคลอเบ้า
“สารวัตรโกรธหนูจริงเหรอ ฮืออออ”
ช่วงเย็น…
สารวัตรมาวินเคลียร์คดีเกือบครึ่งวันสภาพในตอนนี้คือเหนื่อยมากอยากพักผ่อนที่สุด เขาเดินทางกลับมาที่บ้านพักปิดประตูล็อคเรียบร้อยก็หยิบโทรศัพท์มากดดู มีข้อความและสายไม่ได้รับจากนับดาวเยอะมากแต่เขาไม่กดอ่านและไม่โทรกลับอยากจะสั่งสอนเด็กดื้อที่ไม่ยอมฟังใครเลย
ทางด้านของนับดาวเธอนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเศร้าหมอง เขาไม่ยอมรับโทรศัพท์แม้แต่ข้อความยังไม่ยอมอ่านเลย เธอไม่รู้จะทำยังไงแล้วใจอยากไปหาที่บ้านพักแต่ติดที่ต้องอ่านหนังสือสอบเพราะจะต้องไปฝึกงานแล้ว
“ทำไมสารวัตรไม่รับโทรศัพท์เลย โกรธเหรอ… ทำไมไม่คุยกันดีๆอ่ะ”
เธอร้องไห้ออกมาก่อนจะปาดน้ำตาตัดใจเก็บโทรศัพท์แล้วจากนั้นก็ตั้งใจอ่านหนังสือสอบ เพราะหลังจากนี้เธอต้องไปฝึกงานแล้วและไม่รู้ว่าจะได้เจอเขาบ่อยๆรึเปล่าแต่เธอจะพยายามหาเวลาให้มากที่สุด
วันต่อมา….
ชายหนุ่มยังคงเหมือนเดิมอ่านเพียงแค่ที่แจ้งเตือนเท่านั้นไม่ยอมกดเข้ามาอ่านและไม่ยอมรับโทรศัพท์ เขาคิดถึงหญิงสาวมากแต่ด้วยความที่อยากจะลงโทษเธอเขาต้องอดทนอย่างมากที่จะไม่ตอบกลับและรับโทรศัพท์ของเธอ เขาจ้องอยู่ตรงหน้าจอเปิดดู GPS ของหญิงสาวผ่านโทรศัพท์ของตัวเองและตอนนี้เธออยู่ที่บ้านยังไม่ได้ไปไหน จากนั้นก็กดปิดหน้าจอเตรียมตัวไปทำงานของตัวเองต่อ ยังมีภารกิจอีกมากมายที่ต้องจัดการเพราะฉะนั้นจ้องรีบไปทำงานของตัวเองต่อ
ทางด้านของนับดาวเธอตื่นนอนด้วยใบหน้าเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัดเจน และถ้ารู้ว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะโกรธเธอไม่มีทางทำเด็ดขาด หญิงสาวเดินคอตกออกมาจากบ้านนั่งลงที่โต๊ะร้านข้าวแกงของแม่นับเงินก่อนจะเท้าคางมองไปเบื้องหน้าอย่างเหมอลอย
“ลูกเอ็งมันเป็นอะไรวะนับเงิน”
“ไม่รู้ดิ”
“ทะเลาะกับสารวัตรรึเปล่าก็ไม่รู้ วันนี้ยังไม่เห็นมากินข้าวเลยปกติมาทุกเช้า”
คุณพ่อเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ป้านับเงินเดินเข้าไปหาลูกสาวอย่างห่วงใย ลูบผมลูกรักด้วยความเอ็นดู
“เป็นอะไรของเอ็งไอ้นับดาว หน้าเศร้าอย่างกับสอบตก”
“ยิ่งกว่าสอบตกอีกจ้ะแม่ สารวัตรโกรธหนูไม่ยอมรับโทรศัพท์ไม่ยอมตอบข้อความเลย ฮืออออ หนูทำยังไงดีจ๊ะแม่”
เธอเงยหน้ามองคนเป็นแม่น้ำตาคลอ ไม่รู้จะปรึกษาใครแล้วปรึกษาแม่นับเงินไปเลยแล้วกันเผื่อว่าท่านจะแนะนำอะไรได้
“แล้วเอ็งไปทำอะไรให้พี่เขาโกรธ ปกติสารวัตรใจเย็นกับเอ็งมากเลยนะ ทั้งดื้อทั้งซนเขาก็อดทนไม่เคยบ่น”
นับเงินถามลูกสาวหาเหตุผลที่ชายหนุ่มโกรธเพราะต้องแรงมากพอสมควรไม่อย่างนั้นเขาจะไม่โกรธอะไรมากขนาดนี้ นับดาวคิดหนักว่าจะเล่าดีมั้ยแต่ไหนๆแล้วการพูดความจริงมันดีที่สุด
“ก็เมื่อวานพี่ฟ้าโดนคนร้ายเอามีดจี้อยู่ตึกร้าง หนูเห็นก็เลยเข้าไปช่วยค่ะ”
“ช่วยยังไง เอ็งไม่ใช่ตำรวจจะเข้าไปช่วยได้ยังไง”
“ก็แค่ขึ้นไปชั้นสามแล้วไปเตะมีดของคนร้าย จากนั้นก็ถึบมันลงตึกไปเลยให้ตกเบาะลมของตำรวจ เห็นมะหนูทำความดีช่วยงานตำรวจทำไมสารวัตรถึงต้องโกรธหนูด้วยจ้ะแม่ ไม่เข้าใจเลย”
หญิงสาวทำหน้าอย่างไม่เข้าใจ คนทำความดีทุกคนควรจะสนับสนุนไม่ใช่มาโกรธกันแบบนี้ แม่นับเงินได้ยินก็มะเหงกใส่ลูกสาวทันที
“โอ๊ยยย หนูเจ็บ”
“นี่แน่มันใช่เรื่องของเอ็งเหรอไงถึงต้องไปช่วย ข้าไม่แปลกใจทำไมสารวัตรถึงโกรธขนาดนี้ ข้าฟังยังโกรธเลยเอ็งนี่มันน่านัก”
คนเป็นแม่ได้ยินก็โกรธลูกสาวอีกคน ทำอะไรไม่คิดเลยถ้าเกิดว่าพลาดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง
“เค้ากลัวเอ็งได้รับบาดเจ็บนะสิยังไปว่าเค้าอีก เอ็งไปง้อสารวัตรเลยนะรีบไป”
“ต้องไปเรียนก่อนแล้วค่อยไปง้อ แล้วหนูจะง้อยังไงจ๊ะแม่”
“ก็ซื้อของสดไปทำให้สารวัตรกินไงตอนเย็นอ่ะ ใช้เสน่ห์ปลายจวักหน่อยสิแม่อุตส่าห์สอนเอ็งมานะ”
นับดาวทำหน้าคิดสักพักก่อนจะยิ้มออกมาทันที นั่นสินะเย็นนี้เธอไปทำอาหารเซอร์ไพรส์สารวัตรรอเขากลับจากที่ทำงานดีกว่า รับรองว่าเขาจะต้องหายโกรธแน่นอนเลย
“งั้นคืนนี้หนูไม่กลับนะจ้ะแม่”
นับดาวยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวไปเรียน ป้านับเงินส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจสอนให้รักนวลสงวนตัวแต่ลืมไปว่าเลี้ยวลูกได้แค่ตัว อีกอย่างนี่มันสมัยไหนแล้วเธอเป็นแม่คงทำได้เพียงแค่ดูอยู่ห่างๆแค่นั้นแหละ
“เอ็งนี่มันแรดนักนะไอ้นับดาว”