และนี่จะเป็นคืนสุดท้ายที่ชายหนุ่มนอนกับหญิงสาวก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนนับดาวก็ต้องเริ่มทำงานของตัวเอง เธอตั้งใจว่าจะตั้งทำงานอย่างเดียวรับงานทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเงินเดือนที่มากพอที่จะทำให้เธอตั้งตัวได้
หญิงสาวสวมกอดชายหนุ่มอย่างเศร้าใจ เธอไม่อยากมาทำงานไกลจากคนรักเลยสักนิดกลัวว่าความห่างไกลจะทำให้เราสองคนมีความรู้สึกที่ห่างเหินกันมากขึ้น แต่สารวัตรมาวินบอกว่าเขาเข้าใจและอยากให้เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความรู้ให้มากที่สุด และวันหนึ่งเธอจะไม่เสียใจที่เลือกมาอยู่ที่นี่ เราสองคนยังมีเวลาทั้งชีวิตในการอยู่ด้วยกัน และตอนนี้เธอควรจะพัฒนาความรู้ของตัวเองและหาคอนเนคชั่นดีๆเอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อที่อนาคตออกมาเปิดสำนักงานเองเธอจะได้มีงานมากมาย
“หนูต้องคิดถึงคุณแน่นอนเลยค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้นอนด้วยกันทุกคืนแต่ว่าเราสองคนเจอกันทุกวันนะ”
“คิดถึงก็โทรศัพท์มาหาพี่ค่ะและถ้าเกิดว่าวันไหนหยุดพี่จะบินมาหาทันที หนูไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นเลยพี่จะเป็นคนมาหาเอง ส่วนคุณพ่อคุณแม่พี่ดูแลให้เองไม่ต้องห่วงนะคะ”
เธอยิ้มออกมาอย่างซาบซึ้งใจในความดีของชายตรงหน้าและเขาทำมันได้จริงๆ ที่เธอตัดสินใจยอมมาเพราะเขาดูแลพ่อกับแม่ให้เนี่ยแหละ หายากนะผู้ชายที่ดีกับเรามากขนาดนี้
“หนูโชคดีนะที่มีคุณ”
“พี่ก็โชคดีที่มีหนู ตั้งใจทำงานนะคะไม่ต้องห่วงพี่กับพ่อแม่ พี่จะดูแลให้เองไม่ต้องห่วง”
“หนูจะตั้งใจเก็บเงินให้มากที่สุดค่ะ เอาให้พอสร้างบ้านแต่งงานแล้วก็ดูแลลูกได้หนูก็พอใจแล้ว”
เธอเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยน แววตาเพ้อฝันถึงอนาคตอันสวยงามของเราทั้งสองคน เขาลูบผมอย่างเอ็นดูแค่อยากให้เธอเก็บเงินในส่วนสร้างบ้านก็พอแล้ว เรื่องเลี้ยงดูบุตรเขาจะรับภาระตรงนี้เอง
“เอาแค่เก็บเงินสร้างบ้านกับแต่งงานก็พอแล้วค่ะ ส่วนเงินเลี้ยงลูกพี่รับหน้าที่นี้เอง หนูเลี้ยงเฉยๆก็พอ”
“เอางั้นเหรอคะ ก็ได้นะไม่ติด”
ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดี เราสองคนมีการวางแผนในอนาคตไว้ร่วมกันและตอนนี้รอแค่เวลาอันเหมาะสมเท่านั้น เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำงานที่นี่กี่ปีถึงจะมีเงินมากพอแต่ถ้าได้หลักแสนเธอคิดว่าคงจะทำไม่นาน เผลอๆปีเดียวเธออาจจะกลับบ้านแล้วก็ได้ใครจะรู้ล่ะ
“เรานะตั้งใจทำงานเถอะ พี่เชื่อใจหนูว่าจะไม่วอกแวกไปหาใครอื่นและให้เชื่อใจพี่ว่าจะรักและไม่วอกแวกไปหาใครเด็ดขาด”
“หนูเชื่อใจคุณค่ะ เชื่อว่าคุณจะรักและมีหนูคนเดียว รออีกนิดนะคะรอวันที่เราสองคนจะได้อยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน”
“พี่จะรอค่ะ”
สองวันต่อมา…
สารวัตรมาวินเดินทางกลับมาที่อำเภอแม่พระตั้งแต่เมื่อวานและวันนี้เขาก็มาทำงานอย่างเช่นปกติ วันนี้ชายหนุ่มมาราชการในตัวเมืองและได้บังเอิญเจอกับเพื่อนที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่นับดาวเรียนอยู่
“มาวินจริงด้วย ไม่ใช่สิสารวัตรมาวินต่างหาก”
หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจที่ได้เจอชายหนุ่ม ที่ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้วที่เธอไม่ได้เจอกับเขาเลย มีส่งข้อความไปหาบ้างและเขาก็ตอบกลับมา
“ศศิ… มายังไงเนี่ยนั่งก่อนสิ”
เขาผายมือเชิญหญิงสาวนั่งลงที่โต๊ะ เธอยิ้มกว้างออกมาหันไปสั่งเครื่องดื่มและขนมเค้กหนึ่งชิ้นก่อนจะหันมาคุยกับชายหนุ่ม
“มาราชการไง แสดงว่านายก็มาราชการสินะ”
“อืม เหมือนกันแหละเป็นไงบ้างสบายดีมั้ยไม่ได้เจอกันเลย”
“งานยุ่งด้วยแหละ ว่าแต่รู้มั้ยว่าอาทิตย์หน้าเพื่อนในรุ่นนัดทานข้าวกัน”
ศศิเอ่ยถามเสียงสดใส เขาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้เพราะเพื่อนบอกไว้แล้ว ตั้งแต่คบหากับนับดาวเขาไม่เคยเข้าไปที่ร้านเลยและเมื่อวานมีโอกาสไปดูร้านและดื่มกับเพื่อนนิดหน่อยเป็นมารยาท พวกเขาบอกว่ามีนัดทานข้าวกับเพื่อนในรุ่นและอยากให้เขาไปด้วยซึ่งก็ไม่ปฏิเสธเพราะตอนนี้ภรรยาไม่อยู่และเธอก็ให้เขาไปเที่ยวกับเพื่อนได้ไม่ว่ากัน เพราะว่ารักและเชื่อใจกันถึงได้ไม่กังวลอะไร
“บอกแล้วเมื่อวานไอ้พวกนั้นบอกละ”
“ร้านนั้นนายเป็นหุ้นส่วนด้วยเหรอ เห็นดั้มบอกว่านายเป็นหุ้นส่วนใหญ่เลยแต่เวลาเราไปไม่เคยเจอเลยนะ”
เธอเอ่ยถามอย่างสงสัย ชายหนุ่มยิ้มออกมาขำๆยกกาแฟขึ้นดื่มไม่ซีเรียสอะไร
“ร้านเพื่อนต่างหากหุ้นกันหลายคน เราแค่ออกเยอะกว่าคนอื่นแต่ไม่ได้ดูแลเองเลยไม่ค่อยเข้าไป คราวหลังถ้าจะไปก็บอกเราสิเดี๋ยวไปนั่งเป็นเพื่อน”
“จริงนะ… งั้นอาทิตย์หน้าต้องไปให้ได้นะเพื่อนอยากเจอกันมากเลย ตั้งแต่เรียนจบไม่เคยเห็นนายมาเลย พวกเค้าคิดว่านายไปอยู่ต่างประเทศแล้วมั่งทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง”
ชายหนุ่มยิ้มออกมาไม่พูดอะไร เรื่องนี้เขาบอกนัวดาวเมื่อเช้าว่าเพื่อนชวนไปเลี้ยงรุ่นและเธอก็ไม่ว่าอะไรด้วย เขาบอกกับเธอว่าถ้ามีโอกาสให้ไปด้วยกันจะได้แนะนำให้เพื่อนรู้จักภรรยาคนเก่งของเขา
วันแรกของการทำงานนับดาวเดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองยกมือไหว้ทักทายทุกคนที่นั่งอยู่ทุกคนต่างเป็นมิตรไม่มีใครทำหน้าไม่รับแขกใส่
“มาช่วยกันทำงานนะน้องนับดาว งานพวกพี่ยุ่งกันมากอยากได้คนเก่งๆมาแบ่งเบากันบ้าง ถ้าขยันทำงานบอกเลยนะว่าเงินที่ได้มาคุ้มค่ามาก”
“หนูจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่ค่ะยังไงฝากตัวด้วยนะคะ”
เธอยกมือไหว้ทุกคนอีกครั้งก่อนจะจัดโต๊ะทำงานของตัวเอง ของใช้ทุกอย่างแม้กระทั่งปากกาสารวัตรมาวินก็เลือกแบบที่แพงและดีที่สุดให้เธอ ทุกอย่างที่เขาทำให้มันทำให้ภาพลักษณ์ของเธอจากลูกแม่ค้ากลายเป็นคนที่น่าเชื่อถือคนหนึ่ง เขาก็เป็นคนเอาใจใส่รายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับเธออยู่แล้วยิ่งมาทำงานในตำแหน่งที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือเขายิ่งทำให้เธอดูดีมากในสายตาของคนอื่น
ทนายนิกรเดินตรงมาหานับดาวที่ตอนนี้กำลังจัดของอยู่ที่โต๊ะ และเมื่อเขามาถึงก็ยิ้มกว้างออกมาทันที หญิงสาวหน้าตาเด็กมากแถมยังสวยกว่าในรูปอีก
“สวัสดีครับคุณนับดาว พี่ชื่อนิกรเป็นรุ่นพี่ที่จะให้คำแนะนำเราในเดือนแรกของการทำงาน”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองสบตาชายหนุ่มก่อนจะยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะพี่นิกร นับดาวฝากตัวด้วยนะคะมีอะไรแนะนำได้เลยค่ะนับดาวรับฟังเสมอ”
“ดีมาก… เป็นเด็กน่ารักเชื่อฟังง่ายก็ดีแบบนี้ดีแล้วพี่ชอบ งั้นวันนี้ไปกินข้าวกันตอนกลางวันพี่จะแนะนำการทำงานเบื้องต้นและบ่ายไปพบลูกความกับพี่ คนนี้พี่ให้เราดูแลเป็นเคสแรกเลยนะ นักธุรกิจสาวชื่อคุณบลูคนนี้เค้าให้ดูแลแต่งตั้งเป็นทนายของบริษัทเลยนะถ้าเกิดว่าเราทำให้เค้าดี พี่จะคอยเเนะนำเราเองแต่พี่เชื่อว่าระดับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังยังไงก็ทำได้”
นับดาวยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ได้มาทำงานวันแรกก็จะได้ลุยงานทันที แถมลูกความเป็นถึงนักธุรกิจชื่อดังของประเทศด้วย เธอคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่เธอจะได้แสดงศักยภาพของตัวเองในสิ่งที่ร่ำเรียนมา
‘และไม่ว่าจะยังไงเธอจะต้องประสบความสำเร็จทางสายอาชีพนี้ให้ได้’
“ขอบคุณนะคะหนูจะตั้งใจเต็มที่ค่ะ”