EP.15 แก้วแตกแหกกระเจิง(มีภาพประกอบ)
ตามขั้นตอนการเล่นผีถ้วยแก้วฉบับพื้นฐานแล้ว
หนึ่ง ผู้เล่นควรมีประมาณสี่คน
สอง จุดธูปเจ็ดดอกบอกกล่าวเจ้าที่ก่อนเล่นเสมอ
สาม ขออนุญาตอัญเชิญดวงจิตดวงวิญญาณมาสื่อสารกันผ่านกระดาน
และสี่สิ่งที่เป็นข้อระวังและต้องห้ามมากที่สุดคือ อย่าปล่อยให้ควันลอยออกจากถ้วยแก้วได้ และอย่าดึงมือออกในขณะที่เล่น ไม่เช่นนั้น วิญญาณที่อัญเชิญมาจะเข้ามาสิงคุณในทันที
หลังจากที่ทั้งสี่คนตั้งสมาธิมั่น ทุกคนก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ สุดท้ายคนที่แตะกดขอบแก้วเป็นคนแรกก็คือคนที่จุดธูปและอัญเชิญ ก่อนที่ปลายนิ้วจะแตะที่ขอบแก้วไล่วนตามเข็มนาฬิกาไปทีละคน ๆ
"พุทธ" เป็นทับทิมที่ท่องคาถาขึ้นมาเป็นคนแรก
"โธ" ตามด้วยบาสตี้
"ธา" ใบหม่อนพูดต่อ
"ยะ" และจบท้ายด้วยปลายฝน ทั้งสี่คนท่องคาถาทั้งสี่พยางค์ซ้ำจนครบสามรอบแล้วก็ให้ผู้ที่จุดธูปเอ่ยอัญเชิญวิญญาณอีกครั้ง และในเสี้ยววินาทีอัญเชิญเสร็จ แก้วก็เริ่มที่จะสั่นควันธูปที่ควรจะจางหายไปมันกลับมีสีที่เข้มมากขึ้น ทั้งสี่คนหันมองหน้ากันเพราะถ้าเริ่มเล่นแล้วพวกเขาไม่สามารถออกจากเกมนี้ได้
"อันนี้เป็นเอฟเฟ็กต์ที่มึงเตรียมมาด้วยใช่ไหม" บาสตี้หันไปถามทางทับทิม ซึ่งเป็นคนริเริ่ม ทับทิมจึงยิ้มเจื่อน ๆ ตอบกลับไปพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อย
"อึก" บาสตี้กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เพราะเขาเป็นคนเดียวในนี้ที่ไม่มีสัมผัสพิเศษอะไรเลยและไม่เคยเห็นผี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่กลัว
"เริ่มเลย กูอัดวิดีโอแล้ว" ปลายฝนที่เห็นว่าแก้วสั่น ๆ ๆ อยู่นานจึงหันไปบอกกับทับทิมให้เริ่มถาม
"คะคือ..." ทับทิมเริ่มเสียงสั่นเพราะธูปในแก้วจากเทา ๆ มันเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างชัดเจนเลย
"มึง ถ้าพวกเราเริ่มแล้วหยุดเล่นไม่ได้นะ เขาโกรธเราแน่" ใบหม่อนพยายามเรียกสติ
"มันเหมือนว่าพวกเรากำลังลบหลู่เขาอยู่น่ะ" ใบหม่อนมองดูที่แก้ว ซึ่งแน่ชัดแล้วว่าครั้งนี้มันมีพลังบางอย่างวนเวียนอยู่ในแก้วจริง ๆ และที่แก้วมันสั่นไม่ได้เกิดจากการขยับมือของทับทิมเหมือนที่เตรียมกันไว้ในครั้งแรก
"ใช่ ยังไงก็ต้องเล่นไปให้จบ" ปลายฝนหันไปมองทางทับทิมและพูดเสริมไปอีกครั้ง
"อืม" ทับทิมพยักหน้ารับก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้ง
"เพื่อเงิน ๆ ๆ " ทับทิมท่องเอาไว้ก่อนจะเริ่มรวบรวมสมาธิและความกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งลี้ลับต่อในทันที
"สะ..สวัสดีค่ะ" ทับทิมมองที่แก้วและเอ่ยทักทายไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
"ตอนนี้คุณได้เข้ามาสิงในแก้วแล้วใช่หรือไม่ ถ้าใช่ให้เลือกไปที่ใช่เพื่อเริ่มต้นสนทนากัน" และในตอนที่ทับทิมเอ่ยจบประโยคแก้วมันก็นิ่งไป ไม่ขยับไม่สั่นแถมควันธูปในนั้นมันก็ค่อย ๆ จางหายไป ทุกคนเริ่มคิดว่ามันคงไม่มีอะไรแน่ ๆ เพราะบรรยากาศมันดูสงบลงมากแล้ว
แต่แล้วจู่ ๆ แก้วมันก็เลื่อนไปที่ตัวอักษรทีละตัว ๆ จนสะกดได้คำว่า ‘ใช่’ ตามแรงดันของใครบางคนในสี่คนนี้
"ใช่" บาสตี้เอ่ยทวนตามคำที่แก้วเคลื่อนไป ทั้งสี่คนนั่งเงียบอยู่นานซึ่งมีแค่ทับทิมคนเดียวที่รู้ว่าในคำถามแรก เธอเป็นคนจงใจดันแก้วให้ไปตามคำว่าใช่ เนื่องจากอยากให้วิดีโอมันดูน่ากลัวมากขึ้น
"แล้วคุณชื่ออะไรเหรอคะ" เป็นตาของบาสตี้ที่ต้องถามต่อเรียงตามคนไป แก้วยังคงนิ่งเช่นเดิม แต่แล้วมันก็เริ่มเคลื่อนไปทีละนิด ๆ ในตอนแรกแก้วเกือบจะเคลื่อนไปที่ตัวอักษร ส เสือ แต่ทว่ายังไม่ทันจะเลื่อนไปหยุดนิ่งที่ สอ เสือ จู่ ๆ แก้วก็สั่นอีกครั้งก่อนจะเคลื่อนที่ย้ายไปซ้ายทีขวาทีอย่างรวดเร็ว จนปลายนิ้วของปลายฝนและใบหม่อนเกือบจะไล่ตามไม่ทัน
แก้วไปหยุดที่ตัวอักษร ณ เณร และย้ายไปที่ วอ แหวน ตามติด ด้วย ดอ เด็ก และจบท้ายด้วย สระอี
ทันทีที่เห็นสระตัวสุดท้ายทั้งสี่คนเงยหน้ามองกันทันที ทับทิมหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด มือของเธอสั่นไปหมด
"มะ..มึงเลื่อนใช่ปะทิม" ใบหม่อนหันไปถามเพราะเชื่อตามที่แก้วเลื่อนบอก มันตรงกับชื่อของบ้านหลังนี้เลย เรือน ‘ณวดี’
"มึง...รอบนี้กูไม่ได้เลื่อนจริง ๆ นะเว้ย" ทับทิมเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ แววตาบ่งบอกถึงความกลัวแบบสุดขีด
"เราหยุดตอนนี้เลยดีไหม" ปลายฝนที่เริ่มรู้สึกเย็บวูบวาบ ๆ เธอรู้สึกเหมือนมีใครบางคนวิ่งรอบโต๊ะอยู่ตลอดเวลา ตึก ๆ ๆ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของใครบางคนวิ่งวนอยู่บนบ้านชั้นสอง คล้ายเสียงคนที่เดินแบบกระทืบเท้าแรง ๆ
"กูว่าหยุดเลยก็ดีนะ" บาสตี้เออออกับปลายฝนในทันที แต่จู่ ๆ แก้วก็เลื่อนไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีใครถามเลยด้วยซ้ำ
"มึง ๆ กูว่าไม่ปกติแล้วว่ะ " ใบหม่อนเริ่มลนลาน สายตาของเธอกรอกมองไปมาอย่างหวาดระแวง
แก้ววนไปมาวนมาจนกระดาษแทบจะฉีก จนท้ายที่สุดแก้วไปหยุดที่คำว่า ‘ไม่ได้’
"ไม่ ได้" บาสตี้อ่านตามคำที่แก้วเลื่อน ก่อนจะหน้าซีดไปในทันทีด้วยความกลัวมาก ๆ กับประสบการณ์เล่นผีถ้วยแก้วที่สุดแสนจะประหลาดนี้
‘ถาม’
‘ถาม’
‘ถาม’ แก้ววนซ้ำที่คำเดิมถึงสามรอบ ลมพัดเข้าปะทะผิวกายของทั้งสี่คนจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว
"อะ..เออ...คุณคือเจ้าของบ้านนี้ใช่หรือไม่" ใบหม่อนกลั้นใจเอ่ยถามต่อทันทีเพราะทั้งสี่คนเพิ่งจะเริ่มเล่นเอง ถ้าเลิกตอนนี้วิญญาณคงโกรธมากแน่ ๆ
‘ไม่ ใช่’ แก้วเลื่อนไปตามตัวอักษรและสระต่าง ๆ อีกครั้ง
ทุกคนกลับมาเงียบอีกครั้ง แก้วสั่น ๆ ควันที่จางหายไปจู่ ๆ ก็กลับมาสีเทาเข้มชัดอีกครั้ง
"...แล้วคุณเกี่ยวข้องอะไรกับบ้านหลังนี้เหรอคะ" ปลายฝนเอ่ยถามต่อเป็นคนสุดท้าย
แก้วสั่นและเลื่อนไปที่ ต เต่า สระ อา และหยุดด้วยตัวอักษร ย ยักษ์
ซึ่งรวมเป็นคำว่า... ‘ตาย’
"ตาย?" ทั้งสี่คนอุทานขึ้นมาพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"เออ...พวกเราคิดว่า ดวงวิญญาณของคุณน่าจะเหนื่อยมากแล้ว เราขอรบกวนคุณแต่เพียงเท่านี้ ดังนั้นขอเชิญคุณ" ยังไม่ทันที่ทับทิมจะเอ่ยเชิญวิญญาณออก แก้วก็หมุนวนเวียน ๆ ๆ
ครืด ครืด ๆ ๆ ไปตามกระดาษไม่สามารถผสมอ่านเป็นคำได้เลย จนไปหยุดตรงที่คำว่า ‘ไม่’
"ฉิบหายแล้ว" ใบหม่อนอุทานออกมาอย่างลืมตัว
‘เล่นต่อ ไม่งั้นพวกมึงตาย’ แก้วเคลื่อนไปตามกระดานอีกครั้งและระบุไว้ชัดเจนว่าให้เล่นต่อ ทั้งสี่คนหันมองหน้ากันอีกครั้ง
"มึง กูว่ากูไม่ขำแล้วนะเว้ย ใครเลื่อนแก้วป่าววะ" บาสตี้ที่เริ่มคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเขาแกล้งกันเอง จึงเอ่ยถามขึ้น เพราะประโยคสุดท้ายมันดูน่ากลัวอย่างไรชอบกล
"ไม่ใช่กู" ปลายฝนส่ายหน้าตอบกลับไปทันที มือหนึ่งเธอยังคงถือกล้องอยู่เลย
"ไม่ใช่เหมือนกัน" ใบหม่อนเอ่ยตอบขึ้นเป็นคนที่สอง
"ไม่ใช่กูจริง ๆ สาบานเลย" ทับทิมตอบกลับไปด้วยใบหน้าซีด ๆ เหงื่อแตกพลั่ก ๆ
ครืด ๆ ๆ เสียงแก้วสั่นไม่หยุดหลังจากที่ทุกคนไม่มีใครกล้าจะถามอะไรต่อเลย
ปัง ปึก ๆ ๆ เสียงหน้าต่างทุกบานที่เปิดอยู่กระแทกปิดเปิด ๆ ไปตามแรงลมพัดที่
ถาโถมกระหน่ำ
แก้วเริ่มเคลื่อนไปตามแผ่นกระดาษซ้ำ ๆ ซึ่งเท่าที่พอจะอ่านได้มันก็รวมเป็นประโยคที่ว่า..
‘สนุกมากไม่ใช่เหรอ’ แก้วเคลื่อนเป็นประโยคที่ยาวมากขึ้น กระดาษยับยู่ยี่เจียนจะขาดเต็มทน
"มึงกูกลัวอะ กูเอามือออกเลยได้ไหม" ใบหม่อนรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวมันน่ากลัวมาก ๆ มันเย็นยะเยือก และสัมผัสได้เลยว่ามีอะไรที่ผิดปกติไป
"ไม่ได้นะ" เพื่อนอีกสามคนขานตอบพร้อมกันทันที
"ถ้าผู้เล่นคนไหนเอามือออกจากแก้วก่อนเชิญเขาออก วิญญาณจะเข้าสิงร่างในทันที" ปลายฝนรีบเตือนเพื่อนตัวเองในทันที
"โอเค ๆ ๆ แล้วเอาไงต่อดี กูกลัวอะ" บาสตี้มองที่แก้วที่มันยังคงสั่นไม่ยอมหยุด
"พวกเราหมดคำถามแล้วค่ะ ขอบคุณมากและขอเชิญคุณออกด้วยเถอะนะคะ" ปลายฝนตัดสินใจพูดขึ้นพร้อมกับพยายามที่จะดันแก้วไปที่มุมใดมุมหนึ่งของกระดานเพื่อจบ
ครืดดดด เพล้ง!!! แก้วเคลื่อนไปมา ๆ ถูซ้ำ ๆ จนกระดาษขาดครึ่งตรงกลาง ก่อนที่จะมีมือของใครบางคนยื่นเข้ามาและบีบแก้ว
จนแตกคามือของทั้งสี่คน และควันธูปลอยออกมาจากรอยแตกร้าวนั้น ก่อนที่ไฟจะดับๆ ๆ ติด ๆ และ..
"ก็กูบอกว่าไม่ไง!!" เสียงตะคอกดังลั่นมาจากด้านหลังของปลายฝน เธอรับรู้ได้เลยว่ามีลมเย็น ๆ พัดผ่านเส้นผมของเธอ รวมไปถึง...แรงกดทับหนัก ๆ ที่หัวไหล่ด้านซ้าย
"ผะ ผี" ปลายฝนร้องลั่นโยนกล้องทิ้งทันที
"อ๊ากกกกก / กรี๊ดดด / ผีหลอกกกก / อร๊ายยยย " ทันทีที่ปลายฝนรับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่หัวไหล เธอก็สติแตกกระเจิง กรีดร้องลั่นเป็นคนแรก ก่อนที่ทั้งสี่คนก็ประสานเสียงและปล่อยมือออกจากแก้วพร้อม ๆ กัน
ทั้งสี่คนวิ่งวนไปมาอยู่ในบ้านอย่างขาดสติ บาสตี้วิ่งชนเสาใจกลางบ้านก่อนจะล้มลงไปนั่งอยู่แบบนั้น ทับทิมกับใบหม่อนกระโดดกอดกันแน่น ปึก ๆ ปัง ๆ เสียงประตูปิดเปิด ๆ พื้นไม้ลั่นขึ้นราวกับมีคนเดินอยู่มากมาย