ก่อนรุ่งสางของวันนั้น แม้ภายในคฤหาสน์ของตระกูลเนวิลล์จะเงียบสงัด ดวงไฟถูกเปิดให้ความสว่างไสวแค่เพียงไม่กี่ดวง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนที่กำลังหิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ลงมาตามบันไดบ้าน
“อยู่ไม่ได้แล้ว ทั้งฝันว่าถูกตอน ทั้งจะถูกมาดามจับแต่งงานอยู่วันสองวันนี้ เห็นทีว่าไอ้รอสส์ต้องหนีออกจากบ้านซะแล้ว”
รอสส์บ่นอุบขณะหิ้วกระเป๋าลงมาตามบันไดบ้าน แม้ภายในคฤหาสน์จะมีแสงสว่างให้เห็นแค่เพียงนิดเดียว แต่ก็ไม่กล้าเปิดไฟในบ้าน ด้วยเกรงว่ามารดาจะตื่นนอนก่อนเขาจะทันได้หนีออกจากบ้าน ขณะเดียวกันก็นึกขำตัวเอง อายุปาเข้าเลขสามแล้ว ยังต้องหอบกระเป๋าหนีออกจากบ้านเหมือนเด็กวัยรุ่นมีปัญญาทางบ้านไม่มีผิด
และเมื่อก้าวเดินมาถึงกลางบันได ก็ต้องสะดุ้งโหยง เพราะได้ยินเสียงกระซิบเรียกเบาๆ อยู่ข้างหลังตนเอง ท่ามกลางความมืด
“รอสส์! รอด้วยสิวะ”
รอสส์หันขวับไปตามที่มาของน้ำเสียง ใจเต้นตุ่มๆ ต่อมๆ นึกว่าเป็นเสียงเรียกของมารดา แต่พอเห็นว่าใครก็เอ่ยเรียกอีกฝ่ายเบาๆ
“เรอัล เรียกทำไม แล้วนายจะไปไหน”
“ก็กำลังหนีออกจากบ้านเหมือนนายนั่นแหละ”
เรอัล เนวิลล์ ผู้เป็นแฝดพี่เอ่ยตอบเบาๆ ขณะหิ้วกระเป๋าลงบันไดตามหลังน้องชายมา แล้วเอ่ยพูดต่อด้วยน้ำเสียงติดเคร่งเครียดว่า
“สายสืบบอกเราว่า ช่วงนี้มาดามแวะไปหาเพื่อนๆ ของท่านแทบจะทุกวัน เน้นเฉพาะเพื่อนที่มีลูกสาวซะด้วย เราสงสัยว่ามาดามคงไปดูว่าที่ลูกสะใภ้ ก่อนจะสู่ขอมาให้นาย”
“ไอ้บ้าเรอัล มาดามจะสู่ขอมาให้นายต่างหากเล่า”
รอสส์ตวาดด่าหน้าดำหน้าแดง กำหมัดตุ้ยท้องพี่ชายฝาแฝดด้วยความโมโห ที่จู่ๆ อีกฝ่ายก็วกกลับโยนภาระอันหนักอึ้งมาให้เขา
“เออๆ สู่ขอมาให้เราสองคนทำหน้าที่พ่อพันธุ์ผลิตลูก ผลิตหลานให้กับท่าน”
เรอัลเอ่ยแก้ไขใหม่ ซึ่งไม่ได้ฟังดูดีไปจากครั้งแรกสักเท่าไร
“เราไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่เราไม่ได้รักแน่ๆ และไม่ยอมเอาห่วงมาผูกขอด้วย ขออยู่เป็นโสด เป็นหนุ่มฮอตแห่งปีจะดีกว่า”
รอสส์ห่วงแหนชีวิตความเป็นโสดหนักหนา ร้อยไม่แต่ง พันก็ไม่แต่ง เขาขอหนีออกจากบ้านเพื่อไปตั้งหลักสักพักก่อน
ส่วนเรอัลยังทำใจไม่ได้กับการถูกจับคลุมถุงชนเพื่อทำหน้าที่พ่อพันธุ์ เพราะฉะนั้นต้องร่วมมือร่วมใจกัน ‘หนี’ ให้ถึงที่สุด
“เหมือนกันว่ะ ไอ้รอสส์ เราก็ไม่ยอมแต่งงานเด็ดขาด ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่มารดามเลือกมาให้จะใช่สเป็กของเราหรือเปล่า สำหรับเราแล้ว ต้องหุ่นเซ็กซี่เหมือนนาฬิกาทราย หน้าอกตูมๆ มองเห็นแต่ไกล และที่สำคัญต้องสมองกลวง โง่นิดๆ ไม่กล้าหือ ไม่กล้าเถียง คอยทำตามคำสั่งของเราอย่างเดียว”
“เห็นด้วยว่ะ เรอัล ต้องหาผู้หญิงที่เชื่อฟังและอยู่ใต้คำสั่งของเรา เพราะฉะนั้นเราต้องรีบหนี ก่อนจะถูกมาดามจับคลุมถุงชน”
รอสส์ลากกระเป๋าเดินทางมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย โดยมีเรอัลแฝดพี่เดินตามมาติดๆ จากนั้นก็กระซิบบอกถึงความฝันอันน่าสยดสยองของตนเองว่า
“เมื่อคืนเราฝันว่าถูกตอนน้องชายด้วย โคตรน่ากลัวเลยว่ะ เรอัล”
“ถูกตอน?” เรอัลทวนคำเลิวคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะเอ่ยถามกลั้วเสียงหัวเราะร่วน “แน่ใจหรือว่าเป็นแค่เพียงความฝัน ไหนขอจับดูหน่อยสิ ว่าน้องชายของรอสส์ เนวิลล์ยังอยู่ดีมีสุขหรือเปล่า”
ไม่ได้เอ่ยถามปากเปล่าเท่านั้น เรอัลยังคว้าหมับไปตรงกล่องดวงใจของรอสส์ในทันที ทำเอารอสส์สะดุ้งโหยงปัดมือของเขาออกแทบไม่ทัน
“ไอ้พี่ชายบ้า! ถามเฉยๆ ไม่ต้องจับพิสูจน์ก็ได้”
รอสส์ต่อว่าหน้าดำหน้าแดง รู้ทันแฝดพี่ตัวแสบว่าหากเขาไม่ปัดมืออีกฝ่ายออกซะก่อน คงถูกเรอัลแกล้งด้วยการบีบกล่องดวงใจของเขาแน่
“ก็เราหวังดีนี่หว่า อยากให้มั่นใจว่าเจ้าของชายของนายยังอยู่ครบทุกประการ ไม่ได้ถูก ‘เชือน’ ทิ้ง” เรอัลยังหัวเราะไม่เลิก ขณะเอ่ยแก้ต่างให้กับตัวเอง
“อยู่ครบ ก็บอกแล้วว่าฝัน ได้ยินชัดไหมว่าฝัน”
รอสส์ถลึงตาใส่เขียวปั้ดเน้นคำลอดไรฟัน เปลี่ยนหัวข้อในการสนทนาเพราะไม่อยากถูกพี่ชายฝาแฝดหัวเราะเยาะอีก
“นายจะหนีมาดามไปที่ไหน เรอัล”
คนถูกเอ่ยถามส่ายหน้าดิก ปฏิเสธเสียงเครียดๆ ว่า “ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหนีไปยุโรป หรือไม่ก็ไปแถบๆ ขั้วโลกเหนือ มาดามจะได้ตามหาไม่เจอ”
“เราไปด้วย ไปขั้วโลกเหนือก็ดี เรายอมหนาวตาย แต่ไม่ยอมให้มาดามจับแต่งงานแน่”
รอสส์รีบเอ่ยสนับสนุน เห็นดีด้วยกับความคิดของแฝดพี่ พลางหันซ้าย หันขวา ขณะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดไม่แพ้กัน
“รีบไปกันเถอะ เรอัล ตอนนี้ทางสะดวกแล้ว มาดามคงกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง พวกเรารีบเผ่นออกจากบ้านเถอะ”
“เห็นด้วย รอสส์ ไปกันเถอะว่ะ ก่อนจะไม่มีโอกาสได้หนีออกจากบ้าน”
ทั้งเรอัลและรอสส์กำหมัดชนกัน ขณะพาร่างใหญ่ล่ำสันก้าวเดินด้วยฝีเท้าอันแผ่วเบาผ่านห้องโถงใหญ่ เพื่อมุ่งตรงไปยังประตูบ้าน
แต่!...แฝดนรกไม่มีโอกาสได้ทำตามที่ใจต้องการ เพราะเมื่อก้าวเท้าเดินมาถึงบริเวณห้องโถงใหญ่ พวกเขาก็มีอันต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงของผู้ทรงอำนาจที่สุดในบ้าน ซึ่งลอยมากระทบโสตประสาทให้ต้องทิ้งกระเป๋าเดินทางลงพื้นอย่างหมดแรง
“รู้ได้ยังไงจ๊ะ ว่ามาดามหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง”
มาดามแคทรียากระตุกยิ้ม ขณะเค้นเสียงเอ่ยถามแกมเหน็บแนมลูกชายจอมแสบทั้งสองด้วย ดวงตาทั้งคู่จ้องมองแฝดนรกเขม็ง
“มาดาม!”
แฝดนรกตะโกนเรียกแทบจะพร้อมๆ กัน นาทีต่อมาดวงไฟทุกดวงก็ถูกเปิดให้ความสว่างไสวทั่วบริเวณบ้าน ทำให้พวกเขาเห็นมารดานั่งเป็นองค์ประธานอยู่ตรงโซฟากลางห้องโถง
“จะพากันไปไหนจ๊ะ สุดหล่อของมาดาม”
มาดามแคทรียาถามพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง ทว่าดวงตาทั้งคู่กลับกวาดมองลูกชายฝาแฝดแบบเรียงตัว ทำเอาทั้งเรอัลและรอสส์หน้าซีดเหลือสองนิ้ว