หลายวันต่อมา
คอนโด NK
สูดดดดดดดดดด
“ฮึบ!!แกทำได้จูเนียร์!!!!” ตอนนี้ฉันกำลังสูดลมหายใจเพื่อเรียกความกล้าของตัวเองเพราะวันนี้เป็นวันที่ฉันยอมรับหัวใจของตัวเองว่า...ฉันได้หวั่นไหวกับไอ้เพื่อนสนิทอย่างเกียร์มันมานานแล้วและฉันเองก็รู้ว่ามันเองก็ชอบฉันเหมือนกัน แต่จะให้ไปตกลงคบเลยมันง่ายเกินไปเพราะงั้นฉันจึงตั้งใจว่าจะจีบมันก่อน!!!
เกียร์...มันชอบฉันแต่มันก็อยู่ในขอบเขตตัวเองไม่ล้ำเส้นคำว่าเพื่อนออกมา แต่มันก็ยังดูแลและคอยเป็นห่วงรวมทั้งหวงในหลาย ๆ เรื่องด้วย เพราะงั้นฉันควรตอบแทนมันไม่ใช่เหรอ?
“มันแสนดีมาตลอดนี่น่า -/////-” เพราะงั้นฉันเลยตัดสินใจเป็นคนก้าวล้ำเส้นเข้าไป
“ยืนพูดอะไรคนเดียว?”
“อุ๊ย!!เกียร์ตกใจหมดเลยทำไมชอบเข้ามาไม่ส่งเสียฮอะ?!” ฉันร้องใจเมื่อเขาจู่ ๆ ก็พูดขึ้นทำให้ฉันพูดให้กำลังตัวเองหน้ากระจกตกใจ
“ก็ได้ยินเสียงพูดงึมงำท่องมนต์อยู่หรือไง?” เขากอดอกพิงประตูมองมาเหมือนทุกครั้ง
“ท่องมนต์?” ฉันทำหน้างงเพราะไม่เข้าใจที่เข้าจะสื่อ
“มนต์เสน่ห์ละมั้ง...” เขาหันหลังและเดินออกไปฉันอมยิ้มนิดหน่อยก่อนจะหยิบกระเป๋าและเดินตามเขาที่กำลังยืนรอที่หน้าตูพร้อมถือรองเท้าของฉันอยู่
ปึก!
“ใส่...” เขาก้มลงและสวมรองเท้าให้ฉันเขาทำแบบนี้ตลอดแหละก่อนไปเรียน
“เกียร์...” ฉันเรียกขณะที่เขากำลังผูกเชือกรองเท้าให้
“หืม?” เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ดีแล้วฉันจะได้ไม่เขิน
“ที่บอกว่าเนียร์กำลังท่องมนต์คงจะจริงนั่นแหละ เนียร์กำลังท่องมนต์ใส่ผู้ชายอยู่”
กึก! เขาชะงักไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉันอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก หึ คิดไปถึงไหนแล้วนะ?
“ใคร?” นั่นใครอาการออกขนาดนี้ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ
“เกียร์”
“เรียกทำไม...ให้ตอบว่าใคร?!” แหนะ! ความรู้สึกช้าชะมัดเลย
“เกียร์ไง^^” ฉันส่งยิ้มก่อนจะเดินออกมาเพราะว่าเขิน ไม่รู้แล้วว่าเขาจะเข้าใจไหมส่วนฉันเขินไปแล้วววว งื้อออออออ >/////บนรถ
ปึก!! เมื่อขึ้นรถมาแล้วฉันก็ทำนิ่งเหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นอย่ากะโต๊กกะต๊ากมากไปเดี๋ยวไก่ตื่น เราไปเรียนด้วยกันทุกวันแหละเพราะเกียร์บอกว่าไปเรียนที่เดียวกัน ห้องเดียวและเอารถไปทำไมเยอะแยะเปลืองน้ำมันแต่ความจริงอยากไปพร้อมฉันอ่ะดิ้~~
“หิวง่ะเกียร์มีอะไรให้กินไหม?” มีอยู่แล้วเพราะเกียร์จะเตรียมขนมปังมาให้ตลอดแต่ถามเพื่อความธรรมชาติ
“เบาะหลัง” นั่นไงว่าแล้วต้องมีฉันเลยหันไปเอื้อมหยิบถุงขนมมา
“ง่ำ-0-” ไม่ว่าเกียร์จะเตรียมอะไรมาให้มันอร่อยเสมอเลย เดี๋ยวรอบหน้าฉันเอามาฝากเกียร์บ้างดีกว่า
“ระวังติดคอ” แกร๊ด! เกียร์พูดพร้อมเปิดน้ำก่อนจะส่งมาหาฉัน
“ขอบคุณงับ^^” ฉันรับน้ำจากเกียร์มาดื่ม
“อ่ะ!” ฉันยื่นขนมปังไปให้เกียร์บ้าง
หมับ!!
“ไม่เอา~~” ฉันรีบร้องเมื่อเกียร์จะเอาไปถือเอง
“ทำไม?”
“จะป้อนไงเกียร์ขับรถไปดิ...” ฉันบอกก่อนจะจ่อขนมปังที่ปากของเขา
งับ!!
เบิกบานนนนน ^0^ เมื่อเขายอมกินขนมที่ฉันป้อนให้
“วันนี้มาแปลก” เขาพูดขึ้น
“แปลกยังไงอะ?” งับ! ฉันถามพร้อมกัดขนมปังอันเดียวกันกับของเกียร์ไม่มีรังเกียจ
“ปกติหวงของกินจะตาย”
“วันนี้ป้อนเกียร์...” กึก! เขาชะงักไปเมื่อเห็นว่ากำลังกินขนมอันเดียวกับของเขา
“แค่อยากป้อนนนนนน^0^”
วันต่อมา
มหาวิทยาลัย L
“โอ๊ยยยยยย เกียร์” ตอนนี้เรากำลังนั่งอยู่ที่โรงอาหารของคณะและฉันกำลังวางแผนหยอดเพื่อนอีกแล้ว
“เป็นอะไรไหนเกียร์ดูดิ?!” หมับ! เขาที่นั่งข้างฉันเสมอก็จับตัวหันไปดูเพราะอยู่ ๆ ฉันก็ร้องขึ้นมา
“จะใจ...” ฉันแกล้งพูดอย่างติดขัด
“ใจเป็นอะไร...ต้องไปโรงพยาบาลไหมวะ?!” เหมือนว่าเขาจะเป็นห่วงจริง ๆ นะเนี่ยเพราะงั้นรีบเฉลยดีกว่า เพราะเหมือนว่าเพื่อนในกลุ่มเองก็เริ่มสีหน้าไม่ดี
“ใจหาย...”
“หาย?”
“หายไปอยู่เกียร์...^^” ฉันบอกก่อนจะยิ้มออกมา
“โหยยยยย~ พวกกูก็นึกว่าเป็นอะไร?!” โป๊ก!! เอสมันยื่นมือมาเขกหัวของฉัน
“หึ” เสียงของอีฟขำในลำคอมันคงจะรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่
“เล่นอะไรวะเนียร์ตกใจหมด” หมับ! ฉันจับหน้าของเกียร์ก่อนจะปลอบใจ
“โอ๋ ๆ น้าล้อเล่นน่า~~” ลืมไปเลยว่าเขาขี้เป็นห่วงฉันมาก ๆ พอแกล้งแบบนี้เลยตกใจเป็นห่วง
“ทีหลังห้ามเล่นแบบนี้” เขาชี้หน้าของฉันพร้อมออกคำสั่ง
“รับทราบค่ะ!!!”