ตอนที่ 3 ก็ชอบเขา
“จอดที่ร้านนี้ก่อนตาลม” คุณนายพิมพ์พรเอ่ยบอกลูกชายยิ้ม ๆ
“ร้านดอกไม้นี่เหรอครับ” หันไปมองมารดาก่อนจะชะลอความเร็วของรถและแวะจอดที่หน้าร้านดอกไม้
“ปู่ลูกชอบดอกกุหลาบขาวแม่จะซื้อไปใส่แจกัน” คุณนายพิมพ์พรพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะเปิดประตูลงไปในร้านดอกไม้ที่ตัวเองชอบมาบ่อย ๆ มันทั้งร่มรื่นและดอกไม้ก็สวยสดทุกดอก
เวหามองมารดาเดินเข้าไปในตัวร้านแล้ว เขากวาดสายตามองรอบ ๆ ก็ต้องพยักหน้ารับว่าร้านดอกไม้แห่งนี้ออกแบบได้ดูธรรมชาติจริง ๆ ดอกไม้หลากสีต้นไม้เขียวขจีด้านล่างด้านบนคือส่วนดอกแข่งกันบานรับแสงแดดสลับสี มีหลากหลายสายพันธุ์ คนปลูกต้องเอาใจใส่ขนาดไหนดอกไม้ในสวนถึงออกดอกเท่ากันแบบนี้
“ครับแม่” เขายกโทรศัพท์ขึ้นรับก่อนจะกรอกเสียงไปตามสายได้ความว่าคุณนายพิมพ์พรรีบจนลืมเอากระเป๋าเงินลงไปด้วย วานให้ตนเดินเอาไปให้ที่ในร้าน
มองหากระเป๋าของแม่เลี้ยงก่อนจะคว้ามาถือไว้แล้วเปิดประตูตวัดขาลงจากรถ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ร้านกลิ่นหอมของดอกไม้ตีจมูกจนต้องหยุดยืนแล้วสูดดมมันเข้าเต็มปอด มุมปากหยักเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ไม่เคยรู้มาก่อนว่าด้านล่างเขามีร้านดอกไม้ที่ตนต้องขับมาจากไร่พร้อมรักเพราะปู่ลื่นล้มในห้องน้ำตอนนี้แอดมิทที่โรงพยาบาล ต่อให้เป็นหลานที่แย่แต่เขาไม่ใช่จะใจแข็งไม่ดูดำดูแดงผู้เป็นปู่เลย
“แม่ กระเป๋า”
“ขอบคุณจ้ะ” คุณนายพิมพ์พรคลี่ยิ้มก่อนจะแอบชำเลืองมองแผ่นหลังบางหันหน้าเข้าที่วางดอกไม้หลากหลายพันธุ์ไม่ได้มองมาที่ตนกับลูกชายยืนอยู่ “เอาดอกกุหลาบขาวยี่สิบดอกค่ะ”
อาหลีหมุนตัวกลับมาตามเสียงก่อนจะเบิกตากว้างและเป็นจังหวะเดียวกันที่สายตาคู่นั้นตวัดมามองที่เธอเหมือนกัน เราสองคนยืนสบตากันนิ่งงันอยู่แบบนั้นหลายวินาทีก่อนที่เธอจะเห็นว่าเขาคนนั้นกระตุกยิ้มมุมปาก มันดูมีเสน่ห์ ดูน่าค้นหา ดูน่ามอง แม้ถ้ามองให้ดีมันจะเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ยก็ตาม
“กุหลาบขาวยี่สิบดอกห่อแล้วค่ะ”
“ขอบคุณจ้ะ” คุณนายพิมพ์พรหันไปมองลูกชายเอาแต่มองเจ้าของร้านนิ่ง ๆ ตนเอะใจแต่ก็ต้องเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ “ไปกันเถอะตาลม”
“ครับ” เขาพยักหน้ารับก่อนจะละสายตาจากผู้หญิงคนนั้น คนที่เป็นอันไปไหนก็ต้องเจอ บนพร้อมรักรีสอร์ตเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แต่อยู่ดี ๆ ก็หายไปเลย ไม่คิดว่าจะได้เจออีกแล้วเพราะเขาไม่ปรารถนาที่จะได้เจอทั้งในตอนนี้ อนาคต หรือชาติหน้า
เราไม่ควรเจอกันอีก!
“พี่อาหลีใครกันคะ หล่อมากเลยทำงานที่นี่มาสามปีหนูไม่เคยเจอใครหล่อบาดใจขนาดนี้มาก่อน” น้ำฝนหลังจากคิดเงินเสร็จก็กระดี๊กระด๊าทันที เมื่อกี้เธอเกือบลืมหายใจแน่ะ ตอนที่เขาคนนั้นเปิดประตูเข้ามา
“ไม่รู้สิจ๊ะ” เธอเลือกที่จะตอบโกหกทั้งที่รู้จักเขาดีกว่าใครเลยแหละ
“อยากรู้จักจังเลย มากับคุณนายพิมพ์พรไร่เติมรักข้างบนเขานี่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ หรือว่าทำงานแถวนี้โอมเพี้ยงมาที่ร้านบ่อย ๆ ด้วยเถอะ แค่เห็นหน้าหนูก็มีกำลังใจทำงานไปอีกเดือนแล้ว” น้ำฝนทำหน้าเพ้อฝันจริงจังปลาบปลื้มลูกค้าคนเมื่อกี้มาก มาด แมน แฮนซั่ม ของแท้ “หล่อแบบของแรร์หล่อแบบหายากบนโลกเลยค่ะ”
อาหลีส่ายหน้าให้กับคำเยินยอของน้ำฝนแต่ก็เถียงไม่ได้จริง ๆ เขายังหล่อเหมือนวันแรกที่เธอรู้จักเมื่อสิบปีก่อนและอาการเธอก็เหมือนน้ำฝนในตอนนี้ เก็บเขาเข้ามาอยู่ในใจตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้าเลยก็ว่าได้
“งานที่ว่าก็คืออย่างนี้แหละ” เจ๊โสมแม่เล้าภายในคลับดังในตัวเมืองมองหน้าเพื่อนสาวของตัวเองแล้วได้แต่กุมขมับ “มึงคิดดี ๆ คิดอีกรอบ”
“ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว ชีวิตฉันมันต้องสู้เท่านั้น” อาหลีเงยหน้ามองเพื่อนตัวเองก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา แต่ใครที่มองมาก็รับรู้ได้เลยว่ามันเป็นรอยยิ้มของคนที่เหนื่อย สิ้นหวัง อ่อนแอ
“งานไม่มีอะไรมากหรอก แค่เสิร์ฟเหล้าลูกค้าในห้องวีไอพีคอยดูแลเวลาเหล้าหรือกับแกล้มหมด ทิปอย่างต่ำก็หมื่นเลยนะ” เจ๊โสมล็อกงานเงินดีไม่เปลืองตัวไว้ให้เพื่อนของตัวเอง เธออยู่ในวงการสีเทานี้มานานรู้ว่างานจุดไหนเป็นยังไง ตอนที่อาหลีมาขอให้ช่วยตกใจจนข้าวติดคอ
“ขอบคุณมากนะที่ชี้ทางรอดตายให้ฉัน” อาหลีอยากก้มกราบเพื่อนก็ได้ในตอนนี้ ภาระหนี้สินก้อนใหญ่กำลังจะทับคอเธอ ตอนนี้แม้ไม่ตายก็หายใจรวยริน “บุญคุณครั้งนี้ฉันจะไม่ลืมเลย”
“บุญคุณอะไรแกก็เคยช่วยฉันรอดตายมาแล้ว เพื่อนกันก็ต้องช่วยกัน ไปเตรียมตัว ๆ ทำตามที่ฉันบอกแล้วจะไม่อันตรายกับตัวแกเอง”
“ขอบคุณนะ” ว่าจบก็ต้องแยกย้ายกันเพราะเพื่อนก็ต้องไปดูเด็กคนอื่น เธอจึงเดินเข้าห้องเปลี่ยนยูนิฟอร์มเป็นแบบของทางร้านก่อนจะออกมายืนมองตัวเองในกระจก
เสื้อที่รัดติ้วกับกระโปรงยาวแค่คืบกว่า แม้นี่คือชุดที่ดีที่สุดแล้ว แต่ก็อย่างว่างานแบบนี้มันต้องแต่งตัวประมาณนี้อยู่แล้วเพื่อเอาใจลูกค้า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาทำงานเสิร์ฟเหล้าแต่มักจะขอเพื่อนทำในตอนที่หมุนเงินไม่ทันจนกลายเป็นเชือกรัดคอตัวเองถ้าฝืนต่อก็คงเชือดคอตัวเองขาด ต้องหาเงินร้อนที่ได้มาเร็วตอนนั้นเพื่อนเมาแล้วเอ่ยแนะนำงานนี้ด้วยความสงสาร นี่เป็นครั้งที่สามที่เธอจนปัญญาจนถึงต้องขอร้องเพื่อน ไม่หวังจะใช้งานนี้เป็นช่องทางรวยแค่หนี้ก้อนนี้หมดเธอก็จะได้ใช้ชีวิตดี ๆ อีกครั้งเหมือนคนอื่นเขา
ขึ้นมาบนชั้นสองมองหาเลขห้องที่ต้องทำงานในคืนนี้หลังจากเจอจึงเปิดประตูเข้าไปเบา ๆ ตอนนี้ลูกค้ายังไม่มาแต่เครื่องดื่มสำหรับลูกค้าวีไอพีต้องจัดไว้ในระดับหนึ่งและรอให้ลูกค้าสั่งเอง เธอเช็ดโต๊ะตรวจเช็กรอบห้องตามปกติจนคิดว่าห้องพร้อมที่จะต้อนรับลูกค้าแล้ว
เอี้ยวตัวไปมองกระจกสะท้อนเงาของตัวเองในตอนนี้ ความรู้สึกหนักอึ้งที่กำลังได้รับและไม่มีใครมาช่วยแบ่งเบาทำได้เพียงยิ้มให้กำลังใจตัวเองผ่านกระจกเท่านั้น
จะว่าตัวเองโชคดีก็คงใช่เพราะลูกค้านอกจากจะใจดีแล้วยังทิปหนักอีกต่างหาก หลังจากเสร็จงานตรวจเช็กว่าลูกค้าออกจากห้องแล้วลืมอะไรไว้หรือเปล่าถ้าไม่มีก็ถึงเวลาเลิกงานของเธอบ้างแล้ว
“ตอนกลางวันเป็นเจ้าของร้านจัดดอกไม้ให้ลูกค้า ตอนกลางคืนกลับมาจัดให้ลูกค้าอีกแบบ เปิดหูเปิดตาผมพอควรเลยนะครับ”
อาหลีที่พึ่งจะเปิดประตูออกมาสตั๊นกับคนปรากฏตัวด้านหน้าไม่พอเคียงข้างเขายังมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนมองดูจากยูนิฟอร์มก็คือผู้หญิงของที่นี่ เขาคงมาซื้อกินสินะ
“ไม่ตอบเหรอ?” ไม่รู้ว่าทำไมต้องหงุดหงิดขึ้นมา มองดูชุดรัดติ้วไปทุกสัดส่วนขนาดนั้นไม่อึดอัดเหรอถามจริง “ถนัด ‘จัด’ นี่เอง”
“…” สะอึกกับคำพูดของคนตรงหน้าเหมือนกันไม่คิดว่าเขาจะแซะเธอแรงขนาดนี้ ได้แต่ก้มหน้าจิกเล็บเข้าที่อุ้งมือตัวเองเพื่อระบายอารมณ์
“หึหึ” เขาต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดไม่อย่างนั้นคงจะเผลอกระชากอีกคนมาตะคอกถามว่าใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง
“เดี๋ยวคะ” เธอใจกล้าวิ่งไปตัดหน้าเขาไว้ก่อนจะเม้มปากเป็นเส้นตรง บอกตัวเองให้หยุดสั่น “ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญาที่บอกว่าจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดนะคะ”
พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปทันที มันเหมือนภาพบาดตาที่เขาควงผู้หญิงอื่นสนิทแนบชิด อาจเป็นเพราะคนที่ยังรู้สึกอยู่แบบเธอมันเกิดอาการหึงหวงทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน
เวหามองคนวิ่งไปแล้วยูนิฟอร์มที่เธอใส่แยกระดับชัดเจน แบบเมื่อกี้คงเป็นพนักงานชงเหล้าธรรมดาในห้องวีไอพี เขาเลิกสนใจเพราะมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่ต้องให้ความสนใจกับผู้หญิงคนนั้น
“ว่าไงได้เท่าไหร่วันนี้” เจ๊โสมเดินเข้ามาหาเพื่อนตัวเองที่ห้องเปลี่ยนชุด
“ห้าหมื่นได้เยอะมากเห็นว่านักธุรกิจจากจีน” แย้มยิ้มสรวลพรุ่งนี้จะได้นำเงินก้อนนี้ไปปิดดอกสักที
“จะมาอีกไหมจะได้คัดลูกค้าไม่บ้ากามให้” ห้องวีไอพีมีทั้งพวกที่มาเรื่องอย่างว่าโดยเฉพาะ แต่บางกลุ่มก็มาคุยธุรกิจสังสรรค์กันธรรมดา อยากให้เพื่อนได้ลูกค้าดี ๆ จะได้ไม่โดนลวนลาม เจอลูกค้าดีก็ดีไป
“เงินเก็บฉันหมดไปกับการจ่ายดอก เงินในส่วนของร้านฉันไม่อยากเจียดมาใช้ในเรื่องแบบนี้”
“ฉันเข้าใจแก เอาเป็นว่าจะมาตอนไหนก็โทรบอกล่วงหน้าสักสองชั่วโมงนะ”
“ขอบคุณมากนะเจ๊โสม”
“อือ รีบกลับเถอะ ฉันจะไปรายงานบอสก่อน”
“โอเค”
บอกลาเพื่อนเสร็จสำรวจการแต่งตัวของตัวเองว่ารัดกุมปิดมิดชิดทุกส่วนหรือยัง จะได้ไม่ไปล่อตาพวกเสือพวกตะเข้เข้า
“พ่อเลี้ยงรู้จักผู้หญิงคนเมื่อกี้ด้วยเหรอคะ คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นเจ้าของร้านแถวชานเมือง” หญิงสาวเบียดตัวเข้าไปใกล้คนบนเตียง ออดอ้อนออเซาะเอาใจ
“แค่คนเคยรู้จัก”
“แฟนเก่าเหรอคะ?”
“ไม่ถึงกับคบกัน” แต่ก็ทำให้ชีวิตเขาเป๋ไปช่วงหนึ่งเหมือนกัน แม้ไม่ได้คบหาใช้คำว่าแฟน แต่สำหรับอาหลีในช่วงเวลานั้นเป็นมากกว่าแฟนสำหรับเขา
“อยากเสร็จที่ไม่ใช่แค่ปากไหมคะ?” พึ่งเคยเจอคนชอบรสนิยมแบบนี้มาก่อน ไม่สอด ไม่เสียบ แค่ปากและร่องนมเท่านั้น
“ไม่ อยากได้เท่าไหร่”
“แล้วแต่จะเอ็นดูเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มพราย อดเสียดายไม่ได้ ของดีของใหญ่นาน ๆ ทีจะเจอเกือบเป็นบุญกีบารมีอีเด็กขาย แต่คนจ่ายบอกว่าไม่ต้องการเรื่องอย่างว่า “เรียกมัดหมี่ได้ตลอดนะคะ นอกสถานที่ก็รับ”
เวหาไม่ได้สนใจอีกลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินออกจากห้องไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเรียกใช้บริการผู้หญิง แต่มันจะจบลงที่ปลายลิ้นและร่องนมเป็นอย่างนี้มาห้าปีแล้วที่เขาไม่มีอารมณ์ร่วมอยากมีเซ็กซ์กับผู้หญิงคนไหนเลย ไม่ใช่ว่าลูกชายเขาป่วยแต่เขาคิดว่าคนที่ป่วยคือเขาเอง
แปลกอยู่เหมือนกันที่มาเจออาหลีอยู่ที่นี่ แถมยังอยู่ใกล้กันแบบขับรถผ่านอาจจะเจอหน้าทุกวันอีก แม้จะแปลกใจแต่ไม่ได้สงสัย ไม่อยากรู้ชีวิตผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ไม่อยากเลยสักนิด!