“ทำไมเสื้อผ้าเลอะโคลนอย่างนั้นล่ะลูก” พลอยขวัญที่เดินออกมาจากห้องครัวเห็นสภาพลูกสาว จึงเอ่ยถามอย่างตกใจ
“เจอพวกคนรวยไร้มารยาทบนถนนน่ะค่ะ ขับเหยียบน้ำใส่แถมไม่ขอโทษสักคำ”
“ไม่โดนเฉี่ยวอะไรใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ มินยืนอยู่บนทางเท้า แต่รถคันนั้นขับแล้วเหยียบน้ำจนกระเด็นมาใส่ ตามจริงเปื้อนขาด้วย แต่มินล้างออกไปหมดแล้ว”
“คนรวยพวกนี้ไร้มารยาทจริงๆ” พลอยขวัญอดรู้สึกโกรธแทนไม่ได้
“รีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านะลูก พอดีอาบน้ำเสร็จ อาหารเย็นคงเสร็จพอดี”
“ค่ะแม่” เธอเดินขึ้นบันไดไม้ไปบนชั้นสองของบ้าน เลี้ยวไปทางขวามือก็เจอห้องตัวเองพอดี มือเอื้อมไปเปิดลูกบิดประตูแล้วผลักเข้าไปข้างใน ก่อนจะวางของทุกอย่างลงบนเตียงนอนให้หมด
หัวเสีย
หงุดหงิดไปหมด
นี่มันแบดเดย์ชัดๆ
เมื่อเช้าตื่นสายเกือบไปสอบไม่ทัน เลิกเรียนเจอพวกคนรวยขับเหยียบน้ำใส่ ไม่รู้ไม่ได้ตั้งใจหรือจงใจ เพราะยังจอดอยู่สักพัก ราวกับมองเธออยู่บนรถ เธอเป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยอะไรกับใคร แต่ใช่ว่าพอเจอเรื่องแบบนี้แล้วจะใจเย็นลงได้
ทุกคนย่อมอารมณ์เสีย หงุดหงิด เป็นเรื่องปกติ
มินมินเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายที่เหนียวเหนอะหนะจากเหงื่อ คราบน้ำสกปกรกจากการถูกเหยียบน้ำใส่ ขัดถูจนตัวสะอาดหอมอีกครั้ง หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วจึงเดินลงมาข้างล่างเพื่อทานอาหารเย็นกับครอบครัว
“สอบเป็นไงบ้างลูก” อาธิปถามลูกสาวเป็นเรื่องปกติถึงชีวิตในมหาลัย
“ข้อสอบง่ายมากค่ะ หลับตายังทำได้เลย”
คนเป็นพ่อกับแม่ต่างอมยิ้ม หลังจากได้ยินคำตอบจากลูกสาว มินมินไม่อยากให้พ่อแม่รู้ว่าตัวเองเกือบทำข้อสอบส่งอาจารย์ไม่ทันจึงพูดเป็นเรื่องตลก
พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ต้องไปดูตัว ดูว่าที่…สามี
เร็วเหมือนกัน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็พรุ่งนี้แล้ว ทำไมเวลาถึงเดินเร็วขนาดนี้ เธอไม่อยากไปเลย แต่มันเป็นทางเดียวที่สามารถปกป้องครอบครัวจากผู้ชายจิตใจอมหิตคนนั้น
หล่อซะเปล่า แต่นิสัยดันขัดกับหน้าตา
“ลูกชายเพื่อนพ่อคนนี้…พ่อเคยเจอมาก่อนไหมคะ”
“ไม่เคย เคยเห็นแต่ลูกสาวคนเล็กกับลูกชายคนโต คนนี้เป็นลูกคนกลาง เกิดและโตที่ต่างประเทศ เรียนที่ต่างประเทศเลย พ่อไม่เคยเจอลูกชายคนนี้ของปวริศ” เท่าที่รู้มาคร่าวๆ ลูกชายคนนี้ของปวริศไม่ค่อยชอบออกงานสังคม อาจจะมีออกงานบ้าง แต่เพราะไม่ได้สนใจมากนักจึงไม่ได้ตามสืบเรื่องลูกชายปวริศ
อาธิปลอบมองลูกสาวที่นั่งเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ม รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าคือสิ่งที่อยากเก็บรักษาเอาไว้ การแต่งงานครั้งนี้คงขโมยรอยยิ้มสดใสจากแก้วตาดวงใจของเขาไป แต่พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว…
ที่ดินผืนนั้นเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ ยอมยกให้ปวริศแบบฟรีๆ แลกกับการช่วยครอบครัวของเขาให้รอดพ้นอันตราย นี่เขาทำอะไรลงไป เชื่อว่าหากเขาย้อนเวลากลับไปได้คงเลือกทำแบบเดิม
•••
“เห้อออ” เธอเอนกายนอนแผ่หลาบนเตียงนอนหนานุ่ม พร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ วันนี้กินข้าวเยอะมาก ใช้พลังงานไปเยอะบวกกินข้าวเที่ยงน้อย จึงทำให้เธอกินเยอะกว่าทุกวัน อีกอย่างฝือมือของแม่อร่อยด้วยเลยกินได้เยอะ
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเข้าอินสตาแกรม กดดูสตอรี่ของเทียนหอม สองคนนั้นเปลี่ยนจากชุดนักศึกษามาเป็นชุดทั่วไป สถานที่ที่สองคนนี้ไปคือบาร์ใจกลางเมือง มีแต่พวกคนมีเงินและไฮโซทั้งนั้น เทียนหอมกับคัพเค้กจัดอยู่ในหมวดคนรวยคนนึง เพราะที่บ้านทำธุรกิจ
รสชาติของการเป็นลูกคนรวยนี่…เป็นยังไงนะ
ครอบครัวเธอเคยรวยมากๆ มาก่อน แต่ช่วงนึงเกิดวิกฤตทำให้ล้มละลาย จากคนเคยมีทุกอย่าง กลายเป็นไม่มีอะไร พ่อทำงานรับจ้าง ส่วนแม่ขายขนมและข้าวแกง
เธอบอกกับตัวเองว่า วันนึงจะต้องเอาทุกอย่างของครอบครัวกลับคืนมาให้ได้! ครอบครัวของเธอจะต้องกลับไปมีอีกครั้ง
เอ๊ะ!
เธอตกใจเล็กน้อย สังเกตสตอรี่ของเทียนหอมดีๆ ถ่ายติดผู้ชายคนนึงที่เดินผ่านไป ย้อนกลับดูใหม่ซ้ำๆ ว่าใช่ไหม สรุปว่าใช่จริงๆ ผู้ชายในสตอรี่ที่เทียนหอมถ่ายติด คือคนเดียวกับที่บุกมาบ้านของเธอวันนั้น
โลกอะไรจะกลมขนาดนี้…
มินมิน : ระวังผู้ชายคนนั้นด้วยนะ เขาเป็นคนไม่ดี
เธอตอบกลับสตอรี่ของเทียนหอมอย่างหวังดี
เทียนหอม : คนไหน?
มินมิน : คนที่เดินผ่านข้างหลังแกไง เขาเป็นคนไม่ดี ระวังตัวด้วย
เทียนหอม : ไม่ม้างง หล่อขนาดนี้
เทียนหอม : ถ้าแกชอบ เดี๋ยวขอไอจีให้เอามะ?
มินมิน : ไม่เอาๆ ฉันไม่ได้ชอบ
เธอรีบพิมพ์บอกเทียนหอม ใครจะชอบคนที่เอาปืนมาจ่อหัวพ่อตัวเอง มีแต่พวกโรคจิตเท่านั้นแหละที่ชอบคนเลว แต่เขาไม่ใช่แค่เลวอย่างเดียวนะ จิตใจยังโหดเหี้ยมอมหิตอีกด้วย
น่ากลัว…